การจัดการสต๊อกสินค้า คืออะไร มีวิธีจัดการสต๊อกสินค้าอย่างไรให้เป็นระบบ ช่วยลดข้อผิดพลาดต่างๆ

การจัดการสต๊อกสินค้า คืออะไร

การจัดการสต๊อกสินค้า

ปัจจุบัน การจัดการสต๊อกสินค้า กับการขายสินค้าไม่ว่าจะเป็นช่องทางออฟไลน์ หรือช่องทางออนไลน์ นั้นมีความเกี่ยวข้องกันอย่างมาก เพราะหากธุรกิจมีระบบสต๊อกสินค้า และวิธีจัดสต๊อกสินค้าที่ดี ก็จะช่วยให้การทำงานต่างๆ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยให้สินค้าในคลังเป็นระบบระเบียบ ลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดในการทำงาน เรียกได้ว่าการจัดการสต๊อกนั้นถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจในยุคนี้เลยก็ว่าได้

Contents hide

การจัดการสต๊อกสินค้า คืออะไร ?

การจัดการสต๊อกสินค้า (Stock Mangement) คือ การบริหารจัดการสินค้าในสต๊อก การติดตามสินค้าให้พอดีกับความต้องการของลูกค้าเสมอ หรือให้เพียงพอต่อการขาย สินค้าที่ว่านี้อาจเป็นสินค้าที่ขายอยู่หน้าร้านหรือเป็นวัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหาร และเครื่องดื่มต่างๆ ก็ได้ การจัดการสต๊อกสินค้ามีวัตถุประสงค์หลักๆ ก็คือ

  • จัดสต๊อกสินค้าเพื่อให้พอดีกับความต้องการของลูกค้าหรือยอดออเดอร์ในการสั่งซื้อ
  • การจัดการสต๊อกสินค้าช่วยลดค่าใช้จ่ายในการกักตุนสินค้าหรือการสต๊อกวัตถุดิบ
  • การจัดการสต๊อกสินค้าช่วยลดต้นทุนสินค้าคงคลังที่ไม่จำเป็น
  • การจัดการสต๊อกสินค้าช่วยตัดปัญหาสินค้าคงคลังที่ไม่มีการเคลื่อนไหวหรือเรียกว่า Dead Stock
  • การจัดการสต๊อกสินค้าช่วยป้องกันปัญหาสินค้าหมดอายุ
  • การจัดการสต๊อกสินค้าช่วยให้การขายรันได้อย่างต่อเนื่อง
  • จัดสต๊อกสินค้าเพื่อรองรับความต้องการของตลาด
  • เราจัดสต๊อกสินค้าเพื่อทำให้รู้ว่าเมื่อไหร่ควรสั่งสินค้าเพิ่มเติม
ทำไมต้องจัด Stock สินค้า ประโยชน์ของการจัดการสต๊อกสินค้า มีอะไรบ้าง

ทำไมต้องจัด Stock สินค้า ประโยชน์ของการจัดการสต๊อกสินค้า มีอะไรบ้าง ?

เมื่อได้รู้แล้วว่าการจัดการสต๊อกสินค้าคืออะไร แล้วทุกคนเคยสงสัยไหมว่า ทำไมต้องจัดการสต๊อกสินค้าด้วย การจัดการสต๊อกสินค้านั้นทำไปเพื่ออะไร มีความสำคัญอย่างไร เราจะอธิบายเป็นข้อๆ เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจและมองเห็นภาพได้ง่ายขึ้น

1.ช่วยเพิ่มกำไรและกระแสเงินสดให้กับธุรกิจ

การจัดการสต๊อกสินค้ามีส่วนช่วยให้กระแสเงินสดดีขึ้น กระแสเงินสดหรือ Cash Flow นับตั้งแต่การที่เงินไหลเข้า ไหลออกหรือเงินหมุนเวียนในร้านค้า ในหนึ่งเดือนหากมีเงินไหลเข้ามากกว่าเงินไหลออก กระแสเงินสดจะนับเป็นบวก แต่ถ้ามีเงินไหลออกมากกว่าเงินไหลเข้า ก็หมายความว่ามีรายจ่ายมากกว่ารายรับ กระแสเงินสดก็จะเป็นลบนั่นเอง

การมีระบบจัดการสต๊อกสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้กระแสเงินสดดีขึ้น เพราะ Stock ก็เปรียบเหมือนสินค้าที่คุณจ่ายเงินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นหมายความว่าคุณสามารถนำสินค้าไปขายเพื่อให้ได้เงินกลับคืนมา ดังนั้นการสต๊อกสินค้าจึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อยอดขายและค่าใช้จ่าย ที่สำคัญเมื่อคุณมีระบบการจัดการสต๊อกสินค้าที่ดี คุณก็จะสามารถเช็คสต๊อกได้อย่างแม่นยำและสามารถคาดการณ์ยอดขายได้ รู้ว่าเมื่อไหร่ควรสั่งสินค้าเพิ่ม ไม่เพียงแต่ช่วยให้กระแสเงินสดคุณดีขึ้น แต่ยังช่วยให้คุณสามารถวางแผนบริหารจัดการสินค้าได้ดีขึ้นด้วย

2.ช่วยป้องกันการเกิดสินค้าค้างสต๊อกหรือ Dead Stock

หากสินค้าในคลังสินค้าไม่มีความเคลื่อนไหวเป็นเวลานานๆ หรือเรียกอีกอย่างว่า Dead Stock  อาจเป็นสินค้าหมดอายุหรือสินค้าที่ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด หากมีการสต๊อกสินค้าประเภทนี้มากจนเกินไป ก็อาจจะส่งผลเสียให้สินค้าขายไม่ออก และค้างอยู่ในสต๊อกจำนวนมาก ดังนั้นการจัดการสต๊อกสินค้าจะสามารถทำให้คุณรู้ว่าสินค้าตัวไหนที่ไม่เคลื่อนไหว แทนที่คุณจะสต๊อกไว้ให้เปลืองพื้นที่ คุณสามารถนำมาจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายได้

3.ช่วยให้ตรวจเช็คสินค้าหมดอายุหรือเน่าเสียได้ดีขึ้น

การจัดสต๊อกสินค้า สามารถช่วยป้องกันสินค้าเน่าเสียหรือสินค้าที่กำลังจะหมดอายุได้ โดยเฉพาะสินค้าจำพวกอาหารหรือเครื่องสำอางที่หมดอายุ ยิ่งมีการจัดการสต๊อกสินค้าที่ถูกต้องและแม่นยำ ก็ยิ่งช่วยป้องกันการเน่าเสียและช่วยให้สต๊อกวัตถุดิบได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น

4.ช่วยลดต้นทุนการจัดการคลังสินค้า

การเก็บสต๊อกสินค้าในคลังสินค้า แน่นอนว่าย่อมมีต้นทุนและค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเช่า เงินเดือนพนักงาน ค่าเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ยิ่งคุณไปเช่าโกดัง ค่าใช้จ่ายอาจผันผวนไปตามจำนวนสินค้าที่จัดเก็บได้ การสต๊อกสินค้ามากจนเกินไป โดยที่สินค้าประเภทนั้นๆ ขายไม่ค่อยได้ อาจทำให้ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บสูงขึ้น ทางที่ดีควรบริหารจัดการสต๊อกสินค้าให้ดีและเป็นระบบ จะได้ประหยัดเงินในส่วนนี้

คลิกอ่านบทความเพิ่มเติม

วิธีการจัดสต๊อกสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

5 วิธีการจัดสต๊อกสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดข้อผิดพลาดในการทำงาน

1.วางแผนล่วงหน้าก่อนจัดสต๊อกสินค้า

อนาคต คือ สิ่งที่ไม่มีใครคาดการณ์ได้ ดังนั้นคุณจำเป็นต้องมีการวางแผนล่วงหน้าในการจัดการสต๊อกสินค้า ไม่อย่างนั้นคุณอาจพบปัญหาต่างๆ มากมาย เช่น สินค้าขายดีจนขาดสต๊อก ไม่มีพื้นที่เพียงพอในการจัดเก็บสินค้า Supplier ไม่มีสินค้าให้ เป็นต้น นอกจากนั้นคุณยังต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่าร้านค้าของคุณมีความเสี่ยงด้านไหนบ้าง เพื่อจะได้วางแผนเตรียมตัวรับมือให้ดี

2.ความแม่นยำในการคาดการณ์

ความแม่นยำในการคาดการณ์ คือ สิ่งสำคัญที่สุดในการจัดการสต๊อกสินค้า คุณต้องสามารถคาดการณ์ความต้องการของตลาดได้อย่างแม่นยำ แม้ว่าการคาดการณ์เป็นเรื่องที่ทำได้ยากเพราะมีหลายปัจจัย แต่คุณควรมีการคำนวณให้ใกล้เคียงมากที่สุด เช่น เมื่อคุณสามารถคาดการณ์เทรนด์การตลาดหรือความต้องการสินค้าได้แล้ว จะสามารถสต๊อกสินค้า เพื่อรองรับตลาดได้แบบเพียงพอ

3.สร้างความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์ให้ดี

ผู้จัดจำหน่ายสินค้าให้กับคุณหรือ supplier เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในการจัดการสต๊อกสินค้า คุณจะต้องสร้างความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์ให้ดีไว้ก่อน เพราะหากสินค้าขาดสต๊อก คุณก็สามารถที่จะเรียกสินค้าจาก supplier ได้อย่างรวดเร็วหรือแม้แต่การคืนสินค้าที่ขายไม่ออก

4.ใช้รูปแบบการจัดเก็บและหยิบสินค้าแบบ FIFO

รูปแบบการจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้า นั้นมีผลอย่างมากต่อการจัดการสต๊อกสินค้า เนื่องจากหากมีรูปแบบการจัดเก็บที่ดี นอกจากจะช่วยให้สินค้าเป็นระเบียบแล้ว ก็ยังช่วยให้หาสินค้าได้ง่าย สามารถหยิบและเคลื่อนย้ายได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น โดยรูปแบบการจัดเก็บและหยิบสินค้าที่ได้รับความนิยม คือ FIFO (First-In First-Out) เป็นการจัดเก็บและหยิบสินค้าตามลำดับการเข้ามายังคลังสินค้า พูดง่ายๆ คือ สินค้าชิ้นไหนที่เข้ามาเก็บก่อน ตอนหยิบก็จะหยิบสินค้าชั้นนั้นออกไปก่อน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดปัญหาเรื่องสินค้าหมดอายุหรือเน่าเสียได้

5.ใช้ระบบหรือโปรแกรมจัดการสต๊อกสินค้า

หากคุณต้องการจัดการสต๊อกสินค้าให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจต้องใช้เทคโนโลยีอย่างระบบจัดการสต๊อกสินค้าหรือโปรแกรมสต๊อกสินค้าเข้ามาช่วย เช่น ระบบ WMS (Warehouse Management System) ระบบที่ถูกพัฒนาและออกแบบมาช่วยในด้านการบริหารจัดการคลังสินค้าทำให้คุณสามารถติดตามสินค้าแต่ละตัว รู้สถานะของสินค้า รู้ตำแหน่งที่จัดเก็บ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถค้นหาสินค้าเจอได้ง่าย อีกทั้งยังทำให้รู้เลยว่าสินค้าจะหมดอายุเมื่อไหร่ ถูกขายออกไปแล้วหรือไม่ คุณสามารถที่จะเติมเต็มสินค้าที่ขาดสต๊อก หรือจัดการกับสินค้าในสต๊อกที่มีจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ซึ่งนอกจากระบบ WMS จะช่วยบริหารจัดการงานต่างๆ ในคลังสินค้าแล้ว ก็ยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับระบบจัดการออเดอร์(Order Management System) และระบบหลังบ้านของร้านค้าออนไลน์ได้ด้วย เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสต๊อกสินค้ากับข้อมูลออเดอร์และคำสั่งซื้อไว้ด้วยกัน ทำให้เมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้าเข้ามา ธุรกิจก็จะสามารถตรวจเช็คสินค้า ตัดสต๊อก และส่งข้อมูลมายังคลังสินค้า เพื่อทำการแพ็คและจัดส่งสินค้าได้ทันที

คลิกดูข้อมูลและฟีเจอร์เพิ่มเติม : ระบบจัดการออเดอร์และคลังสินค้าในที่เดียว By Packhai

จะเห็นได้ว่า การจัดการสต๊อกสินค้า นั้นมีความสำคัญอย่างมากกับการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะการทำธุรกิจออนไลน์ที่ต้องมีการจัดเก็บสต๊อกสินค้าจำนวนมาก เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการซื้อของลูกค้า เพราะหากไม่มีจัดการ Stock สินค้าให้ดี ก็อาจจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการทำงาน เสียเวลา และมีต้นทุนที่ไม่จำเป็นเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นปัจจุบันธุรกิจหรือร้านค้าออนไลน์ส่วนใหญ่จึงมีการนำระบบสต๊อกสินค้าเข้ามาใช้ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

หากธุรกิจไหนที่มีออเดอร์เยอะๆ แต่มีพื้นที่จัดเก็บสินค้าไม่พอ หรือแพ็คและส่งของไม่ทัน อยากแนะนำให้ลองใช้บริการ Fulfillment หรือ บริการคลังสินค้าออนไลน์ ที่ให้บริการพื้นที่สต๊อกสินค้า มีพนักงานแพ็คสินค้าที่รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี พร้อมทั้งมีบริการรถขนส่งสินค้าที่รวดเร็วด้วย คุณสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ มีเวลาโฟกัสกับการขายมากขึ้น และสามารถใช้เทคโนโลยีอย่าง WMS เข้ามาบริหารจัดการสต๊อกสินค้าได้แบบเรียลไทม์ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บริการ Fulfillment ได้เลยที่นี่

คลิกอ่านเพิ่มเติม : บริการ Fulfillment PACKHAI ดีกว่าอย่างไร รับรองว่าตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ 100%

บริการ Fulfillment Packhai

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *