Online Marketplace เชื่อว่าหลายๆ คนคงรู้จักหรือเคยได้ยินคำนี้กันคุ้นหูมาพอสมควร โดยเฉพาะคนที่ขายสินค้าในช่องทางออนไลน์ วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Online Marketplace ให้มากขึ้น ไปดูกันว่า Marketplace คืออะไร มีจุดเด่นอย่างไร รวมถึงมีความแตกต่างกับ E-Commerce อย่างไรด้วย ว่าแล้วเราลองไปดูคำตอบพร้อมๆ กัน
Marketplace คืออะไร
มาร์เก็ตเพลส – Marketplace คือ สถานที่พบปะของผู้ขายและผู้ซื้อ ที่ติดต่อซื้อขายและให้บริการกัน โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1.Offline Marketplace เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาด เป็นต้น
2.Online Marketplace ยกตัวอย่างเช่น Application ต่างๆ หรือเว็บไซต์ เป็นต้น
ในปัจจุบันนี้เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไป การตลาดออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ Online Marketplace กลายเป็นที่รู้จักหรือได้รับความนิยมกันอย่างกว้างขวาง
Online Marketplace เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับการซื้อขายบนโลกออนไลน์ แอพพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ต่างๆ ที่รวบรวมสินค้าและร้านค้าจำนวนมากไว้ด้วย กันผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เปรียบเสมือนห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าผู้ซื้อจะต้องการซื้ออะไร อยากได้สินค้าแบบไหน หรือผู้ขายอยากจะขายสินค้าอะไรก็สามารถทำได้ง่ายๆ Online Marketplace ที่มีชื่อเสียง ยกตัวอย่างเช่น Lazada, Shopee, Amazon, Ebay เป็นต้น ซึ่งเป็นเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าออนไลน์ รวมไปถึง Facebook ด้วย ไม่ว่าใครก็สามารถนำสินค้าลงไปขายได้ โดยอาจเป็นสินค้ามือ 1 มือ 2 ก็ตาม
คลิกอ่านเพิ่ม : สามารถ ขายของมือสอง ผ่านทาง Shopee ได้หรือไม่ สรุปคำตอบมาแล้วที่นี่
จุดเด่นของ Online Marketplace ที่ช่วยเพิ่มยอดขายสินค้า มีอะไรบ้าง
1.การซื้อของผ่าน Marketplace ทำให้สะดวกสบายในการซื้อสินค้า
ผู้ซื้อสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้ปลายนิ้ว โดยไม่ต้องเดินทางออกไปซื้อสินค้าข้างนอกให้สิ้นเปลืองเวลาหรือเปลืองค่าน้ำมันรถ
2.สามารถเปรียบเทียบราคาจาก Marketplace ต่างๆ ได้
ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบราคาของสินค้าที่ขายอยู่ในแต่ละร้านค้าที่จำหน่ายใน Marketplace ได้ เพื่อให้ได้สินค้าที่มีราคาถูกและคุ้มค่ามากที่สุด
3.บนมาร์เก็ตเพลสมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย
Online Marketplace ช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ซื้อ ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินผ่าน Internet Banking ชำระผ่านบัตรเครดิต ชำระผ่าน PayPal ฯลฯ
4.การขายสินค้าบน Marketplace ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องสถานที่ขาย
ผู้ขาย ไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดหาสถานที่ขายให้ยุ่งยาก หรือมีค่าใช้จ่ายในการเช่าร้านที่แพง นอกจากการจัดหาสถานที่ขายแล้วยังอาจต้องมาปวดหัวเรื่องการจัดการร้านค้าหรือการจัดวางสินค้าต่างๆ ด้วยเช่นเดียวกัน
5.ผู้ขายสามารถจัดโปรโมชั่นได้ง่ายๆ เมื่อขายสินค้าบน Marketplace
ทางร้านค้าหรือผู้ขาย สามารถจัดโปรโมชั่นหรือให้คูปองส่วนลดได้เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขาย ทำให้มียอดสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้นส่งผลให้มีกำไรเพิ่มมากขึ้นไปด้วยนั่นเอง
ตัวอย่าง Marketplace Online ที่ได้รับความนิยม
1.Facebook Marketplace
Facebook เป็น Social Media ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากของคนทั่วโลกและได้เปิดตัว Facebook Marketplace ซึ่งเป็นแหล่งรวมประกาศขายสินค้าออนไลน์บน Facebook เรียกได้ว่าเป็นฟีเจอร์ที่ใครหลายๆ คนต่างก็ให้ความสนใจ ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ข้อดีคือไม่จำเป็นต้องมีเพจทางร้านค้า เพียงมี Facebook ส่วนตัว ก็สามารถโพสต์ขายสินค้าใน Facebook Marketplace ได้เลย
2.Lazada
Lazada เป็น e-marketplace ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยของเรา Lazada ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2012 มีสินค้ามากกว่า 300 ล้านชิ้น และส่งมอบสินค้าหลากหลายประเภทหลากหลายหมวดหมู่ ตั้งแต่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไปจนถึงสินค้าที่ใช้ภายในบ้าน สินค้าแฟชั่น ของเล่นเด็ก อุปกรณ์กีฬาและสินค้าอุปโภคบริโภค ฯลฯ
3.Shopee
Shopee เป็นตลาดอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ก่อตั้งขึ้นมาอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2558 ณ ประเทศสิงคโปร์ ต่อมาได้ขยายกิจการไปยังประเทศมาเลเซีย ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนามและไทยเรา Lazada เป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีในการซื้อสินค้า รวมถึงให้ผู้ขายสามารถเข้ามาขายสินค้าออนไลน์ได้แบบฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
4.Zilingo
ตลาด Marketplace Online จำหน่ายสินค้าแฟชั่นแห่งใหม่ ที่กำลังมาแรงในประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย รวมถึงประเทศไทยแหล่งจำหน่ายสินค้าที่มีความทันสมัย แบรนด์ชั้นนำมากมายหลายพันรายการ สินค้าแบรนด์แท้ แบรนด์อินดี้ มีดีไซน์สวยงามทันสมัย พร้อมส่งตรงถึงหน้าบ้านคุณ
ข้อควรระวังเมื่อขายของผ่าน Marketplace
1.คู่แข่งทางการตลาด
เนื่องจาก Online marketplace ใครๆ ก็สามารถลงขายสินค้าได้ นั่นหมายความว่าคุณอาจมีคู่แข่งทางการตลาดที่สูง จึงทำให้ผู้ขายต้องคิดค้นกลยุทธ์ในการขายตลอดเวลา เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าอยู่เสมอ
2.การฉ้อโกง
เนื่องจากผู้ซื้ออาจต้องจ่ายเงินก่อนที่ทางร้านค้าจะทำการจัดส่งสินค้าให้ จึงอาจต้องระมัดระวังเพราะอาจทำให้เกิดการฉ้อโกงขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม Online Marketplace แต่ละแห่งจะมีมาตรการและระบบรับรองการจัดการที่ดี เพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดให้กับทางผู้ซื้อและผู้ขาย
3.เลือก Online Marketplace ให้เหมาะสม
เมื่อ Online Marketplace มีลูกค้าเข้ามาใช้งานมากขึ้น ผู้ขายก็ต้องเลือก Online Marketplace ในช่องทางที่เหมาะสมกับสินค้าของตนเอง และให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ซื้อด้วยเช่นเดียวกัน
Marketplace ต่างกับ E-Commerce อย่างไร
Marketplace เป็นแพลตฟอร์มที่มีได้ทั้ง แอพฯ และเว็บไซต์สำหรับขายสินค้า โดยเฉพาะ Online Marketplace ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ส่วน e-commerce คือ เว็บไซต์ที่เจ้าของแบรนด์หรือเจ้าของธุรกิจได้ออกแบบและพัฒนาขึ้นมาเอง รวมถึงมีการดูแลการจัดการระบบหลังบ้านและระบบการจัดซื้อทั้งหมดด้วยตนเอง
สำหรับความแตกต่างระหว่าง Marketplace กับ e-commerce นั้น หากเป็น Marketplace จะมีข้อดีคือ ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นที่ไม่สูงมาก มีระบบให้ใช้บริการแบบครบครัน และมีคนเข้าถึงร้านได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลามาปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ หรือจัดการระบบหลังบ้านให้ยุ่งยากวุ่นวาย
แต่ถึงแม้ว่า e-commerce จะมีการจัดการระบบหลังบ้านด้วยตนเอง แต่ก็มีข้อดีคือสามารถออกแบบหรือปรับแต่งได้ตามความต้องการ นอกจากนั้นยังสามารถเก็บข้อมูลลูกค้าได้ด้วย ไปจนถึงการทำโฆษณาเพื่อดึงคนเข้าเว็บไซต์ ซึ่ง Marketplace กับ e-commerce นั้น ต่างก็มีข้อดีหรือมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจหรือผู้ขายจะเลือกใช้กลยุทธ์ไหนในการทำการตลาด
ไม่ว่าผู้ขายจะใช้กลยุทธ์ใดในการทำการตลาด ก็อย่าลืมให้ความสำคัญในเรื่องของการแพ็คสินค้าที่มีคุณภาพ การสต๊อกสินค้าอย่างเป็นระบบ และการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็ว และถ้าหากคุณไม่สะดวก ไม่มีประสบการณ์ในการแพ็คสินค้า ไม่มีพื้นที่จัดเก็บสินค้า ไปจนถึงไม่มีรถจัดส่งสินค้าที่รวดเร็ว ก็สามารถใช้บริการ Fulfillment ได้ บริการ Fulfillment หรือ บริการคลังสินค้าออนไลน์สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแน่นอน ซึ่งคุณสามารถคลิกดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PACKHAI Fulfillment ได้เลยที่นี่ : บริการ Fulfillment PACKHAI ดีกว่าอย่างไร รับรองว่าตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ 100%