Brand Story คืออะไร? มีความสำคัญอย่างไร ทำไมต้องมีการสร้างแบรนด์สตอรี่ให้กับธุรกิจ

Brand Story คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร

Brand Story

ปัจจุบันในการทำธุรกิจ Brand Story ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จนั้นอาจไม่ได้มาจากตัวสินค้าหรือผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว แต่มาจากพลังของการสร้าง Brand Storytelling ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้ามองเห็นแบรนด์ของคุณที่ไม่ใช่เห็นสินค้าธรรมดา แต่มีเรื่องราวความหลังที่น่าจดจำและแทรกซึมเข้าไปอยู่ในความทรงจำของลูกค้าได้ในที่สุด ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ได้ดียิ่งขึ้น

Brand Story คืออะไร?

Brand Story คือ การสร้างเรื่องราวเพื่อบอกเล่าและส่งต่อคุณค่าของแบรนด์จนเกิดเป็น Story Branding เป็นการนำเสนอถึงเรื่องราวซึ่งเป็นแรงบันดาลใจจนจุดประกายให้กับผู้ที่ก่อตั้งธุรกิจนี้ขึ้นมา ทำให้แบรนด์กลายเป็นมนุษย์และสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสร้าง Brand Story เปรียบเสมือนกับก้าวแรกที่ทำให้คนได้รู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์จริงๆ คล้ายกับการแนะนำตัวก่อนที่จะเริ่มสร้างบทบาทระหว่างกัน 

Brand Story มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของธุรกิจอย่างมาก ช่วยทำให้ลูกค้ามีส่วนร่วมและเกิดความรู้สึกร่วมไปกับแบรนด์ด้วย กระบวนการนี้จะสร้างความจงรักภักดีและเป็นส่วนที่ขาดไม่ได้ในการสร้างแบรนด์ให้เติบโต ซึ่งเมื่อลูกค้ารู้สึกประทับใจก็จะส่งผลให้เกิดการบอกปากต่อปากและพูดถึงแบรนด์ในทางที่ดีนั่นเอง

Brand Story มีความสำคัญอย่างไรกับธุรกิจ

การสร้าง Brand Story มีความสำคัญกับธุรกิจอย่างมากถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ดี ทำให้ได้หลายธุรกิจประสบความสำเร็จมาแล้ว ตามที่เราได้กล่าวไปในตอนต้นว่า Brand Story มันมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด ซึ่งประโยชน์ของการสร้าง Brand Storytelling มีดังนี้

1. ช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ 

2. ช่วยสร้างความตื่นตาตื่นใจ

3. สร้างความรู้สึกและความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า

4. ช่วยทำให้ลูกค้าเกิดความจงรักภักดีต่อแบรนด์ 

5. ช่วยทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกร่วมไปกับแบรนด์นั้นๆ 

คลิกอ่านเพิ่มเติม: การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า วิธีบริหารลูกค้าสัมพันธ์ สำหรับร้านค้าออนไลน์ในยุคนี้

Brand Story มีความสำคัญอย่างไรกับธุรกิจ

องค์ประกอบของ Brand Storytelling มีอะไรบ้าง

1.สร้างเรื่องราวให้ตรงความต้องการลูกค้า 

แทนที่จะเล่าให้เป็นเรื่องนามธรรมจับต้องไม่ได้หรือจับต้องยาก ควรพยายามปรับเปลี่ยนเป็นเรื่องราวที่ตรงกับผู้ชมมากที่สุดอย่างเช่น คุณอาจทำให้ผู้เล่าเรื่องคล้ายกับผู้ชมที่มีปัญหาหรือมีข้อกังวลเดียวกัน จากนั้นนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เป็นทางออกว่าสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง การปรับเปลี่ยนเรื่องราวให้ตรงความต้องการลูกค้าเป็นวิธีที่นิยมและกระตุ้นให้เกิดความเห็นอกเห็นใจรวมถึงการมีส่วนร่วมในเรื่องราวนั้นๆ 

2.การกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึก 

การเล่าเรื่องราวควรกระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกของผู้ชมคือองค์ประกอบของ Brand Storytelling ไม่ว่าจะเป็นความสุขอารมณ์ขันหรือแม้แต่ความกลัว การใช้เรื่องราวของคุณเพื่อสร้างการตอบสนองทางอารมณ์เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมและดึงดูดให้ผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้ามาเป็นลูกค้าในที่สุด

3.ข้อมูลสนับสนุน 

ข้อมูลน่าเชื่อถือจะช่วยสนับสนุนให้เรื่องราวที่คุณสื่อสารออกไปมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น อาจมีการผสมผสานงานวิจัยและข้อมูลที่น่าเชื่อถือต่างๆ ลงในเรื่องราวของคุณ ช่วยดึงดูดผู้ชมให้คิดอย่างมีเหตุผลและช่วยกระตุ้นให้พวกเขาตัดสินใจซื้อ 

เลือกรูปแบบอย่างเหมาะสม

6 ขั้นตอนการสร้าง Brand Story ให้ลูกค้าจดจำ

1.รู้จักเรื่องราวตนเอง 

หากคุณไม่รู้จักตนเองของแบรนด์คุณจริงๆ ก็ไม่สามารถสร้าง Storytelling ของแบรนด์ หรือสร้างเรื่องราวอะไรดีๆ ได้ สิ่งที่คุณต้องรู้ก็คือคุณคือใคร คุณทำอะไร ให้ความสำคัญกับอะไร ทำไมถึงสำคัญกับคุณ หากคุณไม่รู้จักตัวเองก็ไม่สามารถกำหนดเรื่องราวต่างๆ ออกมาได้ถูกต้อง 

2.ระดมสมองหาไอเดียและคัดสรรไอเดีย 

วิธีที่ดีที่สุดก็คือการระดมสมอง เปิดโอกาสให้ทุกคนที่มีส่วนร่วมในแบรนด์ของคุณหรือพนักงานในองค์กรของคุณได้ช่วยกันระดมสมอง คิดวิเคราะห์ว่าคุณคือใคร อะไรคือสิ่งที่ต้องทำ คุณทำสิ่งนี้เพื่อใคร ทำไมถึงต้องทำ คุณทำมันอย่างไรและวางอนาคตว่าอย่างไร หาคำตอบร่วมกัน จากนั้นมาสู่การคัดสรรไอเดีย คุณจำเป็นต้องนำไอเดียต่างๆ มาคัดสรรตกผลึกว่าข้อมูลการระดมสมองที่ได้มานั้นเอามาใช้กับการเล่าเรื่องในรูปแบบใดได้บ้าง 

3.เลือกรูปแบบอย่างเหมาะสม 

เมื่อเลือกไอเดียในการเล่าเรื่องได้แล้วก็มาถึงขั้นตอนที่คุณจะต้องเลือกรูปแบบที่เหมาะสมในการสร้าง Brand Story ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่าการสื่อสารเรื่องราวของแบรนด์คุณจะเป็นอย่างไรและสื่อสารถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างไร อาจเป็นการนำเสนอผ่าน บทความ Video graphic ภาพเคลื่อนไหว ฯลฯ

คลิกอ่านเพิ่มเติม: แนะนำ 6 เทคนิคทำคอนเทนต์ขายของ สำหรับธุรกิจออนไลน์ ให้โดนใจลูกค้า เพิ่มยอดขายให้ปัง

4.ขัดเกลาเนื้อหา 

เมื่อคุณมีไอเดียในการสร้างเรื่องราวและเลือกรูปแบบอย่างเหมาะสมแล้วถึงขั้นตอนนี้คุณจะต้องทำให้เรื่องราวสามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้ได้จำเป็นต้องมีการกำหนดโครงสร้างในการเล่าเรื่องให้ดี ขัดเกลาเนื้อหาให้ดี คุณต้องมาคิด วิเคราะห์ว่าจุดเริ่มต้นใช้เนื้อหาแบบไหน จุดคลี่คลายหรือจุดจบของเรื่องราวเป็นแบบไหน 

5.เพิ่มความเป็นแบรนด์เข้าไป 

Content จะต้องสะท้อนให้เห็นถึงตัวตนของแบรนด์ ทั้งสิ่งที่มองเห็นด้วยตาเปล่าและคำพูดที่ใช้ เพื่อทำให้กลุ่มเป้าหมายจำได้ว่าแบรนด์ของคุณคือใคร จำเป็นต้องแสดงให้เห็นถึงบุคลิกภาพของแบรนด์ น้ำเสียง โทนของแบรนด์ ภาพที่ใช้ต้องแสดงถึงความเป็นตัวตนของแบรนด์เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์จริงๆ  

6.ส่งต่อเรื่องราว 

มาถึงขั้นตอนสุดท้ายเมื่อได้รูปแบบของ Content เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องบอกต่อเรื่องราวหรือการส่งต่อเรื่องราวให้กับทุกคนได้รับรู้ พยายามทำให้กลุ่มเป้าหมายของคุณสนับสนุนแบรนด์ของคุณ ช่วยกันแชร์ออกไปผ่านทาง Social Media หรือแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ต่างๆ ทั้งการทำคอนเทนต์และการโฆษณา เช่น ยิงแอด Facebook หรือลงโฆษณา TikTok อย่าลืมตรวจสอบผลลัพธ์อยู่ตลอดเวลาด้วย

ตัวอย่างของ Brand Storytelling

ตัวอย่างของ Brand Storytelling ที่น่าสนใจ

Brand Story ของ Disneyland Paris

ตัวอย่างแบรนด์สตอรี่แรกจะเป็นของ Disneyland ที่ Paris เรื่องราวแสนอบอุ่นของลูกเป็ดตัวน้อยที่พบเห็นหนังสือการ์ตูน โดนัลด์ ดั๊ก แต่สภาพอากาศเลวร้ายกำลังเข้ามาลูกเป็ดและครอบครัวต้องบินหนีโดยทิ้งหนังสือการ์ตูนที่รักไว้ และพวกเขามาถึงที่ Disneyland Paris อย่างกะทันหัน เป็ดโดนัลด์ ดั๊กได้ต้อนรับลูกเป็ดทำให้เจ้าเป็ดน้อยพบกับฮีโร่ของเขา วิ่งเข้าไปกอดโดนัลด์ ดั๊กทันทีด้วยความอบอุ่น วิดีโอนี้ทำให้หลายคนหวนคิดถึงความมหัศจรรย์ ความตื่นเต้นเมื่อเดินทางไปยัง Disneyland

Brand Story ของ PROUD SPONSOR OF MOMS – PROCTOR & GAMBLE

โฆษณาแบรนด์ P & G บอกเล่ากิจวัตรประจำวันของแม่และลูกๆ มุ่งเน้นการฝึกกีฬาเพื่อเป็นให้ลูกเป็นนักกีฬาโอลิมปิก โดยแม่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวเป็นคน support ลูก เตรียมตัว ซักเสื้อผ้า ทำอาหารเช้า ส่งกำลังใจเป็นจนวันที่เขาประสบความสำเร็จ เรียกน้ำตาคนดูหลายคน แบรนด์นี้มีการสื่ออารมณ์ความรู้สึกเป็นกลุ่มเป้าหมายได้ดีนั่นคือกลุ่มแม่ๆ แล้วได้ยังได้มีการโปรโมทผลิตภัณฑ์ P & G ด้วย

Brand Story ของ Land Rover – The Land Of Land Rovers

Land Rover รถสายลุยได้ฉลองครบรอบ 70 ปี ด้วยการนำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากเรื่องจริง อยู่ลึกเข้าไปเทือกเขาหิมาลัย ในวีดีโอถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตผู้คนชาวบ้านที่ต้องอาศัยรถของ Land Rover  ในการเดินทางขนของไปยัง Sandakphu รถเหล่านี้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันตั้งแต่ปี 2500 ในคลิปแสดงให้เห็นว่าชาวบ้านต้องรับมือกับเส้นทางสุดหินที่แสนยากลำบาก มันตอกย้ำถึงพลังแห่งความถึกที่มีและความอดทนของ Land Rover

จะเห็นได้ว่าการที่ธุรกิจมี Brand Story นั้นจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ เป็นการส่งมอบเรื่องราวและคุณค่าของแบรนด์ ให้ผู้คนรับรู้และเกิดอารมณ์ร่วม ซึ่งเป็นผลดีมากๆ ในการทำให้ผู้คนจดจำแบรนด์ได้ง่ายมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นในการสร้าง Brand Storytelling ก็ใช่ว่าจะสร้างยังไงก็ได้ แต่ต้องมีการวางแผน การเข้าใจถึงตัวตนและคุณค่าของแบรนด์จริงๆ รวมถึงเข้าใจความต้องการหรือความรู้สึกของลูกค้าด้วย เพื่อให้สามารถถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้โดนใจมากที่สุดนั่นเอง

เมื่อลูกค้าได้เห็นถึงคุณค่าที่แบรนด์นำเสนอ และสามารถจดจำแบรนด์ได้แล้ว ก็ย่อมจะส่งผลทำให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้าของแบรนด์มากขึ้น ซึ่งหากธุรกิจไม่ได้เตรียมตัวรับมือกับเรื่องนี้ไว้ เช่น สต๊อกสินค้าไว้น้อย ไม่เตรียมทีมงานสำหรับแพ็คและส่งสินค้า ฯลฯ ก็อาจจะทำให้ธุรกิจพลาดโอกาสในการขายสินค้าได้ ดังนั้นธุรกิจจึงควรที่จะเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้านให้ดี ทั้งด้านการขาย การตลาด การบริการลูกค้า และงานหลังบ้านต่างๆ 

ซึ่งหากธุรกิจที่ไม่ได้มีคลังจดเก็บสินค้าและไม่มีเวลาจัดการงานหลังบ้านเอง การใช้บริการเช่าคลังสินค้าออนไลน์ Fulfillment ก็เป็นตัวเลือกที่หลายธุรกิจเลือกใช้ เพราะนอกจากจะช่วยให้ธุรกิจมีพื้นที่จัดเก็บสินค้าเพิ่มแล้ว ก็ยังมีบริการอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกตั้งแต่การเก็บ แพ็ค ส่ง อย่างครบวงจร ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจหมดห่วงเรื่องงานหลังบ้าน และสามารถมั่นใจได้ว่าจะมีสินค้าพร้อมขายอย่างแน่นอน – อยากรู้ว่า Fufillment BY Packhai ดียังไง? : คลิกที่นี่

บริการ Fulfillment Packhai

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *