การทำดรอปชิป – Dropship คือ อะไร มีลักษณะเป็นอย่างไร ข้อดี-ข้อเสียมีอะไรบ้าง

การทำดรอปชิป Dropship คือ อะไร

Dropship คืออะไร

การทำ Dropship (ดรอปชิป) คือ การขายสินค้าของคนอื่นหรือการนำเอาสินค้าของคนอื่นมาจำหน่าย โดยที่เราไม่จำเป็นต้องรับประกันสินค้า แต่สามารถบวกกำไรเข้าไปในสินค้านั้นๆ ได้เมื่อทำ Dropship หรือจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เราเป็นตัวแทนขายสินค้า ที่ใช้เงินลงทุนไม่เยอะเปรียบเหมือนการจับเสือมือเปล่า โดยนำสินค้าจากต้นทางหรือสินค้าจากเจ้าของโรงงานไปขายต่อนั่นเอง 

Contents hide

การทำดรอปชิป มีลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง

ลักษณะการทำ Dropship หรือการหารายได้จากดรอปชิป คือ การนำเอารูปสินค้าหรือลักษณะของสินค้านั้นๆ ที่เราต้องการขายไปโพสลงบนโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์ จากนั้นเมื่อมีคนสนใจหรือลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้านั้นๆ เมื่อลูกค้าจ่ายเงินค่าสินค้า ผู้ขายที่ทำดรอปชิบจะต้องนำเงินไปซื้อสินค้าจากร้านค้าจริง เพื่อส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้า รายได้ที่แท้จริงมาจากส่วนต่างค่าสินค้า 

ยกตัวอย่างการ Dropship ที่สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ ก็คือ สมมติว่าคุณโพสขายสินค้าราคาชิ้นละ 100 บาท เมื่อรับเงินจากลูกค้ามา 100 บาท จากนั้น นำเงิน 100 บาท ไปซื้อสินค้าที่มีราคา 80 บาท กำไรของคุณก็คือ 20 บาท นั่นเอง  

โดยสรุป Dropship ก็คือ ร้านค้าผู้ทำหน้าที่เป็นคนซื้อสินค้าจากร้านค้าจริง เพื่อส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าเหมือนกับตัวแทนจำหน่ายสินค้า โดยมีการนำรูปสินค้า หรือรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้านั้นๆ ไปโพสขายตามเว็บไซต์  โซเชียลมีเดีย หรือแอพพลิเคชั่นขายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่างๆ ร้านค้าที่ทำ Dropship ไม่ต้องลงทุนใดๆ ส่วนกำไรก็คือส่วนต่างราคาค่าสินค้านั่นเอง   

เริ่มต้นทำ Dropship มีวิธีการทำอย่างไรบ้าง

เริ่มต้นทำ Dropship อย่างไรดี

  • นำรูปภาพ พร้อมรายละเอียดสินค้าไปโพสขาย
  • ลูกค้าซื้อสินค้า รับออเดอร์จากลูกค้า 
  • นำค่าสินค้าไปซื้อสินค้าจริง จากร้านค้าที่จำหน่ายสินค้า 
  • หาพื้นที่เก็บสินค้า หรือเช่าโกดังเก็บของ 
  • ทำการแพ็คของเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้า
  • นับสต๊อกสินค้า เพื่อจัดทำบัญชี
  • จัดการ วางแผนรับมือสินค้าที่ถูกตีกลับ 
  • สต๊อกสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า

อ่านเพิ่มเติม: 7 ข้อดีของการ รับฝากสินค้าและจัดส่ง แบบครบวงจร ที่ส่งผลดีต่อคนขายของออนไลน์มากที่สุด 

สินค้าแบบไหนเหมาะกับการทำ Dropship

หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่า.. แล้วสินค้าแบบไหนเหมาะกับการทำ Dropship ? 

จริงๆ แล้วการเลือกสินค้าใน การทำดรอปชิป คุณภาพคือสิ่งสำคัญ ซึ่งอาจบ่งบอกได้ว่าธุรกิจของคุณจะไปรอดหรือไม่รอด สินค้าที่ถูกส่งให้กับลูกค้าจะเป็นสินค้าในนามของตัวคุณเอง ดังนั้นคุณคือผู้แบกรับความผิดพลาดทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ 

โดยสิ่งที่คุณควรให้ความสำคัญไม่ว่าจะขายสินค้าใดก็ตาม คุณภาพ คือปัจจัยแรกที่คุณควรให้ความสำคัญ เลือกซื้อสินค้าจากแหล่งขายที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจของคุณเอง ส่วนสินค้าที่เหมาะสมจะทำ Dropship มีดังต่อไปนี้ 

1.สินค้าที่น่าจะซื้อซ้ำเหมาะกับการทำ Dropship

มองหาสินค้าที่มีโอกาสหรือมีความเป็นไปได้ที่ลูกค้าจะซื้อซ้ำเพื่อนำมาทำดรอปชิป เช่น ของใช้เบ็ดเตล็ด เครื่องเขียน หรือสินค้าจำเป็นต่างๆ 

2.สินค้าสำหรับงานอดิเรกเหมาะกับการทำ Dropship

เป็นสินค้าเพื่องานอดิเรกในกลุ่มสินค้านวัตกรรม ร้านค้าสามารถป้อนสินค้าเหล่านี้ให้กับตลาดได้อย่างต่อเนื่อง นับว่าเป็นสินค้าที่เหมาะกับการทำ Dropship อย่างมากๆ 

3.สำหรับธุรกิจเหมาะกับการทำ Dropship

มีลักษณะเป็นสินค้าที่ใช้ในเชิงธุรกิจ มีโอกาสที่ผู้ซื้อที่กำลังทำธุรกิจใดๆ จะสั่งซื้อสินค้าจำนวนมาก และอาจสั่งซื้อได้ในระยะยาว

สรุปข้อดีของการทำ Dropship มีอะไรบ้าง

ข้อดีของการทำ Dropship มีอะไรบ้าง

1.การทำ Dropship เหมือนการจับเสือมือเปล่า

การทำดรอปชิปเปรียบเหมือนการจับเสือมือเปล่า ใช้เงินลงทุนน้อยมากหรือแทบไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายใดเลยในระยะแรก แต่ในกรณีที่ธุรกิจกำลังขยายตัวมีออเดอร์เพิ่มมากขึ้น อาจต้องมองหาคลังสินค้าเพื่อเก็บสินค้า เพื่อสต๊อกสินค้าป้องกันไม่ให้สินค้าขาดตลาด และเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างเพียงพอ 

2.สามารถทำ Dropship ที่ไหนก็ได้

ต้องบอกเลยว่าดรอปชิปเป็นอาชีพในฝันของใครหลายคน นอกจากจะได้เป็นเจ้านายตัวเองแล้วยังสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ด้วย ขอเพียงแค่มีคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ ที่สำคัญต้องมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตด้วย เพื่อให้สามารถติดต่อพูดคุยหรือสื่อสารกับลูกค้าและผู้ส่งสินค้าได้ เพียงแค่นี้ก็สามารถทำงานได้แล้ว 

3.การทำ Dropship ขยายธุรกิจได้ง่าย

ดรอปชิป นอกจากจะเป็นการจับเสือมือเปล่าแล้ว การทำ Dropship ยังสามารถขยายธุรกิจได้ง่ายด้วย หากเป็นธุรกิจอื่นทั่วไป ถ้ามียอดขายเพิ่มมากขึ้น 2 เท่าตัว คุณก็ต้องลงมือทำงานเหนื่อยเพิ่มเป็น 2 เท่า แต่ถ้าเป็นดรอปชิป การจัดการออเดอร์ 90 % อยู่ที่โรงงานที่คุณสั่งซื้อสินค้า ซึ่งคุณก็เพียงแค่แพ็คสินค้าหรือหาพื้นที่จัดเก็บสินค้า เพื่อส่งให้ลูกค้าของคุณเท่านั้นเอง  

4.เลือกทำ Dropship เพื่อขายสินค้าได้หลากหลาย

คุณสามารถทำ Dropship ขายสินค้าอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำ Dropship ขายสินค้าเพียงแค่อย่างเดียว อีกทั้งการทำ Dropship ยังไม่ต้องแบกรับภาระความเสี่ยงใดๆ ด้วย ทั้งนี้คุณก็ต้องมองหาแหล่งจำหน่ายสินค้าที่มีความน่าเชื่อถือด้วย เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจของคุณ   

ข้อเสียของการทำ Dropship มีอะไรบ้าง ที่จำเป็นต้องรู้

ข้อเสียของการทำ Dropship มีอะไรบ้าง

1.เผชิญปัญหาการจัดส่งสินค้าที่ยุ่งยากเมื่อทำ Dropship

บางครั้งคุณอาจต้องเผชิญปัญหาการจัดส่งสินค้าที่ยุ่งยากเมื่อทำดรอปชิป พร้อมทั้งอาจมีต้นทุนค่าจัดส่งสินค้าด้วย ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่จะแก้ปัญหาด้วยการคิดต้นทุนค่าขนส่งรวมกับราคาสินค้า เพื่อป้องกันการขาดทุนเมื่อทำ Dropship

2.Dropship มีกำไรต่อชิ้นน้อย

แม้ว่าการทำ Dropship จะเป็นการจับเสือมือเปล่า แต่ก็อาจมีกำไรต่อชิ้นน้อย ดังนั้นคุณก็ต้องหาออเดอร์เยอะๆ เพื่อให้กำไรโดยรวมสูงขึ้นจากการทำ Dropship

3.การทำ Dropship อาจจะปัญหาเกิดขึ้นจากต้นทางสินค้า

บางครั้งคุณอาจเจอปัญหาของการทำ Dropship ที่เกิดขึ้นจากต้นทางสินค้า หรือ Supplier เช่น สินค้ามีตำหนิ หรือสินค้าไม่มีคุณภาพ เป็นต้น 

4.ปัญหาเรื่องการสต๊อกสินค้าเมื่อทำ Dropship

ในการทำ Dropship เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะรู้ว่าควรสต๊อกสินค้ามากน้อยเท่าไหร่ การขายปกติผู้ขายอาจทราบว่าควรต้องสต๊อกสินค้ามากน้อยแค่ไหน แต่การทำดรอปชิปนั้น ร้านค้า Dropship อาจไม่รู้ทันทีว่าสินค้ามีเท่าไหร่ หรือไม่มีข้อมูลสินค้า ดังนั้นร้านค้า Dropship ต้องคอยอัพเดตข้อมูลกับทางร้านค้าต้นทาง หรือโรงงานผลิตสินค้าตลอดเวลา 

การทำ Dropship ในไทย มีลักษณะเป็นอย่างไร

การทำ Dropship ในประเทศไทย นิยมทำผ่านช่องทางไหน

การทำ Dropship ในประเทศไทยสามารถทำได้หลายช่องทาง เช่น จัดทำเว็บไซต์ + Facebook Page แล้วนำสินค้าจาก Lazada + Shopee มาขาย หรือนำสินค้าไปขายกับแพลตฟอร์ม Alibaba Amazon Ebay Youpink เป็นต้น 

สิ่งที่ต้องระวังเมื่อตัดสินใจทำ Dropship

1.ราคาสินค้าที่ทำ Dropship แพงมากไป 

สินค้า Dropship ที่มีราคาแพงเกินไป ผู้ขายจะต้องวางแผน วางกลยุทธ์ให้ดี เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้มากที่สุด 

2.เลือกแหล่งขายสินค้าที่มีคุณภาพ

ในการทำ Dropship จำเป็นต้องมองหาแหล่งขายสินค้าที่มีคุณภาพ เพราะคุณภาพจะช่วยให้การทำ Dropship ของคุณประสบความสำเร็จ และช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจของคุณด้วย  

3.พิจารณาผลตอบแทนของการทำ Dropship

แม้ว่าการทำดรอปชิปจะมีข้อดีหลายอย่าง เป็นการลงทุนที่จับเสือมือเปล่า แต่คุณก็ควรพิจารณาผลตอบแทนจากการทำ Dropship ให้ถี่ถ้วน นำต้นทุนมาหักลบกำไร หรือจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย วางแผนทางการเงินให้รอบคอบ เพื่อที่จะได้ไม่ขาดทุน 

4.อย่าสต๊อกสินค้าสำหรับทำ Dropship มากเกินไป

การทำดรอปชิปต้องระวังเรื่องการสต๊อกสินค้ามากเกินไป ควรสต๊อกสินค้าเพื่อทำ Dropship ในปริมาณที่เหมาะสม คุณต้องคาดการณ์ความน่าจะเป็นที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตให้แม่นยำพอสมควร เพื่อจะได้ไม่ขาดทุนจากการทำ Dropship 

หวังว่าจะทราบกันไปแล้วว่า การทำ Dropship คืออะไร การทำดรอปชิปถือว่าเป็นการค้าขายทางออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในสมัยนี้เหมือนกัน เพราะว่าค่อนข้างมีความสะดวกอย่างมากๆ เลยทีเดียว สำหรับพ่อค้าแม่ค้าคนไหนที่กำลังทำ Dropship และไม่ต้องการที่จะเช่าโกดังเพื่อสต๊อกสินค้าเอง ก็ขอแนะนำว่าให้ลองหาบริการคลังสินค้าออนไลน์แบบที่ไม่ต้องเสียพื้นที่การเช่า ที่สำคัญคือมีคนจากคลังสินค้าช่วยแพ็คของ และจัดส่งของให้อีกด้วย เรียกได้ว่าสะดวก สบายสุดๆ  ทำความรู้จักคลังสินค้าออนไลน์แบบ Fulfillment PACKHAI ได้เลยที่นี่

อ่านเพิ่มเติม: บริการ Fulfillment PACKHAI ดีกว่าอย่างไร รับรองว่าตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ 100%

Packhai ตอบโจทย์ขายของออนไลน์

Fulfillment ตัวช่วยคนขายของออนไลน์ ที่ช่วยลดต้นทุนการขายสินค้า ลดเวลาการทำงาน มีเวลาโฟกัสยอดขายได้มากขึ้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *