8 วิธีแก้ไขเมื่อยอดขายตก ที่ธุรกิจต้องรู้ หากไม่อยากขาดทุน พร้อมบอกสาเหตุที่ธุรกิจควรระวัง!

วิธีแก้ไขเมื่อยอดขายตก ที่ธุรกิจต้องรู้

ยอดขายตก

ยอดขายตก ถือเป็นปัญหามีโอกาสเกิดขึ้นได้ในการทำธุรกิจ เป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งในปัจจุบันนี้การทำธุรกิจออนไลน์แน่นอนว่าย่อมมีการแข่งขันกันสูง ทำให้ธุรกิจไหนที่สู้ไม่ไหวเกิดปัญหายอดขายออนไลน์ตกได้ นอกจากการแข่งขันที่สูงแล้ว ปัจจัยภายนอกอย่างสภาพเศรษฐกิจเอง ก็เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนและธุรกิจไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งเมื่อวิกฤติทางเศรษฐกิจขึ้น ย่อมจะส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจเป็นวงกว้าง ดังนั้นแล้วธุรกิจจึงควรเข้าใจและรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหายอดขายตก เพื่อจะได้สามารถหาทางรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ

8 สาเหตุของการมียอดขายตก ที่ธุรกิจควรรู้และระวังให้ดี

1.ขาดการวางแผนที่ชัดเจน 

การวางแผนงานที่ชัดเจนในการทำธุรกิจ ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก หากขาดการวางแผนงานที่ชัดเจนก็อาจทำให้ร้านหรือธุรกิจมียอดขายที่ลดลง ซึ่งถ้าร้านหรือธุรกิจของคุณมีการวางแผนที่จริงจังและชัดเจน ก็จะช่วยทำให้ธุรกิจของคุณกลับมามียอดขายมากขึ้นอย่างแน่นอน

2.ทำการตลาดด้านเดียว

สำหรับสาเหตุที่ยอดขายตก ก็มักจะมีสาเหตุมาจากการที่ร้านค้าหรือธุรกิจเลือกที่จะทำการตลาดเพียงด้านเดียว ซึ่งคุณอาจจะหันมีการสอบถามเพื่อฟังความคิดเห็นของลูกค้าว่าต้องการและควรปรับอะไรบ้าง เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจของเรานั่นเอง

3.ขายของไม่ได้

การขายของไม่ได้ แน่นอนว่าเป็นสาเหตุหลักในการทำให้สินค้ายอดขายลดลงหรือยอดขายไม่ถึงเป้า ซึ่งคุณจะต้องมีการปรับเปลี่ยนการขายหรือคอนเทนต์ให้เกิดความน่าสนใจมากขึ้น

4.ไม่สามารถรักษาลูกค้าเก่าได้

สำหรับลูกค้าเก่า ถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับร้านค้าหรือธุรกิจ หากขาดกลุ่มลูกค้าเก่าไปก็แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีเอามากๆ เพราะลูกค้าเก่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่จะช่วยประคองธุรกิจให้รอดพ้นยามเกิดวิกิจนั่นเอง

คลิกอ่านเพิ่มเติม: เผย 5 เทคนิค รักษาฐานลูกค้าเก่า ที่ได้ผล มีการกลับมาซื้อซ้ำแน่นอน

ไม่มีการพัฒนาปรับปรุง

5.ไม่มีการพัฒนาปรับปรุง

จะเห็นได้ว่าธุรกิจใหญ่ๆมักจะมีการพัฒนาหรือปรับปรุงสินค้าตัวใหม่ออกมาตลอดเวลา เพราะธุรกิจจะต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา จึงจะสามารถอยู่ได้ อีกทั้งการพัฒนาสินค้าออกมาใหม่ก็ยังเป็นการเพิ่มความตื่นเต้นให้กับลูกค้าอีกด้วย

6.ไม่เข้าใจในธุรกิจของตนเอง

สำหรับการทำธุรกิจ ก่อนอื่นคุณจะต้องมีความเข้าใจในธุรกิจของตนเองก่อนว่าจะกำลังทำอะไรอยู่ เพราะหากคุณไม่เข้าใจอะไรเลยเกี่ยวกับธุรกิจของตนเอง แน่นอนว่าจะทำให้เกิดปัญหายอดขายตกและขายสินค้าไม่ได้นั่นเอง

7.มองข้ามการใช้เทคโนโลยี

เทคโนโลยีในปัจจุบันนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่ทำธุรกิจก็จะต้องอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำให้ธุรกิจกลายเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น ดังนั้นคุณจึงไม่ควรมองข้ามการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำการขาย

บทความอื่นที่น่าสนใจ:

8.ไม่เข้าใจพฤติกรรมลูกค้า

การเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า ถือเป็นเรื่องที่ได้เปรียบและเป็นเรื่องที่ดีมากๆสำหรับการทำธุรกิจ หากคุณมีความเข้าใจในพฤติกรรมลูกค้า ก็จะสามารถคุมเกมได้ว่ายอดขายจะเป็นเท่าไหร่นั่นเอง

ยอดขายตก ทำยังไงดี

ยอดขายตก ทำยังไงดี ? มีวิธีแก้ไขและรับมืออย่างไรบ้าง

1.เพิ่มช่องทางในการขายสินค้า

สำหรับช่องทางในการขายหรือจำหน่ายสินค้า เป็นวิธีการรับมือที่จะช่วยทำให้คุณมียอดขายที่เพิ่มมากขึ้นได้อย่างมาน่าเชื่อ เพราะช่องทางในการขายสินค้าในปัจจุบันนี้มีหลากหลายช่องทาง ซึ่งคุณก็สามารถเลือกช่องทางในการขายได้ตามความต้องการเลย

คลิกอ่านเพิ่มเติม: 5 แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ ที่ขายง่ายลูกค้าเยอะ เป็นที่นิยมในตอนนี้

2.ทำโปรโมชั่น ส่วนลด

การแจกส่วนลดหรือโปรโมชั่น จะเป็นในวิธีการรับมือที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะใครก็ชื่นชอบสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาถูกและคุ้มค่าอยู๋แล้ว ดังนั้นการจัดโปรโมชั่นจึงเป็นวิธีการช่วยแก้ปัญหายอดขายลดลงที่ตอบโจทย์มากที่สุด

3.ใช้กลยุทธ์ Upselling 

สำหรับการใช้กลยุทธ์ Upselling ถือเป็นวิธีการแก้ไขที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบันนี้ เป็นการทำการให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกจ่ายมากกว่าที่ตั้งใจเอาไว้ แต่ก็ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกพึ่งพอใจและรู้สึกว่าคุ้มค่าด้วยเช่นกัน

4.สำรวจความต้องการของลูกค้า

การสำรวจความต้องการของลูกค้า เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งจะช่วยทำให้คุณสามารถมียอดขายที่เพิ่มมากขึ้นได้ เพราะการสำรวจความต้องการของลูกค้าจะช่วยทำให้คุณขายสินค้าได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า

5.สำรวจตลาดและคู่แข่ง

การสำรวจตลาด เป็นหนึ่งในวิธีการที่ช่วยวิเคราะห์ยอดขายตกที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างมาก เพราะการสำรวจตลาดจะช่วยทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถรับรู้ได้ว่าตอนนี้ตลาดต้องการสินค้าแบบไหน หรือเรียกได้ว่าเป็นการตามเทรนนั่นเอง

บริการ Fulfillment Packhai

6.ใช้คลังสินค้า Fulfillment

หลายคนอาจจะสงสัยว่าหากมีการใช้บริการคลังเก็บสินค้าออนไลน์แล้ว จะช่วยในเรื่องยอดขายออนไลน์ลดลงได้อย่างไร ซึ่งต้องบอกเลยว่าสามารถทำได้ เพราะการใช้บริการคลังเก็บสินค้าออนไลน์หรือ Fulfillment จะช่วยทำให้คุณมีเวลาในการขายสินค้ามากขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับระบบหลังบ้าน

คลิกอ่านเพิ่มเติม: ข้อดี – ข้อเสีย Fulfillment มีอะไรบ้าง? ที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ต้องรู้ก่อนใช้บริการ

7.ถาม Feedback

การถาม Feedback จากลูกค้าที่เข้ามาสั่งซื้อสินค้าจากร้านของเรา เป็นวิธีช่วยแก้ปัญหาที่หลายคนมองข้าม ซึ่งคุณสามารถสอบถามคำแนะนำจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้ทั้งการ โทร แชท และถามตรงๆ 

8.โพสต์ให้ความรู้กับลูกค้า

เนื่องจากลูกค้าบางคนยังไม่รู้จักกับสินค้าของธุรกิจคุณดีพอ รวมถึงลูกค้าหลายๆ คนยังไม่รู้จักกับธุรกิจของคุณ การโพสต์หรือทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการให้ความรู้ จึงเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ลูกค้ารู้จักกับธุรกิจของคุณได้ดีมากยิ่งขึ้น และเมื่อลูกค้าเข้าใจและมีข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าของร้านมากขึ้น ก็จะเป็นการช่วยกระตุ้นความต้องการของลูกค้าได้

ในการทำธุรกิจนั้นมีโอกาสที่จะเจอกับช่วงที่ ยอดขายตก กันทั้งนั้น โดยสาเหตุอาจจะมาทั้งจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น สภาพเศรษฐกิจ หรือค่าเงิน และอาจมาจากปัจจัยภายในอย่าง การวางแผนการขายหรือจัดการงานต่างๆ ได้ไม่ดีพอ เช่น มีคนไม่พอ ทำให้แพ็คและส่งของได้ช้า เกิดการตกหล่นได้ง่าย ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่าปัจจัยภายนอกต่างๆ ธุรกิจไม่สามารถไปแก้ไขอะไรได้ แต่สามารถรับมือกับปัญหายอดขายตก ด้วยการปรับปรุงการทำงานของตัวเองได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มยอดขายนั่นเอง 

โดยวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมและถูกพิสูจน์แล้วว่าได้ผลดีมากๆ ในการช่วยธุรกิจจัดการงานหลังบ้านและเพิ่มยอดขายได้ ก็คือการใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์แบบ Fulfillment ของ Packhai ที่จะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกด้านการ เก็บ แพ็ค ส่ง ให้กับธุรกิจแบบ One Stop Service โดยที่ธุรกิจไม่ต้องมาคอยดูแลงานเหล่านี้เอง ทำให้มีเวลาไปโฟกัสกับการขาย พัฒนาสินค้า และการทำการตลาด เพื่อเพิ่มยอดขายได้อย่างเต็มที่ – อยากรู้ว่า Fufillment BY Packhai ดียังไง? -> คลิกที่นี่

ราคาค่าบริการ fulfillment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *