เทรนด์การซื้อขายแบบ Shoppertainment คืออะไร ? มีความน่าสนใจอย่างไร ทำไมถึงได้รับความนิยม

Shoppertainment คืออะไร

Shoppertainment คืออะไร ?

Shoppertainment คือ การผสมผสานกันระหว่าง Entertainment (ความบันเทิง) + Commerce (การค้า) เมื่อทั้งสองผนวกเข้าด้วยกันจึงกลายเป็นการสร้างยอดขายด้วยความบันเทิง ถือเป็นกลยุทธ์การขายที่น่าสนใจมากๆ ในตอนนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะแนวคิดการสร้างยอดขายจากความบันเทิงนี้เป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าช่วยดึงดูดความสนใจ บางครั้งลูกค้ารู้สึกเพลิดเพลินสนุกสนานจนลืมไปเลยว่ากำลังถูกขายของ ซึ่งการตลาดในลักษณะนี้ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้เป็นอย่างดี โดยไม่พยายามยัดเยียดสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้ามากเกินไปนั่นเองค่ะ

Shoppertainment แบบออฟไลน์กับออนไลน์ แตกต่างกันอย่างไร

Shoppertainment แบบออนไลน์สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าแบบออฟไลน์ คุณจะขายของที่ไหนก็ได้ ทุกที่ทุกเวลา การสร้างยอดขายด้วยการเน้นสร้างความบันเทิงทำได้บนหลายแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น TikTok, Facebook รวมถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่นๆ สามารถใช้กลยุทธ์นี้ได้เหมือนกัน เช่น Shopee, Lazada เป็นต้น โดยเฉพาะแพลตฟอร์ม TikTok Shop ที่มาแรงในตอนนี้

จุดเด่นและความน่าสนใจของ Shoppertainment

Shoppertainment มีจุดเด่นอย่างไร มีความน่าสนใจหลายอย่างเลยทีเดียวมันเป็นโมเดลการช้อปปิ้งยุคใหม่เลยก็ว่าได้ สำหรับจุดเด่นและความน่าสนใจ มีดังนี้

1.ช่วยกระตุ้นยอดขายได้ดี

Shoppertainment ไม่ใช่การขายของธรรมดาหรือมุ่งเน้นไปที่การขายเพียงอย่างเดียว การพยายามยัดเยียดสินค้าหรือบริการให้ลูกค้าทำให้ลูกค้าเบื่อหน่ายหรือรู้สึกรำคาญ แต่เน้นไปที่ความบันเทิงก่อนอันดับแรกหลังจากนั้นจึงค่อยขายของตามหลัง วิธีนี้ช่วยกระตุ้นยอดขายได้ดีและทำให้มีโอกาสขายได้มากขึ้น

2.สร้างกระแสทำให้เกิดการแชร์ต่อ

การสร้างความบันเทิงให้กับลูกค้าในระหว่างการช้อปปิ้ง ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดี เมื่อลูกค้ารู้สึกสนุกสนาน เพลิดเพลินหรือเกิดความประทับใจพวกเขาจะเกิดการแชร์ต่อหรือบอกต่อกันไปเรื่อยๆ ที่เรียกว่าการตลาดแบบปากต่อปาก ทำให้มีคนรู้จักสินค้าหรือบริการของคุณมากขึ้น มีโอกาสทำยอดขายได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน

สร้างการรับรู้แบรนด์

3.สร้างการรับรู้แบรนด์

การสร้างยอดขายด้วยความบันเทิงหรือ Shoppertainment นอกจากคุณจะได้ยอดขายที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นคือ มีคนรู้จักแบรนด์ของคุณมากขึ้น ช่วยสร้าง Brand Awareness ให้มีคนจดจำแบรนด์ของคุณได้หรือเรียกว่า การจดแบรนด์ที่ดี สำหรับแบรนด์ใหม่ที่พึ่งเข้ามาตีตลาดยังมีคนรู้จักแบรนด์ไม่มากต้องการให้ลูกค้าจดแบรนด์ การสร้างยอดขายด้วยความบันเทิงช่วยได้แน่นอน

4.ลูกค้าประทับใจไม่เบื่อ

การทำคอนเทนต์ขายของอย่างวิดีโอสั้นๆ หรือจะเป็นการไลฟ์ขายของออนไลน์ ช่วยกระตุ้นความสนใจของลูกค้าได้มากกว่าคอนเทนต์แบบอื่นๆ เพราะวิดีโอมีทั้งภาพเคลื่อนไหวและเสียงทำให้ได้อรรถรสมากกว่าคอนเทนต์รูปแบบอื่นๆ ยิ่งเป็นคลิปขายของที่เน้นสร้างความบันเทิงคนยิ่งดูเยอะ ลูกค้าแทบไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกขายของให้

5.มี AI ช่วยดันคลิปให้

ทำคอนเทนต์สนุกคนดูเยอะเพราะ AI ช่วยดันคลิปให้ โดยเฉพาะคนที่ทำคลิปลง Tiktok สงสัยไหมว่าทำไมคลิปของเราคนดูไม่เยอะเลย ขายของไม่ค่อยได้อาจเป็นเพราะคลิปของเรายังไม่น่าสนใจหรือไม่ก็ผิดกฎบางอย่าง การทำคอนเทนต์สนุกๆ ไม่ผิดกฎ คนมักจะหยุดดูคลิปจนจบ สิ่งนี้เองที่ AI ปลิ้ม รวมถึงการที่มีคนเข้ามาส่วนร่วมกับคอนเทนต์ของคุณด้วย AI จะดันคลิปให้คุณโดยที่คุณไม่ต้องเสียตังโฆษณาเลย

ตัวอย่างแพลตฟอร์มที่ใช้ Shoppertainment

ตัวอย่างแพลตฟอร์มที่ใช้ Shoppertainment

ยกตัวอย่างแพลตฟอร์มที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดเลย คือ TikTok บางแอ็กเคาท์ใช้กลยุทธ์ Shoppertainment เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค ช่วยกระตุ้นยอดขาย โดยเน้นที่การเอนเตอร์เทรนผู้ชม เช่น ร้องเพลง โชว์เต้น หรือโชว์ตลกสร้างเสียงหัวเราะ สร้างยอดการรับชมและดึงดูดให้ผู้ชมเข้ามามีส่วนร่วมหรือ Engagement หลังจากนั้นจึง Tie-in สินค้าหรือบริการแบบแนบเนียนด้วยการกล่าวถึงสินค้าเล็กๆ น้อยๆ ปิดท้าย หรือจะเป็นการโปรโมทสินค้าด้วยการแต่งเพลงแรป แทนที่จะกล่าวถึงสินค้าแบบธรรมดา

ซึ่งในปี 2022 ประเทศไทยของเรา การตลาดแบบ Shoppertainment สร้างมูลค่าได้มากถึง 1.1 แสนล้านบาทเลยทีเดียว ปัจจุบันแพลตฟอร์มอื่นๆ กำลังพัฒนาหันมาใช้กลยุทธ์นี้เหมือนกัน เช่น Lazada, Shopee รวมถึง Facebook

คอนเทนต์ที่ดีตามหลัก Shoppertainment ควรมีองค์ประกอบอะไรบ้าง

เราจะสร้างคอนเทนต์ อย่างไรให้ปัง คอนเทนต์ที่ดีตามหลัก Shoppertainment ต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง ซึ่งควรมี 5 องค์ประกอบหลักๆ ดังนี้

1.ความบันเทิงและสาระ

การตลาดแบบ Shoppertainment คอนเทนต์ที่ดีจะต้องมีองค์ประกอบหลักๆ คือ ความสนุกสนานและความบันเทิง นอกจากนั้นแล้วผู้ชมหรือผู้บริโภคต่างคาดหวังว่าจะเห็นคอนเทนต์ที่มีทั้งความบันเทิงความสนุกสนาน บวกกับข้อมูลที่มีประโยชน์ด้วย พวกเขาต้องการเสพสิ่งที่สร้างความบันเทิงและสาระไปพร้อมๆ กัน

2.วิดีโอเข้าใจง่ายและชัดเจน

ผู้บริโภคชอบคอนเทนต์ในรูปแบบของวิดีโอมากกว่าคอนเทนต์ในรูปแบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นคลิปสั้นๆ การรีวิว การไลฟ์สดขายของ เพราะให้อรรถรสมากกว่าให้ความตื่นตาตื่นใจ อย่างไรก็ตาม คอนเทนต์วิดีโอจะต้องสื่อสารแบบเข้าใจง่ายและชัดเจน หากมีการเรียบเรียงเพลงและดนตรีให้เข้ากับเนื้อหา ยิ่งกระตุ้นความสนใจได้ดี

3.คอนเทนต์น่าเชื่อถือและมความแตกต่าง

การตลาดแบบ Shoppertainment องค์ประกอบที่สำคัญ คอนเทนต์จะต้องมีความน่าเชื่อถือและมีความแปลกใหม่สร้างความแตกต่างไม่เหมือนใคร มีเอกลักษณะเฉพาะตัว อย่างเช่น การให้รายละเอียดหรือข้อมูลของสินค้าที่ถูกต้อง ดูน่าเชื่อถือ มีความเป็นมืออาชีพหรือการกล่าวถึงบุคคลดังที่ใช้สินค้าหรือบริการนั้นๆ

ให้อิสระการเลือกและการตัดสินใจ

4.ให้อิสระการเลือกและการตัดสินใจ

ผู้บริโภคต่างคาดหวังอย่างมากว่าแบรนด์จะไม่ยัดเยียดสินค้าหรือบริการให้พวกเขา พวกเขาต้องการความเป็นอิสระในการเลือกสินค้าหรือใช้บริการ ทำให้ไม่รู้สึกกดดัน และสิ่งที่แบรนด์ควรทำคือ ทำให้ผู้บริโภคเล็งเห็นถึงประโยชน์จากการซื้อสินค้าหรือบริการ สร้างสรรค์เนื้อหาที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค มุ่งเน้นการสร้างความรู้สึกที่ดี ความประทับใจหรือทำให้ผู้บริโภคระลึกถึงความหลังช่วยกระตุ้นให้เกิดความตื่นเต้นพร้อมกับสร้างความสุขในเวลาเดียวกัน

5.ให้ความสำคัญกับออนไลน์คอมมูนิตี้

แบรนด์ไม่ควรละเลยหรือมองข้ามเสียงของผู้เชี่ยวชาญใน Online Community เป็นการดึงดูดให้ผู้คนที่สนใจสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ได้มาร่วมพูดคุยกันเกี่ยวกับแบรนด์ feedback ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นข้อมูลสำคัญที่แบรนด์สามารถนำไปปรับปรุงแก้ไขหรือสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่โดนใจผู้ชมมากขึ้นในอนาคต

ปัจจุบันเทรนด์การซื้อขายสินค้าแบบ Shoppertainment กลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจและสร้างยอดขายมหาศาลให้กับแบรนด์ต่างๆ โดยใช้หลักการขายที่เน้นไปที่ความบันเทิง สร้างความเพลิดเพลินให้ความสนุกสนาน และช่วยกระตุ้นความสนใจได้มากกว่าการขายแบบธรรมดา ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยค่ะ ว่าทำไมการขายรูปแบบนี้ถึงกำลังฮิตติดลมบนมากๆ และช่วยสร้างยอดขายให้กับธุรกิจมากมายเลย

และสิ่งต่อมาที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ควรจัดการให้ดี ก็คือ ถ้ายอดขายปังๆ ออเดอร์เข้ารัวๆ แล้วไม่มีพื้นที่เก็บสินค้า ไม่ที่คนช่วยแพ็คของ จะทำอย่างไรดี ? ควรจะจ้างคนมาช่วยไหม หรือจะใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์อย่าง Fulfillment Packhai ที่เป็นบริการคลังสินค้าช่วยเก็บ แพ็ค และจัดส่งสินค้า แบบครบจบในที่เดียว พร้อมระบบหลังบ้านช่วยจัดการงานแบบมืออาชีพ ซึ่งตรงส่วนนี้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ก็ต้องเปรียบเทียบต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้ดีค่ะ เพื่อให้สามารถเลือกทางออกที่ตอบโจทย์กับธุรกิจได้จริงๆ

อยากรู้ว่าคลังสินค้าออนไลน์ Fulfillment Packhai ดีกว่าเจ้าอื่นยังไง ? : คลิกที่นี่

ราคาค่าบริการ fulfillment

ทดลองใช้บริการ Fulfillment

Fulfillment ตัวช่วยคนขายของออนไลน์ ที่ช่วยลดต้นทุนการขายสินค้า ลดเวลาการทำงาน มีเวลาโฟกัสยอดขายได้มากขึ้น

สมัครใช้บริการ คลิกดูค่าบริการ

ติดต่อเรา PACKHAI : Packhai.com/contact

เบอร์โทร : 097-267-9487

เฟสบุ๊ค : Packhaiofficial

อีเมล : cs@packhai.com

ไลน์ : @packhai

ยูทูป : PACKHAI Fulfillment

ติ๊กตอก : @packhai

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *