ธุรกิจแบบ B2B B2C B2B2C แตกต่างกันอย่างไร มีลักษณะเป็นแบบไหน มีกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างไรบ้าง ?

ธุรกิจแบบ B2B B2C B2B2C แตกต่างกันอย่างไร

ธุรกิจแบบ B2B B2C และ B2B2C

ในปัจจุบันนั้นมีรูปแบบการทำธุรกิจอยู่หลากหลายแบบด้วยกัน โดยเฉพาะในยุคนี้ที่ธุรกิจออนไลน์กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด และการเข้ามามีบทบาทของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เกิดรูปแบบการทำธุรกิจแบบใหม่ๆ ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบบ B2B B2C และแบบ B2B2C

ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีลักษณะการดำเนินธุรกิจ ลักษณะของสินค้าหรือบริการ รวมถึงมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างกันไป  ธุรกิจจึงควรเข้าใจความแตกต่างของทั้ง 3 แบบ และระบุให้ได้ว่าธุรกิจที่ทำอยู่นั้นเป็นธุรกิจรูปแบบไหน

B2B คือ

ธุรกิจ B2B

ธุรกิจ B2B ถือเป็นรูปแบบการทำธุรกิจที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นรูปแบบที่ทำกันมานานแล้ว โดยจะเป็นการทำการค้ากันระหว่าง “ ธุรกิจกับธุรกิจ ” จึงทำให้สเกลในการซื้อขายนั้นมีขนาดใหญ่ ซึ่งในการเลือกคู่ค้าทางธุรกิจแบบ B2B จำเป็นจะต้องเลือกธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้สามารถทำการซื้อขายได้อย่างมั่นใจ และยังเป็นผลดีต่อการสร้างความสัมพันธ์กันในระยะยาวได้อีกด้วย

ธุรกิจ B2B คืออะไร

การทำธุรกิจแบบ B2B คือ รูปแบบการทำธุรกิจระหว่างธุรกิจกับธุรกิจด้วยกัน ทำให้กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจกลุ่มนี้ไม่ใช่ลูกค้าโดยตรง แต่เป็นธุรกิจทั้งที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน หรือต่างอุตสาหกรรมกันก็ได้ ซึ่งวัตถุประสงค์หลักในการซื้อขายกันนั้น จะเป็นการซื้อเพื่อนำสินค้าไปเป็นวัตถุดิบ หรือนำไปทำการผลิตต่ออีกที จะไม่ใช่การซื้อเพื่อนำไปบริโภคเอง และด้วยความที่เป็นการซื้อขายระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ จึงทำให้มีมูลค่าการซื้อขายที่สูง และมีปริมาณการซื้อครั้งละมากๆ

B2B คือ

ธุรกิจ B2C

ธุรกิจ B2C เป็นรูปแบบการทำธุรกิจที่พบได้บ่อยที่สุด และสามารถเริ่มต้นได้ง่าย เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนมาก จึงสามารถพบได้ทั้งธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง ไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจจะทำการขายสินค้าให้ลูกค้าโดยตรง โดยจะเป็นการซื้อเพื่อสนองความต้องการส่วนบุคคล และเป็นการซื้อขายในระยะสั้น หรืออาจจะเป็นการซื้อแบบทันทีทันใด ซึ่งธุรกิจแบบ B2C จะดึงดูดลูกค้าผ่านการโฆษณาโปรโมทสินค้า และการเสนอโปรโมชั่นต่างๆ เช่น การลงโฆษณา Facebook

บทความเกี่ยวกับการลงโฆษณา Facebook ที่น่าสนใจ

ธุรกิจ B2C คืออะไร

การทำธุรกิจแบบ B2C คือ รูปแบบการซื้อขายสินค้าหรือบริการระหว่าง “ ธุรกิจกับลูกค้า ” ซึ่งจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อสินค้า เพื่อนำไปบริโภคเองหรือใช้งานโดยตรง ตัวอย่างการทำธุรกิจรูปแบบนี้ เช่น การทำธุรกิจซื้อมาขายไป หรือการทำธุรกิจขายของออนไลน์ ฯลฯ ซึ่งจำเป็นต้องมีการจัดเก็บสินค้าคงคลัง

B2C2B

ธุรกิจ B2B2C

การทำธุรกิจแบบ B2B2C นั้นได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำธุรกิจแบบ E-commerce เนื่องจากจะมีธุรกิจผู้ให้บริการที่เป็นแพลตฟอร์มตัวกลางให้ธุรกิจหรือร้านค้าออนไลน์ได้เข้ามาขายสินค้า ส่วนผู้ให้บริการแพลตฟอร์มก็มีหน้าที่ในการดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้า ซึ่งเหมาะมากสำหรับธุรกิจออนไลน์ขนาดเล็กที่ยังไม่ค่อยมีฐานลูกค้า การเข้ามาขายผ่านตัวกลางจึงช่วยให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

ธุรกิจ B2B2C คืออะไร

ธุรกิจ B2B2C คือ รูปแบบการทำธุรกิจที่มีธุรกิจหนึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการซื้อขายสินค้า ระหว่างอีกธุรกิจหนึ่งกับผู้บริโภค  สำหรับธุรกิจรูปแบบนี้ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน จะเป็นการให้บริการแพลตฟอร์ม Marketplace เช่น Shopee Lazada Amazon ฯลฯ ซึ่งภายในแพลตฟอร์มก็จะรวบรวมธุรกิจหรือร้านค้าออนไลน์จำนวนมากเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกที่มากขึ้น และยังง่ายต่อการค้นหาสินค้าที่ต้องการด้วย ส่วนธุรกิจเองก็จะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ถือเป็นการทำธุรกิจที่ win-win กันทุกฝ่าย

ธุรกิจ B2B VS ธุรกิจ B2C แตกต่างกันอย่างไร

สำหรับธุรกิจแบบ B2B จะเป็นการซื้อขายกันในปริมาณมาก และมีมูลค่าสูง ทำให้มีรายละเอียดหรือขั้นตอนการดำเนินงานที่ซับซ้อน และต้องทำการตัดสินใจอย่างรอบคอบ โดยจะเน้นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันในระยะยาว เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของธุรกิจ

ส่วนธุรกิจแบบ B2C จะเป็นการขายสินค้าให้กับลูกค้าโดยตรง จึงมีความซับซ้อนที่น้อยกว่า และทำการซื้อขายสินค้ากันในระยะสั้นๆ โดยจะให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก

ธุรกิจ B2B VS ธุรกิจ B2B2C  แตกต่างกันอย่างไร

ธุรกิจแบบ B2B2C นั้นเหมือนเป็นการรวมเอารูปแบบของ B2B กับ B2C เข้าด้วยกัน ซึ่งจะมีธุรกิจที่เป็นตัวกลางเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการหาลูกค้า และยังช่วยบริการลูกค้าให้กับธุรกิจที่เข้ามาขายสินค้าอีกด้วย ต่างจากธุรกิจแบบ B2B ที่จะเป็นการซื้อขายสินค้าระหว่างธุรกิจด้วยกันเท่านั้น โดยฝ่านหนึ่งอาจจะเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบ ให้กับอีกธุรกิจหนึ่งเพื่อนำไปผลิตเป็นสินค้า แล้วจึงค่อยนำไปขายให้กับลูกค้าต่อไป

รูปแบบในการทำธุรกิจที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นแบบ B2B B2C หรือ B2B2C มีผลต่อลักษณะของสินค้าหรือบริการ การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงมีผลต่อกระบวนการตัดสินใจของธุรกิจด้วย ทำให้จำเป็นต้องระบุให้ได้ก่อนว่ารูปแบบที่ธุรกิจกำลังทำอยู่นั้นเป็นแบบไหน เพื่อที่จะได้สามารถทำการวางแผนกำหนดกลยุทธ์ในการแข่งขัน และกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างตรงจุด

ถึงแม้ว่าจะทำธุรกิจในรูปแบบไหนก็ตาม ก็ไม่ควรมองข้ามการหาตัวช่วยที่จะเข้ามาแบ่งเบาภาระในการทำงานให้กับธุรกิจ อย่างบริการคลังสินค้าออนไลน์ Fulfillment ที่ตอบโจทย์การทำธุรกิจออนไลน์ในยุคนี้มากๆ ไม่ว่าจะเป็นบริการรับฝากสินค้า การแพ็คและจัดส่งสินค้า พร้อมมีระบบจัดการออเดอร์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ธุรกิจสามารถใช้เวลาทั้งหมดไปโฟกัสกับงานด้านอื่นได้อย่างเต็มที่

ซึ่งคุณสามารถคลิกอ่านการใช้บริการ Fulfillment PACKHAI ผ่านช่องทางด้านล่างได้เลย คลังสินค้าออนไลน์ รับแพ็ค เก็บ ส่งแบบครบวงจร ราคาถูกที่สุดในประเทศไทย

เพื่อให้มีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการซื้อ ธุรกิจแบบ B2C ส่วนใหญ่จึงนิยมใช้บริการ Fulfillment ที่เป็นคลังสินค้าออนไลน์ รับฝาก เก็บ แพ็ค และจัดส่งสินค้า ช่วยอำนวยความสะดวก และลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจได้

บริการ Fulfillment Packhai

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *