Influencer Marketing คืออะไร? มีข้อดีอย่างไร อยากทำการตลาดด้วย Influencer ต้องเริ่มต้นยังไง

Influencer Marketing คืออะไร

Influencer Marketing คืออะไร

lnfluencer Marketing คือ รูปแบบการทำการตลาดที่ใช้บุคคลที่มีชื่อเสียง หรือผู้ที่มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ เพื่อโฆษณาโปรโมทสินค้า แนะนำหรือรีวิวสินค้าให้กับผู้ติดตาม ผ่านทาง Social Media หรือช่องทางออนไลน์ต่างๆ เช่น YouTube, Facebook, TikTok ฯลฯ ซึ่งการทำการตลาดด้วย Influencer จะช่วยให้แบรนด์หรือธุรกิจสามารถเข้าถึงคนได้เป็นจำนวนมาก และเป็นวงกว้างหลากหลายกลุ่ม ส่งผลดีต่อการสร้างการรับรู้หรือ Brand Awareness และยอดขายของธุรกิจ นอกจากนี้ยังส่งปลดีต่อการทำการตลาดแบบปากต่อปาก (Word of Mouth) ให้คนพูดถึงแบรนด์อีกด้วย

Contents hide

Influencer  คืออะไร

Influencer คือ บุคคลที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ เป็นที่รู้จักของคนจำนวนมากหรือเฉพาะกลุ่มขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ติดตาม เช่น ดารา นักร้อง หรือ Celebrity ที่มีช่องทางออนไลน์ต่างๆ ในการสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตาม ซึ่ง Social Media lnfluencer นั้นจะมีผลต่อความเชื่อ และการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้ติดตาม เนื่องจากพวกเค้าชื่นชอบและเชื่อถือในตัวของ Influencer จึงทำให้ธุรกิจหรือแบรนด์ต่างๆ ใช้กลยุทธ์ทำการตลาดผ่านอินฟูเอนเซอร์เหล่านี้ เพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มการเข้าถึงให้มากขึ้น รวมถึงยังช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้ากับแบรนด์ได้อีกด้วย 

คลิกอ่านเพิ่มเติม: 7 วิธีสำหรับ การสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ ตัวช่วยเพิ่มยอดขายให้ปัง ของธุรกิจออนไลน์ยุคนี้!

Influencer มีกี่ประเภท

NaNo Influencer

NaNo Influencer คือ อินฟูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามตั้งแต่หลัก 1,000 ขั้นไป ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนที่มีความชำนาญหรือเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งแม้ว่าจะยอดผู้ติดตามไม่มาก แต่ Influencer กลุ่มนี้มีอิทธิพลและมีผลต่อความคิด รวมถึงสามารถโน้มน้าวการตัดสินใจของผู้ติดตามได้เป็นอย่างดี

Micro Influencer

Micro Influencer คือ อินฟูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามตั้งแต่หลัก 10,000 – 100,000 เป็นกลุ่มคนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ แต่จะสามารถเข้าถึงคนได้มากกว่า Nano Influencer รวมถึงจะมีรูปแบบการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่หลากหลายมากขึ้น เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงคนหลากหลายกลุ่ม

Macro Influencer

Macro Influencer คือ อินฟูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามตั้งแต่หลัก 100,000 – 1 ล้านคน ซึ่งยังคงเป็น Influencers ที่มีความเฉพาะเจาะจงอยู่ ตัวอย่างเช่น Blogger, YouTuber ฯลฯ ที่สามารถเข้าถึงคนได้จำนวนมากขึ้น โดยจะกลุ่มนี้จะโดดเด่นด้านการสร้างสรรค์คอนเทนต์ ที่จะมีความเป็นมืออาชีพ มีการเล่าเรื่องที่ผ่านการวางแผนและมีความคิดสร้างสรรค์ พร้อมแทรกตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ได้อย่างลงตัว จึงเป็นผลดีในการสร้าง Brand Awareness และสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับความต้องการของแบรนด์ได้ดีขึ้น

Mega Influencer

Mega Influencer คือ อินฟูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามตั้งแต่หลัก 1 ล้านคนขึ้นไป โดยกลุ่มนี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นวงกว้างอย่าง นักแสดง นักร้อง นักกีฬา และ Celebrity จึงทำให้ Influencers กลุ่มนี้มีอิทธิพลมากๆ ในการสร้าง Brand Awareness ให้กับแบรนด์หรือธุรกิจ เพราะสามารถเข้าถึงคนได้จำนวนมากและหลากหลายกลุ่มในเวลาเดียวกัน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าตัวที่มีราคาสูงกว่าอินฟูเอนเซอร์ประเภทอื่นๆ

บทความแนะนำ: KOL คืออะไร? มีข้อดีที่ต่างจาก Influencer ยังไงบ้าง ทำการตลาดอย่างไรดี ให้ประสบความสำเร็จ!

หน้าที่ของ Influencer

หน้าที่ของ Influencer

สำหรับหน้าที่หลักๆ ของ Influencer ที่มีบทบาทในการทำการตลาดของแบรนด์ ก็คือการทำให้คนรู้จักและจดจำแบรนด์ ผ่านรูปแบบการโฆษณาโปรโมทสินค้า แนะนำสินค้า รวมถึงการแชร์ความคิดเห็น หรือแชร์ประสบการณ์จากการใช้สินค้าจริง เพื่อให้ผู้ติดตามของอินฟูเอนเซอร์ได้รู้จักแบรนด์ และเกิดความต้องการใช้หรือซื้อตามนั่นเอง นอกจากนี้หากมีการเลือกใช้ Influencers ที่มีจำนวนผู้ติดตามมากๆ อย่าง Mega Influencer ก็ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และเกิดภาพจำให้กับแบรนด์ได้อีกด้วย

การทำ Influencer Marketing มีข้อดีอะไรบ้าง?

1.ช่วยเพิ่มการเข้าถึงและขยายฐานลูกค้า

ข้อดีอย่างแรกเลยของ Influencer Marketing ก็คือการสามารถช่วยเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าหรือคนที่สนใจสินค้าได้ รวมถึงยังเป็นการช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ให้กับแบรนด์ได้อีกด้วย เนื่องจาก Influencers แต่ละคนก็จะมีกลุ่มผู้ติดตามที่แตกต่างกัน ดังนั้นเมื่อทำการโปรโมทและโฆษณาผ่านอินฟลูเอนเซอร์ ก็จะทำให้แบรนด์เข้าถึงและเป็นที่รู้จักของลูกค้าหลากหลายกลุ่มมากขึ้นนั่นเอง

2.ช่วยโน้มน้าวและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ

อย่างที่รู้กันไปแล้วว่าลักษณะสำคัญอย่างหนึ่งของ Influencer ก็คือการมีความเชี่ยวชาญ หรือมีความโดดเด่นที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งถือเป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ และเป็นผู้นำทางความคิดของผู้ติดตาม เมื่ออินฟลูเอนเซอร์ใช้สินค้าไหนแล้วดี ใช้แล้วชอบ ก็มีโอกาสสูงมากที่ผู้ติดตามจะลองหาซื้อมาใช้ตาม

คลิกอ่านเพิ่มเติม: การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า คืออะไร มีวิธียังไงบ้าง ให้ลูกค้าประทับใจและซื้อซ้ำ

3.สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์

Influencer นั้นถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และผู้คนที่ชื่นชอบและติดตามเป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้นการที่อินฟลูเอนเซอร์ยอมโฆษณาหรือโปรโมทสินค้าให้กับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง เขาจะต้องมั่นใจมากๆ ว่าสินค้านั้นดีจริง ไม่อย่างนั้นคงไม่กล้าเอาชื่อเสียงของตัวเองมาเสี่ยงแน่นอน ซึ่งเมื่อ Influencer มีการใช้สินค้าของแบรนด์นั้นๆ บ่อยๆ ก็จะทำให้เกิดภาพจำขึ้นมา ส่งผลให้แบรนด์มีภาพลักษณ์ที่ดี และมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

4.ติดตามและวัดผลได้ง่าย

เนื่องจาก Influencer เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ ดังนั้นทั้งช่องทางในการนำเสนอตัวตนและสื่อสารกับผู้ติดตาม ก็จะอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งหมด ซึ่งเมื่ออยู่บนออนไลน์ นั้นหมายความว่าเราในฐานะที่แบรนด์หรือธุรกิจ ก็จะสามารถติตตามและวัดผลของกิจกรรมทางการตลาดได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวัดยอด Like ยอดแชร์ หรือการส่วนร่วมของผู้ติดตาม (Engagement) ผ่านเครื่องมือวัดผลต่างๆ ที่มีสามารถใช้งานได้ทั้งแบบฟรีและเสียเงิน

หลักในการทำ Influencer Marketing 

หลักในการทำ Influencer Marketing 

1.ทำความเข้าใจสินค้าและกลุ่มเป้าหมาย

การจะทำ Influencer Marketing ให้ประสบความสำเร็จได้นั้น สิ่งแรกที่ต้องทำเลยก็คือ การทำความเข้าใจสินค้า และกลุ่มเป้าหมายของสินค้านั้นๆ ให้ดีเสียก่อน ว่ากลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นใคร เป็นเด็ก วัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ เพื่อให้ธุรกิจหรือแบรนด์สามารถวางแผนการทำการตลาด กำหนดรูปแบบคอนเทนต์ และเลือกประเภทของ Influencer ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.เลือก Influencer ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย

เมื่อรู้แล้วว่ากลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์ต้องการเข้าถึงคือใคร ขั้นตอนต่อมาก็จะเป็นการเลือก Influencer ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ซึ่งจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของแบรนด์ด้วย เช่น หากต้องการสร้างการรับรู้และเข้าถึงคนจำนวนมากเป็นวงกว้าง ก็อาจจะเลือกใช้เป็น Mega Influencer หรือหากต้องการเข้าถึงเฉพาะกลุ่มมากขึ้น ก็อาจจะเลือกเป็น Macro หรือ Micro Influencer แทน นอกจากนี้ก็ยังรวมถึงการเลือกวิธีนำเสนอที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายด้วย ว่าจะนำเสนอในรูปแบบของวิดีโอ รูปภาพ หรือการไลฟ์สด เป็นต้น

บทความอื่นที่น่าสนใจ:

3.กำหนดงบประมาณให้ชัดเจน

อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามในการทำ Influencer Marketing ก็คือการกำหนดงบประมาณในการทำกิจกรรมทางการตลาดผ่าน Influencer ให้มีความชัดเจน เพื่อที่แบรนด์จะได้สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังช่วยให้สามารถเปรียบเทียบผลลัพธ์ที่ได้กับค่าใช้จ่ายที่เสียไปได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

4.นำเสนอข้อมูลอย่างจริงใจ

แม้ว่า Influencer จะเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ แต่ผู้บริโภคในปัจจุบันเองก็มีการหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อสินค้ากันมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งหากแบรนด์ให้อินฟลูเอนเซอร์นำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือเป็นการอวยมากเกินไป ก็อาจจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ได้ ดังนั้นทางที่ดีควรนำเสนอข้อเท็จจริง และข้อมูลของสินค้าอย่างจริงใจ ไม่ทำการพูดอวยจนออกนอกหน้า รวมถึงยังควรให้ Influencer นำเสนอในรูปแบบที่เป็นตัวเอง มีความเป็นธรรมชาติ

5.ประเมินผลและพัฒนาปรับปรุง

การติดตามและประเมินผล ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากทั้งในการทำ Influencer Marketing และการทำการตลาดรูปแบบอื่นๆ เพราะการประเมินผลจะทำให้แบรนด์เห็นว่ากิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ที่ทำไปนั้นได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ และคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือไม่ เพื่อนำมาพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้นในครั้งต่อไป

แม้ว่าปัจจุบันการทำการตลาดแบบ Influencer Marketing คือตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าแบรนด์จะจ้าง Influencer ยังไงก็ได้ เพราะหากเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่ไม่เหมาะกับสินค้าและกลุ่มเป้าหมาย ก็อาจจะทำให้ได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นหากต้องการทำการตลาดด้วย Influencer ก็ควรที่จะมีการวางแผน กำหนดงบประมาณ และที่สำคัญคือเลือกอินฟลูเอนเซอร์ให้เหมาะสมด้วย ซึ่งหากทำได้ก็จะเป็นการช่วยเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ขยายฐานลูกค้า และเพิ่มยอดขายได้

รู้หรือไม่? ว่าหลายธุรกิจหรือแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ และมียอดขายเยอะๆ ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาไม่ได้มาคอยจัดการงานหลังบ้านอย่างการเก็บสต๊อก แพ็ค และส่งของเอง เพราะแม้ว่าจะเป็นงานที่มีความสำคัญ แต่สามารถหาคนมาช่วยทำแทนได้ ซึ่งตัวช่วยที่ได้รับความนิยม ก็คือบริการคลังจัดเก็บสินค้าแบบ “Fulfillment” ที่มีบริการอย่างครบวงจรตั้งแต่การเก็บ แพ็ค ส่งรวมไว้ในที่เดียว ช่วยให้ธุรกิจมีเวลาเหลือไปโฟกัสกับการขาย และการทำการตลาดได้มากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องงานหลังบ้านอีกต่อไป – อยากรู้ว่า Fufillment BY Packhai ดียังไง? -> คลิกที่นี่

บริการ Fulfillment Packhai

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *