คอนเทนต์ขายของ มีกี่แบบ ทำยังไงให้น่าสนใจ มีเทคนิคทำคอนเทนต์อะไรบ้างให้ขายดี

คอนเทนต์ขายของ มีกี่แบบ ทำยังไงให้น่าสนใจ

คอนเทนต์ขายของ

ปัจจุบันต้องยอมรับว่า คอนเทนต์ขายของ นั้นเป็นส่วนสำคัญของการทำธุรกิจ โดยเฉพาะการทำธุรกิจออนไลน์ การทำคอนเทนต์ขายของออนไลน์ให้น่าสนใจ จึงเป็นสิ่งที่นักการตลาดออนไลน์หรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต้องให้ความสำคัญ โดยคอนเทนต์ขายของนั้นมีอยู่หลากหลายประเภทมากๆ ที่ได้รับความนิยม สำหรับธุรกิจไหนที่กำลังมองหาวิธีการสร้าง Content ให้มีความแตกต่าง โดนใจลูกค้า วันนี้ Packhai ได้รวบรวมเอาความรู้และเทคนิคในการสร้างคอนเทนต์สำหรับขายของมาฝากกัน

Contents hide

คอนเทนต์ขายของ มีกี่ประเภท

เนื่องจากปัจจุบันนั้นมีช่องทางและแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ต่างๆ มากมายให้เลือกใช้งาน ซึ่งในแต่ละแพลตฟอร์มเองก็จะมีจุดเด่น และรูปแบบของคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมแตกต่างกันไป โดยประเภทของคอนเทนต์ขายของที่นิยมใช้งานกัน จะมีดังนี้

1.คอนเทนต์ขายของประเภทให้ความรู้

คอนเทนต์ขายของประเภทให้ความรู้เป็นคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ มีเนื้อหาสาระดีๆ บอกเล่าสาระความรู้ให้กับผู้อ่าน เป้าหมายคือการสร้างการรับรู้และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ตัวอย่างคอนเทนต์ขายของประเภทให้ความรู้ เช่น How to เทคนิควิธีแก้ปัญหาต่างๆ หรือการนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เป็นต้น   

2.คอนเทนต์ขายของที่กระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม

คอนเทนต์ขายของที่กระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม คอนเทนต์ประเภทนี้จะชักจูงให้ลูกค้าเกิดความสนใจในเนื้อหาจนอยากเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ตัวอย่างคอนเทนต์ขายสินค้าที่กระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม เช่น การเขียนคอนเทนต์ให้ลูกค้ารู้สึกอยากมีส่วนร่วม ด้วยการกดไลค์ กดแชร์หรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ เนื้อหาในคอนเทนต์อาจนำเสนอของรางวัลต่างๆ ที่น่าสนใจไว้สำหรับมอบให้กับผู้ที่มีส่วนร่วมหรือผู้โชคดี 

3.คอนเทนต์ขายของแบบปิดการขาย

ตัวอย่างคอนเทนต์ขายของแบบปิดการขาย เช่น คอนเทนต์ที่เป็นกิจกรรมส่งเสริมส่งเสริมการขาย โปรโมชั่น ส่วนลดต่างๆ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ช่วยกระตุ้นความสนใจของลูกค้าหรือผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี ทำให้มีโอกาสปิดการขายได้มากขึ้น โดยการนำเสนอโปรโมชั่นหรือส่วนลดต่างๆ อาจอยู่ภายใต้ระยะเวลาจำกัด เพื่อทำให้ผู้ซื้อต้องรีบตัดสินใจซื้อทันที เพื่อให้ได้ส่วนลดหรือโปรโมชั่นนั้นๆ    

ตัวอย่างคอนเทนต์ขายของ รูปแบบที่ได้รับความนิยม

ตัวอย่างคอนเทนต์ขายของ รูปแบบที่ได้รับความนิยม

1.การเขียนคอนเทนต์ขายของรูปแบบบทความ

คอนเทนต์ขายของที่อยู่ในรูปแบบของบทความหรือตัวหนังสือก็ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน โดยตัวอย่างการเขียนคอนเทนต์ขายของรูปแบบนี้นิยมทำเป็น Content เขียนรีวิว หรือเขียนเปรียบเทียบสินค้า ให้ผู้ซื้อได้ศึกษาหาข้อมูลด้วยตนเองได้ แม้หลายคนจะมองว่าคอนเทนต์ในรูปแบบบทความไม่น่าสนใจ แต่ถ้าเขียนคอนเทนต์ขายของให้ดี เขียนให้โดนได้ก็มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเป็นอย่างมากเลยทีเดียว   

2.การทำคอนเทนต์ขายของรูปแบบภาพ

คอนเทนต์ขายของรูปแบบภาพก็ได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่าคอนเทนต์รูปแบบอื่นๆ มักจะมีการนำเอาข้อความไปตัดต่ออยู่บนรูปภาพ ช่วยสร้างการรับรู้ได้ดีขึ้น ข้อดีของคอนเทนต์ในรูปแบบนี้ก็คือเป็นคอนเทนต์ที่ทำให้เข้าใจง่าย ยิ่งถ้าเป็นข้อความหรือคำคมเด็ดๆ บนภาพยิ่งกระตุ้นให้เกิดการกดแชร์ได้ง่ายขึ้น

คลิกอ่านเพิ่มเติม: 4 เทคนิคถ่ายรูปสินค้าอย่างไรให้ปัง ขายดี ไม่มีบ้ง

3.การสร้างคอนเทนต์ขายของรูปแบบวิดีโอ

คอนเทนต์รูปแบบวีดีโอถือว่ามาแรงมากๆ จะเห็นได้ว่าแต่ละแบรนด์พยายามนำเสนอคอนเทนต์รูปแบบวีดีโอมากขึ้น เนื่องจาก Content รูปแบบนี้สามารถบอกเล่าเรื่องราวได้หลายอย่างทำให้มองเห็นภาพ ได้ยินเสียง เห็นการเคลื่อนไหวและสามารถเข้าถึงอารมณ์ได้ดี โดย Content ตัวอย่างคอนเทนต์ขายของรูปแบบวิดีโอ เช่น คอนเทนต์ขายของกิน แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในการทำคอนเทนต์แบบวิดีโอ เพราะต้องมีการใส่ความคิดสร้างสรรค์และดำเนินเรื่องให้อยากดูจนจบ ไม่รู้สึกเบื่อ

4.การทำคอนเทนต์ขายของรูปแบบไลฟ์สด

คอนเทนต์ขายของที่เป็นรูปแบบของการไลฟ์สด ยกตัวอย่างเช่น คอนเทนต์ขายเสื้อผ้า ได้รับความสนใจไม่แพ้คอนเทนต์รูปแบบอื่นๆ เลยการไลฟ์สดช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าได้เป็นอย่างดีเป็นคอนเทนต์เรียลไทม์ ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้มากขึ้น

คลิกอ่านเพิ่มเติม: Live commerce คืออะไร ทำไมจึงอยู่ในเทรนด์ขายของออนไลน์

คอนเทนต์ขายของออนไลน์ มีความสำคัญอย่างไร

คอนเทนต์ขายของออนไลน์ มีความสำคัญอย่างไร

คอนเทนต์ขายของออนไลน์นั้นถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์รูปแบบไหน ถ้าอยู่ถูกที่ ถูกเวลา ถูกช่องทาง และที่สำคัญถ้าเนื้อหาในคอนเทนต์นั้นๆ โดดเด่นและน่าสนใจ แน่นอนว่าจะกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้มาก การขายของในอดีตอาจต้องไปเคาะประตูที่หน้าบ้านเพื่อขอให้ลูกค้าซื้อสินค้า แต่ปัจจุบันนั้นไม่ใช่อีกแล้ว เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ถ้าคิดคอนเทนต์ให้ปังและโดนใจลูกค้า เพียงคอนเทนต์เดียวก็สามารถพลิกธุรกิจให้ปังได้เกินความคาดหมาย นอกจากนี้การทำคอนเทนต์หรือโพสต์ที่มีคุณภาพ มีความน่าสนใจลงบนแพลตฟอร์ม Social Media ต่างๆ ก็จะช่วยเพิ่มการมองเห็นและการเข้าถึงได้ แถมยังช่วยป้องกันการถูกแบน หรือโดน Facebook ปิดกั้นการมองเห็นได้

ประโยชน์ของการสร้างคอนเทนต์ขายของให้น่าสนใจ

เนื่องจาก Content ขายของนั้นถือเป็นสิ่งที่ธุรกิจยุคนี้ต้องทำแล้ว การสร้างคอนเทนต์สินค้า ไม่ว่าจะเป็นการเขียนคอนเทนต์ขายของ รูปภาพ หรือวิดีโอโปรโมทสินค้า ก็ยังมีประโยชน์อีกหลายอย่างต่อธุรกิจ ดังนี้

  • ทำให้คนจดจำแบรนด์หรือสินค้าได้
  • ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ
  • ช่วยเพิ่มยอดขายสินค้า
  • เพิ่มความน่าสนใจให้กับสินค้า
  • เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า
  • สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
  • เป็นช่องทางสำคัญในการบอกเล่า Brand Story

แพลตฟอร์มต่างกัน การคิดคอนเทนต์ขายของก็ต่างกันด้วย

อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าในแต่ละแพลตฟอร์มนั้นมีจุดเด่น และรูปแบบของคอนเทนต์ที่แตกกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะของแพลตฟอร์ม วัตถุประสงค์การใช้งาน และที่สำคัญคือพฤติกรรมของผู้ใช้งานที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งรูปแบบคอนเทนต์ขายของในแต่ละแพลตฟอร์ม จะมีรายละเอียดดังนี้

E-Commerce

สำหรับรูปแบบคอนเทนต์ที่รับความนิยมใน E-Commerce มีทั้งคอนเทนต์ที่เป็นรูปภาพ คลิปวีดีโอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอนเทนต์ในรูปแบบของบทความเป็นการให้ความรู้ การให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับลูกค้าหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ 

Facebook

Facebook เป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน และยังเป็นแพลตฟอร์ม Social Commerce ที่คนนิยมใช้ขายของอีกด้วย คุณสามารถสร้าง Content บน Facebook ได้หลากหลายรูปแบบ การสร้างคอนเทนต์ขายของในเฟสบุ๊คสามารถแสดงผลลัพธ์ได้ค่อนข้างมีเสถียรภาพมากกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ เลยก็ว่าได้ แถมยังมีฟีเจอร์มากมายที่ช่วยสนับสนุนในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและการวัดผล ติดตามผล 

Instagram

Instagram เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ใช้สื่อสารที่ทรงพลัง คอนเทนต์ที่นิยมใช้สำหรับการขายของในไอจี คือคอนเทนต์รูปภาพและคลิปวีดีโอ อาจเป็นการนำเสนอสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ การนำเสนอแบรนด์ส่ วนลด โปรโมชั่น เน้นใส่ราคาไว้บนรูปภาพ ให้คนเห็นเพียงสั้นๆ แต่รับรู้ได้เลย  

Twitter

Twitter อีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่มีคนใช้งานมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มวัยรุ่น โดยคอนเทนต์สำหรับใช้ขายของใน Twitter จะนิยมใช้คอนเทนต์ขายของที่เป็นรูปภาพและข้อความสั้นๆ กระชับ อ่านแล้วเข้าใจง่าย การสร้างคอนเทนต์ใน Twitter ยังนิยมติดแฮชแท็กด้วย 

TikTok

TikTok เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน และมีฟังก์ชั่นที่เอาใจร้านค้าหรือคนขายของออนไลน์อย่าง TikTok Shop ให้ใช้งานและสามารถลงโฆษณาใน TikTok ได้อีกด้วย โดยรูปแบบ Content จะเป็นคอนเทนต์วีดีโอสั้นตั้งแต่ 5 วินาทีไปจนถึง 1 นาที เน้นการสื่อสารที่มีเนื้อหาเข้าใจง่าย สนุกสนานและสร้างความประทับใจแบบ First Impression

มีช่องทางขายหลายช่องทาง จัดการกับออเดอร์ลูกค้าจำนวนมากๆ ไม่จดผิด ลดการเกิดออเดอร์ตกหล่น เช็คสต๊อก ตัดสต๊อกได้อย่างสะดวกด้วย ระบบจัดการออเดอร์และคลังสินค้าในที่เดียวจาก Packhai – ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : คลิกที่นี่

Packhai ระบบจัดการออเดอร์และคลังสินค้าในหนึ่งเดียว

เทคนิคการสร้างคอนเทนต์ เขียนคอนเทนต์ให้ปัง มีอะไรบ้าง

1.ศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า

อยากสร้างคอนเทนต์ขายของให้ปังไม่ยาก ขั้นตอนแรกต้องรู้และศึกษาพฤติกรรมหาความต้องการของลูกค้า โดยต้องรู้ก่อนว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร จากนั้นค่อนมาศึกษาพฤติกรรมว่าเป็นแบบไหน อายุเท่าไหร่ เพศอะไร ต้องการอะไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ลูกค้าของเราส่วนใหญ่เข้ามาใช้งานแพลตฟอร์มต่างๆ ช่วงเวลาไหนบ้าง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาใช้ในการสร้าง Content และเขียนคอนเทนต์ขายของให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น รวมถึงใช้ในการวิเคราะห์หาช่วงเวลาโพสต์คอนเทนต์ ที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากๆ อีกด้วย

2.วางแผนการทำคอนเทนต์ขายของ

ขั้นตอนต่อมาคือการวางแผนทำคอนเทนต์ว่าจะทำ Content ในรูปแบบใด มีเนื้อหาอย่างไรบ้าง วางพล็อตเรื่องสำหรับทำหรือเขียนคอนเทนต์ขายสินค้า เลือกรูปแบบ และเนื้อหาของคอนเทนต์สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจมากที่สุด อย่างเช่น วัยกลางคน คอนเทนต์ควรดูมีความน่าเชื่อถือ หากกลุ่มลูกค้าเป็นวัยรุ่น คอนเทนต์ต้องสนุกสนานกระชับได้ใจความ เป็นต้น

3.กำหนดรูปแบบคอนเทนต์ให้เหมาะกับแพลตฟอร์ม

การกำหนดรูปแบบของคอนเทนต์ให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์มก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ในแต่ละแพลตฟอร์มรูปแบบการทำ คอนเทนต์ที่เหมาะสมนั้นแตกต่างกันออกไปตามที่เราได้ให้คำแนะนำไปแล้วในข้างต้น เช่น Instagram ควรใช้คอนเทนต์ที่เป็นรูปภาพ หรือคลิปสั้นๆ  Tiktok ควรเน้นคอนเทนต์ที่เป็นรูปแบบวีดีโอสั้นๆ สร้างความบันเทิง และหากเป็นเว็บไซต์หรือเพจ Facebook ก็ควรมีทั้งการเขียนคอนเทนต์ขายสินค้า รูปภาพ และวิดีโอประกอบกัน เป็นต้น 

4.ใช้หัวเรื่องให้น่าดึงดูด

หัวเรื่อง Content หรือการพาดหัวข้อต้องคิดให้ดี ทำให้หัวเรื่องน่าสนใจเป็นเหมือนประตูด่านแรกที่ช่วยดึงดูดลูกค้า คุณอาจนำ keyword ที่จะทำ Content ไป Research ข้อมูล หรือ Search Google ได้ว่าต้องตั้งหัวข้อแบบไหน โดยตัวอย่างการเขียนคอนเทนต์สินค้า เช่น เทคนิคช่วยให้คุณหยุด…เพื่อสิ่งที่ดี , ทริคในการ… , วิธีแปลกๆ ในการ…แต่ได้ผล เป็นต้น 

5.ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ไม่กำกวม

ในการเขียนคอนเทนต์ขายของ เนื้อหาควรใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย อ่านแล้วไม่กำกวมหรือไม่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกสับสน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณครูวัยกลางคนจนถึงผู้สูงอายุ การทำคอนเทนต์คุณสามารถใช้สัญลักษณ์หรืออีโมจิเพื่อดึงดูดความสนใจได้แต่อย่าใช้เยอะจนเกินไป 

6.อย่าลืมส่วน Call to Action

วิธีสร้างคอนเทนต์ขายของให้ปังและประสบความสำเร็จ ควรเขียนคอนเทนต์ขายของให้มี Call To Action หรือปุ่มกระตุ้นความรู้สึกไว้ด้วย โดยสามารถทำให้ออกมาอยู่ในรูปแบบปุ่ม ป้ายหรือการทำกราฟฟิกแบบใดแบบหนึ่งก็ได้ ซึ่งอาจจะพาไปที่เว็บไซต์ หน้าร้านขายสินค้าโดยเฉพาะ หน้าสมัครสมาชิก หรือหน้าลงทะเบียน

ต้องยอมรับว่า คอนเทนต์ขายของ มีความสำคัญมากๆ ในการทำธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจออนไลน์ เพราะนอกจากคอนเทนต์จะทำหน้าที่ในการให้ข้อมูล สร้างการรับรู้แล้ว ก็ยังช่วยให้เกิดการมีส่วนร่วมของลูกค้า และช่วยปิดการขายได้อีกด้วย โดยแต่ละแพลตฟอร์มออนไลน์นั้นจะมีรูปแบบ Content ที่แตกต่างกันออกไป จึงควรเลือกทำคอนเทนต์ให้เหมาะสม ซึ่งหากธุรกิจสามารถทำคอนเทนต์ให้ออกมาโดนใจลูกค้าได้ ก็ย่อมมีโอกาสขายสินค้าได้มากขึ้นนั่นเอง

และหากธุรกิจมียอดขายเข้ามามาก จนเกิดปัญหางานล้นมือ เช่น แพ็คของไม่ทัน ออเดอร์หรือพัสดุตกหล่น และจัดส่งสินค้าล่าช้า ฯลฯ การมองหาตัวช่วยในการทำงานอย่างคลังสินค้าออนไลน์ระบบ Fulfillment ที่จะช่วยจัดการงานหลังบ้านทั้งหมดให้กับธุรกิจ ตั้งแต่การเก็บ แพ็ค ไปจนถึงการจัดส่งสินค้า ช่วยอำนวยความสะดวก ประหยัดเวลา และลดต้นทุนในการทำงานได้เป็นอย่างดี – อยากรู้ว่า Fufillment BY Packhai ดียังไง? : คลิกที่นี่

บริการ Fulfillment Packhai

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *