พัสดุตกหล่น มีขั้นตอนติดตามคืนอย่างไร ป้องกันยังไงดี? ไม่ให้เกิดปัญหาสินค้าตกค้าง

พัสดุตกหล่น มีขั้นตอนติดตามคืนอย่างไร

พัสดุตกหล่น

ปัญหา พัสดุตกหล่น ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของเหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ โดยเฉพาะในยุคที่ธุรกิจขายของออนไลน์นั้นมีการเติบโตสูง ทำให้หลายร้านต้องเจอกับปริมาณออเดอร์สินค้าจำนวนมากที่เข้ามาในแต่ละวัน ซึ่งหากร้านค้ามีระบบจัดการที่ไม่ดีพอ หรืออาจจะดูแลเองได้ไม่ทั่วถึง จนอาจทำให้เกิดสินค้าตกหล่นหรือสินค้าตกค้างได้นั่นเอง

Contents hide

พัสดุตกหล่น มีลักษณะเป็นอย่างไร

โดยลักษณะของปัญหาพัสดุตกหล่น คือการที่ร้านค้าได้ทำการจัดส่งสินค้าไปแล้ว และเมื่อตรวจเช็คก็พบสถานะขึ้นจัดส่งสินค้าเรียบร้อยแล้ว แต่ทางลูกค้าปลายทางยังไม่ได้รับสินค้า ซึ่งหากเพิ่งเริ่มขายของออนไลน์และไม่มีประสบการณ์มาก่อน ก็คงจะต้องเกิดความสงสัยขึ้นแน่นอนว่าแล้วถ้า พัสดุตกหล่น ทำไงดี? ให้สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และติดตามสินค้าที่ตกหล่นได้อย่างรวดเร็วที่สุด

ผลกระทบจากการมีพัสดุตกหล่น มีอะไรบ้าง

1.การจัดส่งสินค้าล่าช้า

เมื่อมีการจัดส่งสินค้าล่าช้าจากสาเหตุของพัสดุตกหล่นหรือตกค้าง แน่นอนว่าจะทำลูกค้าได้รับสินค้าช้าหรือได้รับเกินระยะเวลาที่ควรจะเป็น ซึ่งก็อาจจะทำให้ลูกค้าไม่อยากจะกลับมาซื้อสินค้าอีกครั้ง เพราะจัดส่งสินค้าช้าเกินไป 

บทความอื่นที่น่าสนใจ:

2.ลูกค้าอาจรู้สึกไม่พอใจ

เชื่อว่าลูกค้าทุกคนต้องการได้รับพัสดุหรือสินค้าอย่างรวดเร็ว เนื่องจากต้องการนำสินค้าไปใช้งานหรือใช้ประโยชน์ทันที ดังนั้นหากลูกค้าได้รับสินค้าช้า แน่นอนว่าลูกค้าจะต้องรู้สึกไม่พอใจ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นผลเสียใหญ่ๆต่อการมีพัสดุตกค้างเลยทีเดียว

3.ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของร้าน

หากร้านค้าออนไลน์โดยเฉพาะร้านที่ขายในแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่มีคนใช้งานเยอะๆ  หากร้านไหนเกิดปัญหาพัสดุตกหล่นหรือตกค้าง จะส่งผลต่อน่าเชื่อถือของร้านค้า ยิ่งกับร้านค้าที่มีการรีวิวสินค้าแล้วลูกค้ารีวิวว่าร้านค้าเกิดปัญหาพัสดุตกหล่นหรือตกค้าง ความน่าเชื่อถือของร้านค้าจะลดลงไปโดยปริยาย

4.ทำให้ยอดขายตก

เรื่องของยอดขายนั้นมีส่วนสำคัญต่อการทำธุรกิจขายของออนไลน์เป็นอย่างมาก หากว่าร้านค้าร้านไหนไม่มีปัญหาเรื่องของพัสดุตกค้าง ยอดขายก็จะดีและทำให้ร้านค้าเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าหากว่าร้านค้าร้านไหนเกิดปัญหาพัสดุตกหล่นหรือตกค้าง ก็อาจจะทำให้ลูกค้าไม่อยากซื้อสินค้าหรือขายของไม่ได้ ส่งผลกระทบต่อยอดขาย ซึ่งทำให้ยอดขายตกลงได้

คลิกอ่านเพิ่มเติม: แนะนำ 15 วิธีเพิ่มยอดขาย วิธีกระตุ้นยอดขายให้ปัง หากอยากเพิ่มยอดขาย ทำตามนี้เห็นผลแน่นอน 

ลูกค้าอาจรู้สึกไม่พอใจเมื่อพัสดุตกหล่น

เมื่อมีพัสดุตกหล่นหรือตกค้าง ร้านค้าควรทำอย่างไร

1.ตรวจเช็คเลข Tracking ของพัสดุ

สามารถเช็คเลข Tracking ของพัสดุได้จากบริษัทที่ทำการขนส่ง ไม่ว่าจะเลือกใช้บริการขนส่งกับบริษัทขนส่งแบบไหน ก็จะได้รับเลข Tracking ของพัสดุกลับมาด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งก็สามารถนำมาเช็คพัสดุได้ว่าตอนนี้ตกหล่นอยู่ไหนหรือค้างอยู่ที่จุดใด เพื่อที่จะได้ทำการแก้ไขต่อไป

2.สอบถามลูกค้าให้แน่ใจ

เรื่องนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรจะทำเมื่อเกิดพัสดุตกหล่น โดยเหตุผลที่ต้องมีการสอบถามลูกค้า ก็เพื่อให้แน่ใจว่าลูกไม่ได้รับของจริงๆ ไม่ใช่ว่าลูกค้าหาของไม่เจอ หรือว่ามีคนอื่นมารับให้โดยที่ลูกค้าไม่รู้ ดังนั้นการสอบถามลูกค้าก็จะเป็นการช่วยเพิ่มการยืนยันว่าพัสดุตกหล่นจริงหรือไม่

คลิกอ่านเพิ่มเติม: แนะนำ 8 วิธีตอบแชทลูกค้า สำหรับร้านค้าออนไลน์ ช่วยให้ลูกค้าประทับใจ เพิ่มโอกาสปิดการขายได้มากขึ้น

3.ติดต่อบริษัทขนส่ง

เมื่อมีการตกหล่นของพัสดุ การติดต่อบริษัทขนส่งที่ทำการขนส่งก็จะช่วยให้รู้ข้อมูลของพัสดุที่ตกหล่นได้อย่างแน่ชัดขึ้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วบริษัทขนส่งมักจะมีช่องทางการติดต่อและประสานงานเกี่ยวกับพัสดุตกหล่นหรือตกค้างไว้บริการผู้ใช้อยู่แล้วด้วย โดยสามารถติดต่อไปยังบริษัทขนส่งแต่ละเจ้าได้เลย

  • ไปรษณีย์ไทย: โทร. 1545 หรือโทรไปยังสาขาที่จัดส่ง
  • Kerry Express: โทร. 1217 หรือ Facebook Kerry Express Thailand
  • Flash Express: โทร. 1436 หรือ www.flashexpress.co.th
  • J&T Express: โทร. 02-009-5678
  • Ninja Van: โทร. 02-032-1633
  • SGC Express: โทร. 02-239-8999
  • Bee Express: โทร. 02-058-5555

รู้ไหม? หากมีพัสดุตกหล่น ร้านค้าสามารถไปรับเองได้

อย่างที่รู้กันว่าเมื่อมีพัสดุตกหล่น ร้านค้าสามารถติดต่อไปยังบริษัทขนส่งเพื่อติดตามสินค้าได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าขั้นตอนต่างๆ นั้นค่อนข้างใช้เวลา โดยในบางครั้งก็อาจต้องรอหลายวันกว่าจะได้สินค้า ซึ่งหากในกรณีที่ลูกค้าต้องรีบใช้สินค้า ร้านค้าก็อาจจะไม่สามารถรอนานขนาดนั้นได้ ดังนั้นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถทำได้ก็คือ “การไปรับสินค้าเอง” เพื่อลดขั้นตอนและเวลาในการรอได้ โดยขั้นตอนก็ไม่ได้ยุ่งยากเลย เพียงร้านค้าโทรติดต่อไปยังสาขาของบริษัทขนส่งที่ทำการจัดส่งสินค้า เพื่อสอบถามรายละเอียด และนัดเข้ารับสินค้าที่ตกหล่นหรือตกค้างเองได้เลย

หากมีพัสดุตกหล่น ร้านค้าสามารถไปรับเองได้

วิธีป้องกันพัสดุตกหล่นหรือพัสดุตกค้าง

1.บันทึกรายละเอียดของลูกค้า

สำหรับรายละเอียดของลูกค้าก็จะมีตั้งแต่ ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ รวมไปถึงการบันทึกวันและเวลาที่ลูกค้าออเดอร์หรือสั่งสินค้าเข้ามา เพื่อที่จะทำให้สามารถกำหนดการจัดส่งสินค้าได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ อีกทั้งยังเป็นการช่วยป้องกันพัสดุตกหล่นได้

2.กำหนดเวลาการเปิด-ปิดรับออเดอร์

ร้านค้าออนไลน์ควรจะมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิดการรับออเดอร์วันต่อวันให้ชัดเจน หากแจ้งให้ลูกค้าทราบก็จะเป็นเรื่องดี เพราะลูกค้าจะได้รู้ว่าเปิดรับออเดอร์เวลาไหนและปิดรับเวลาไหน ถ้าหากว่ามีเวลาเปิดปิดรับออเดอร์ที่ชัดเจน ก็จะทำให้การจัดส่งสินค้าได้ง่ายและก็ยังเป็นการป้องกันการเกิดพัสดุตกหล่นได้อีกด้วย

3.แยกประเภทการชำระสินค้า

การชำระสินค้าในรูปแบบของธุรกิจขายของออนไลน์นั้นจะแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น การสั่งซื้อสินค้าแล้วชำระเงินเลยกับการสั่งซื้อสินค้าแล้วชำระปลายทาง ซึ่งการชำระสินค้าทั้งสองอย่างนี้ ร้านค้าออนไลน์ควรแยกให้ชัดเจน ลำดับการสั่งซื้อสินค้าให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน

4.ใช้คลังสินค้าออนไลน์ เก็บ แพ็ค ส่ง

อีกหนึ่งวิธีป้องกันปัญหาพัสดุตกหล่นที่มีประสิทธิภาพและได้รับความนิยม ก็คือการใช้บริการคลังสินค้าแบบ Fulfillment ที่มีบริการหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการให้เช่าพื้นที่จัดเก็บสต๊อกสินค้า พร้อมบริการแพ็คและจัดส่งสินค้า ถือเป็นบริการรับฝากสินค้าและจัดส่ง ทำให้การจัดส่งสินค้ามีความถูกต้อง รวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้น จึงสามารถช่วยลดการเกิดปัญหาพัสดุตกหล่นหรือตกค้างได้นั่นเอง

คลิกอ่านเพิ่มเติม: สรุปข้อดี-ข้อเสีย Fulfillment บริการเก็บ แพ็ค จัดส่ง ที่ผู้ให้บริการยังไม่บอกมีอะไรบ้าง

5.บันทึกเลข Tracking พัสดุให้ดี

เลขพัสดุหรือเลข Tracking คือสิ่งที่ร้านค้าและพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ควรจะบันทึกเอาไว้ให้ดี เพราะมีผลต่อการติดตามสถานะของสินค้า โดยสามารถนำมาตรวจสอบได้ในกรณีที่พัสดุเกิดตกหล่นหรือยังไม่ถึงมือลูกค้า 

แน่นอนว่าในการทำธุรกิจขายของออนไลน์ ธุรกิจก็คงไม่อยากให้เกิดปัญหา พัสดุตกหล่น ขึ้นกับตัวเอง เพราะถือเป็นปัญหาที่มีผลกระทบกับหลายส่วนทั้งตัวธุรกิจเอง บริษัทขนส่ง และที่สำคัญคือลูกค้า จึงทำให้การแก้ไขปัญหาและติดตามสินค้าต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน มีหลายขั้นตอน ซึ่งจะส่งผลให้การจัดส่งสินค้าล่าช้า และทำให้ลูกค้าเกิดความไม่พอใจได้ ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสินค้าตกหล่นขึ้น ธุรกิจจึงควรทำการบันทึกข้อมูลคำสั่งซื้อและเลข Tracking ให้ครบถ้วนและเป็นระบบ เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามพัสดุที่ตกหล่น 

แต่หากไม่อยากวุ่นวายกับการจัดส่งและติดตามสินค้าเอง ก็สามารถเลือกใช้เป็นบริการคลังสินค้าออนไลน์ระบบ Fulfillment จาก Packhai แทนได้ เพราะเป็นคลังจัดเก็บสินค้าที่ให้บริการอย่างครบวงจรตั้งแต่ การเก็บ แพ็ค และส่งสินค้า ด้วยทีมงานมืออาชีพ พร้อมมีระบบจัดการออเดอร์ที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับระบบหลังบ้านของธุรกิจได้อย่างไร้รอยต่อ ธุรกิจจึงสามารถตรวจสอบและติดตามสถานะของสินค้าได้ตลอด 24 ชม. – อยากรู้ว่า Fufillment BY Packhai ดียังไง? : คลิกที่นี่

บริการ Fulfillment Packhai

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *