ค่าเสื่อมราคา คืออะไร ?

ค่าเสื่อมราคา (Depreciation) คือ ค่าใช้จ่ายที่จะต้องถูกนำไปคำนวณจากสินทรัพย์ถาวรที่ธุรกิจจัดซื้อเข้ามา เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในแต่ละปี และเนื่องจากสินทรัพย์ถาวรต่างๆ นั้นมีต้นทุนที่สูง และมีการนำมาใช้งานได้เกิน 1 รอบระยะเวลาบัญชี โดยหากจะให้อธิบายให้สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ ค่าเสื่องราคาก็คือหลักการหนึ่งทางบัญชี ที่หากไม่มีวิธีในการหักค่าเสื่อมราคา เงินที่ทำการลงทุนก็จะกลายเป็นค่าใช้จ่ายไปทันที และแน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อกำไรและขาดทุน ดังนั้นจึงต้องมีการหักเป็นค่าเสื่อมราคาอย่างถูกต้อง เพื่อคิดต้นทุนให้เหมาะสมกับการคำนวณกำไรขาดทุนภาษีนั่นเอง

ทำไมธุรกิจต้องคำนวณค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์

สำหรับหลายคนในปัจจุบันนี้ก็คงจะสงสัยกันไม่น้อยเลยว่าทำไมธุรกิจต้องคำนวณค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ นั้นก็เป็นเพราะการปันส่วนต้นทุนของสินทรัพย์ถาวรที่มีตัวตนเป็นค่าใช้จ่ายแบบตลอดอายุการใช้งานและทำให้จำนวนกำไรขาดทุนมีความสมเหตุสมผลกัน อีกทั้งหากไม่มีการบันทึกค่าเสื่อมราคาก็จะทำให้เงินที่ได้จ่ายเพื่อซื้อสินทรัพย์ถาวรถูกบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั่นเอง

คลิกอ่านเพิ่มเติม :

• ต้นทุนการผลิต คืออะไร ? ประกอบด้วยต้นทุนอะไรบ้าง มีวิธีการคำนวณและลดต้นทุนการผลิตอย่างไร
• ต้นทุนแฝง (Hidden Cost) คืออะไร ? ส่งผลเสียอย่างไรต่อธุรกิจ วิธีป้องกันและลดต้นทุนแฝง มีอะไรบ้าง

วิธีคิดค่าเสื่อมราคา มีกี่วิธี ?

สำหรับวิธีในการคิดค่าเสื่อมราคา มักจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีสำหรับองค์กรทางการบัญชี ส่วนคนทั่วไปก็อาจจะไม่รู้จักกับวิธีการคิดค่าเสื่อมราคา โดยวิธีการคิดค่าเสื่อมราคา มี 4 วิธีหลักๆ ดังนี้

1. วิธีการคิดค่าเสื่อมราคาแบบเส้นตรง

2. วิธีการคิดค่าเสื่อมราคาแบบอัตราเร่ง

3. วิธีการคิดค่าเสื่อมราคาตามจำนวนผลผลิต

4. วิธีการคิดค่าเสื่อมราคารวมจำนวนปี

การคิดค่าเสื่อมราคาแบบเส้นตรง

การค่าเสื่อมราคาแบบเส้นตรงนั้นถือเป็นวิธีที่ได้รับนิยม เป็นวิธีคิดค่าเสื่อมราคาที่เหมาะสมกับอุปกรณ์ เครื่องจักร หรือเครื่องใช้ต่างๆ ของธุรกิจ โดยจะสามารถคำนวณด้วยการนำเอาราคาต้นทุนของอุปกรณ์ มาลบด้วยมูลค่าซาก และหารด้วยอายุการใช้งาน ดังนี้

สูตรการคำนวณค่าเสื่อมราคาแบบเส้นตรงค่าเสื่อมราคา = (ราคาต้นทุน – มูลค่าซาก) / อายุการใช้งาน

ตัวอย่างเช่น : นายโทระสั่งซื้อเครื่องจักรมูลค่า 50,000 บาท มีมูลค่าซาก 5,000 บาท มีอายุในการใช้งาน 5 ปี ก็จะสามารถตั้งสูตรคำนวณได้ดังนี้

ค่าเสื่อมราคา = (50,000 – 5,000) / 5 ปี = 9,000 บาท

ก็จะเห็นได้ว่าการคำนวณหาค่าเสื่อมราคา นั้นถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมากในการทำธุรกิจ เพราะสามารถช่วยทำให้การทำบัญชีในกิจการมีความถูกต้อง แม่นยำและมีความน่าเชื่อถือ รวมไปถึงยังเป็นตัวช่วยที่ทำให้ธุรกิจสามารถประเมินสถานการณ์ต้นทุนและค่าใช้จ่ายล่วงหน้าได้อีกด้วย ซึ่งยิ่งธุรกิจมีสินทรัพย์ต่างๆ ทั้งสินทรัพทย์ในสำนักงาน โรงงาน หรือในคลังจัดเก็บสินค้าจำนวนมาก ก็ยิ่งต้องคำนวณค่าเสื่อมราคาและมูลค่าที่ลดลงของสินทรัพย์ให้ดี

ดังนั้นหากธุรกิจไหนที่อยากลดต้นทุนด้านค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ โดยเฉพาะอุปกรณ์ในคลังสินค้า การเลือกใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์ Fulfillment ของ Packhai ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากๆ เพราะธุรกิจไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ต่างๆ เอง และที่สำคัญคือไม่ต้องดูแลงานด้านการจัดเก็บ แพ็ค และส่งสินค้าเอง ปล่อยให้ Fulfillment จัดการให้ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการทำงานได้เป็นอย่างดี

อยากรู้ว่าคลังสินค้าออนไลน์ Fulfillment Packhai ดีกว่าเจ้าอื่นยังไง ? : คลิกที่นี่

ทดลองใช้บริการ Fulfillment

Fulfillment ตัวช่วยคนขายของออนไลน์ ที่ช่วยลดต้นทุนการขายสินค้า ลดเวลาการทำงาน มีเวลาโฟกัสยอดขายได้มากขึ้น

สมัครใช้บริการ คลิกดูค่าบริการ