คลังสินค้าส่วนตัว คืออะไร ?

คลังสินค้าส่วนตัว (Private Warehouse) หรือคลังสินค้าเอกชน คือ คลังสินค้าหรืออาคารพณิชย์ที่ถูกสร้างขึ้นมาใช้ในการเก็บสินค้าและรอการขนส่งไปยังสถานที่ต่อๆไป เป็นคลังสินค้าแบบส่วนที่มีบริษัทเอกชนหรือธุรกิจเป็นเจ้าของเอง แน่นอนว่าการใช้งานคลังเก็บสินค้าส่วนตัวนั้นมักจะเป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่มีคลังเก็บสินค้าเป็นของตนเอง ซึ่งในปัจจุบันนี้หลายคนก็อาจจะคุ้นเคยกับคลังเก็บสินค้ามาบ้างแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ดังนั้นบทความนี้จะพาไปรู้จักกับข้อดี ข้อเสีย และความแตกต่างของคลังเก็บสินค้าส่วนตัวและคลังเก็บสินค้าสาธารณะ

คลังสินค้าส่วนตัว มีลักษณะอย่างไร

คลังเก็บสินค้าส่วนตัว ถือเป็นคลังที่ใช้ในการเก็บสินค้าคงคลัง (Inventory) ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร โดยลักษณะของคลังสินค้าเอกชนหรือคลังเก็บสินค้าส่วนตัวนั้น เป็นคลังสินค้าที่ผู้ประกอบการสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการเก็บสินค้าต่างๆของกิจการ ภายในคลังหรืออาคารจะไม่มีการตกแต่งให้สวยงามมากนัก เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ กว้าง อีกทั้งยังต้องมีทางลาดเอียงเพื่อใช้ในการขนย้ายสินค้า รวมถึงอาจมีเครนเพื่อช่วยเพื่อความสะดวกสบายในการขนถ่ายสินค้าด้วยนั่นเอง

คลิกอ่านเพิ่มเติม : ประเภทของคลังสินค้า มีกี่ประเภท สามารถแบ่งคลังสินค้าตามลักษณะอะไรได้บ้าง ?

คลังสินค้าเอกชน ข้อดี ข้อเสีย มีอะไรบ้าง ?

เนื่องจากในปัจจุบันนี้มีคลังเก็บสินค้าอยู่หลากหลายประเภท จึงอาจทำให้หลายคนไม่รู้จะเลือกใช้บริการคลังเก็บสินค้าแบบสาธารณะหรือแบบคลังเก็บสินค้าส่วนตัวดี ดังนั้นบทความนี้จึงได้รวบรวมข้อดีและข้อเสียของคลังสินค้าเอกชน โดยมีข้อดี-ข้อเสีย ดังนี้

ข้อดีของคลังสินค้าเอกชน

• มีความยืดหยุ่นมากกว่า เพราะเป็นพื้นที่ของตนเอง ทำให้สามารถดัดแปลงพื้นที่หรือสามารถทำตามความต้องการได้มากกว่าการเช่าคลังสินค้าสาธารณะ
• สามารถดูแลและควบคุมได้ง่าย ช่วยจัดการดูแลสินค้าได้ง่ายมากกว่า
• สามารถใช้ผลประโยชน์จากทรัพยากรส่วนบุคคลได้ดีกว่า
• สามารถใช้งานได้ในระยะยาว ทำให้ไม่ต้องกังวลในเรื่องของค่าเช่าแบบรายเดือน หรือเรียกว่าเป็นการลงทุนครั้งเดียวจบ
• คลังสินค้าสามารถติดกับโรงงานผลิตได้ ช่วยทำให้การดำเนินงานในขั้นตอนต่างๆสามารถเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว

ข้อเสียของคลังสินค้าเอกชน

• ต้องใช้พื้นที่จำนวนมาก เนื่องจากในบางธรุกิจอาจมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว
• มีข้อจำกัดในเรื่องของการเงิน เพราะต้องใช้เงินในการลงทุนสร้างคลังเก็บสินค้าจำนวนมาก
• ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนต่ำ ต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อยในการซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ในคลังสินค้า

คลิกอ่านเพิ่มเติม : ต้นทุนสินค้าคงคลัง (Inventory Cost) คืออะไร ? แบ่งเป็นกี่ประเภท มีต้นทุนอะไรบ้างที่ธุรกิจต้องรู้

คลังสินค้าส่วนตัว กับคลังสินค้าสาธารณะ แตกต่างกันอย่างไร

เชื่อว่าในปัจจุบันนี้คงจะมีเจ้าของกิจการหรือธุรกิจจำนวนมากที่กำลังชั่งใจอยู่ว่าควรเลือกใช้ประเภทคลังสินค้าแบบไหนดี ระหว่างคลังสินค้าสาธารณะ (Public Warehouse) และคลังส่วนตัว (Private Warehouse) ซึ่งทั้ง 2 ประเภทนี้มีความแตกต่างกันไม่น้อยเลย คลังสาธารณะเป็นโกดังเก็บสินค้าที่ต้องจ่ายเงินค่าเช่าเป็นรายเดือน ซึ่งเป็นประเภทที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบันนี้

ในส่วนของคลังเอกชนหรือคลังส่วนตัว จะต้องใช้เงินทุนจำนวนมากในการสร้างอาคารหรือคลังเก็บสินค้าขึ้นมาเพื่อใช้เก็บสินค้าของกิจการ เป็นคลังที่ใช้ในการจัดเก็บวัตถุดิบหรือสินค้าแบบสำเร็จรูปของบริษัท แต่หากว่าใช้งานในระยะยาว การเลือกใช้คลังเก็บสินค้าแบบส่วนตัวก็ถือว่าเป็นประเภทที่ตอบโจทย์เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

สำหรับคลังสินค้าส่วนตัว หรือคลังสินค้าแบบเอกชนนั้น เป็นคลังที่ใช้เก็บสินค้าของธุรกิจเอง มีความยืดหยุ่นสูง สามารถดูแล ควบคุม หรือปรับเปลี่ยนได้ง่าย แต่ก็จำเป็นต้องใช้เงินทุนในการสร้างค่อนข้างสูง จึงอาจเหมาะกับธุรกิจที่มีขนาดใหญ่และทุนมาก ซึ่งหากเปรียบเทียบแล้วในระยะยาวก็จะตอบโจทย์มากกว่า

แต่สำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทั่วๆ ไป การเลือกใช้บริการ Fulfillment คลังสินค้าเก็บ แพ็ค ส่ง ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและอำนวยความสะดวกในการทำงานแล้ว ก็ยังมีต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงอีกด้วย เมื่อเทียบกับการสร้างคลังสินค้าของตัวเอง ซึ่งหากไม่รู้จะเลือกใช้บริการ Fulfillment ที่ไหนดี แนะนำบริการ Fulfillment ของ Packhai ที่มีบริการครบครัน ราคาคุ้มค่า ตอบโจทย์ธุรกิจ

อยากรู้ว่าคลังสินค้าออนไลน์ Fulfillment Packhai ดีกว่าเจ้าอื่นยังไง ? : คลิกที่นี่

ทดลองใช้บริการ Fulfillment

Fulfillment ตัวช่วยคนขายของออนไลน์ ที่ช่วยลดต้นทุนการขายสินค้า ลดเวลาการทำงาน มีเวลาโฟกัสยอดขายได้มากขึ้น

สมัครใช้บริการ คลิกดูค่าบริการ