จดทะเบียนขายของออนไลน์ ต้องทำไหม จดทะเบียนอะไรบ้าง มีวิธีการทำเรื่องอย่างไร Update ปี 2023

การจดทะเบียนขายของออนไลน์ จำเป็นไหม

จดทะเบียนขายของออนไลน์

การขอขึ้น จดทะเบียนขายของออนไลน์ ถือเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญในการเริ่มต้นธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ แต่ก็ยังมีเหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์อีกจำนวนไม่น้อยเลย ที่ยังไม่รู้ว่าการทำธุรกิจนั้นจำเป็นจะต้องมีการจดทะเบียนการค้า หรือจดทะเบียนพาณิชย์ด้วย ซึ่งหากถูกตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่ได้มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง ก็จะมีความผิดทางกฎหมาย และถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท ดังนั้นทางที่ดีจึงควรจดทะเบียนขายของออนไลน์ให้เรียบร้อยตั้งแต่แรก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นได้ในภายหลัง และยังเป็นการช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าออนไลน์อีกทางหนึ่งด้วย

จดทะเบียนขายของออนไลน์ คืออะไร

จดทะเบียนขายของออนไลน์ คือ การจดทะเบียนพาณิชย์ หรือ จดทะเบียนการค้า กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อเป็นการรับรองว่า ธุรกิจหรือร้านค้าออนไลน์ได้ทำการยืนยันตัวตนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และสามารถตรวจสอบได้หากเกิดปัญหาขึ้นกับผู้บริโภค ซึ่งการจดทะเบียนขายของออนไลน์จะเป็นการช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้า และเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภคที่มาซื้อสินค้าได้

ขายของออนไลน์ต้องจดทะเบียนไหม

ในการทำธุรกิจขายของออนไลน์ แม้ว่าจะไม่ได้มีหน้าร้าน ก็ยังจำเป็นจะต้อง จดทะเบียนค้าขายออนไลน์ ให้ถูกต้อง โดยจะต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะใช้สำหรับธุรกิจที่มีการดำเนินงานในรูปแบบออนไลน์ อาทิเช่น การขายสินค้าออนไลน์ การทำธุรกิจในรูปแบบ E-Marketplace รวมถึงผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต ฯลฯ โดยควรยื่นขอจดทะเบียนขายของออนไลน์ภายใน 30 วัน หลังจากเริ่มประกอบธุรกิจ และควรปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ อย่างเคร่งครัด เพื่อลดข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหลังได้

ทำไมต้องจดทะเบียนขายของออนไลน์

ทำไมต้องจดทะเบียนขายของออนไลน์

  • การจดทะเบียนขายของออนไลน์จะบ่งบอกว่าธุรกิจนั้นมีตัวตนอยู่จริง และช่วยให้มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นในสายตาของผู้บริโภค
  • ธุรกิจที่จดทะเบียนขายของออนไลน์แล้ว สามารถใช้สิทธิ์เข้าร่วมหลักสูตรการอบรมกับทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ฟรี เพื่อนำมาปรับใช้กับการประกอบธุรกิจของตนเอง
  • ธุรกิจที่จดทะเบียนขายของออนไลน์แล้ว สามารถขอ DBD Registered ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองผู้ประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และขอ DBD Verified เพื่อรับรองคุณภาพธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้
  • ธุรกิจที่จดทะเบียนการค้าขายของออนไลน์ สามารถใช้หลักฐานการจดทะเบียนพาณิชย์ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในการกู้ยืมเงิน ขอสินเชื่อ กับทางธนาคารหรือสถาบันทางการเงินได้

ขายของออนไลน์ต้องจดทะเบียนอะไรบ้าง

1. จดทะเบียนพาณิชย์

ในการประกอบธุรกิจค้าขายสินค้าหรือบริการ ทั้งแบบมีหน้าร้าน และแบบออนไลน์ ต่างก็จำเป็นต้องทำการจดทะเบียนการค้า หรือจดทะเบียนพาณิชย์ โดยจะแตกต่างกันที่การขายสินค้าแบบมีหน้าร้าน จะจดทะเบียนพาณิชย์แบบธรรมดา ส่วนการขายสินค้าออนไลน์และธุรกิจออนไลน์อื่นๆ จะต้องจดทะเบียนพาณิชย์แบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ช่วยรับรองได้ว่าธุรกิจมีการดำเนินงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

2. จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

เมื่อธุรกิจมีรายได้เกิดขึ้นจากการขายสินค้าหรือบริการ ธุรกิจจึงจำเป็นต้องมีการเสียภาษีให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด โดยจะสามารถจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่ต้องการ แต่หากธุรกิจมีรายได้ที่ไม่ได้รับการยกเว้นภาษีเกิน 1.8 ล้านบาท จะต้องรีบทำการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มทันที ซึ่งหากไม่จดทะเบียนหลังมีรายได้เกิน ก็จะมีความผิดตามกฎหมาย 

3. จดทะเบียนรับรองอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

สำหรับธุรกิจที่ขายสินค้าบางประเภทที่อาจจำเป็นต้องได้รับการรับรองก่อนจึงจะสามารถขายได้อย่างถูกต้อง ทำให้ธุรกิจต้องยื่นขอจดทะเบียนกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมด้วย เช่น การจดทะเบียน อย. สำหรับสินค้าประเภทอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่ม ฯลฯ ซึ่งการจดทะเบียนจะเป็นการรับรองว่าสินค้าที่นำมาขายนั้น ได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพ มีมาตรฐาน และมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค 

จดทะเบียนขายของออนไลน์ ใช้เอกสารอะไรบ้าง

จดทะเบียนขายของออนไลน์ ใช้เอกสารอะไรบ้าง

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของธุรกิจ
  • แบบฟอร์มจดทะเบียนพาณิชย์ หรือ ทพ. ที่กรองรายละเอียดข้อ 1 – 8 สำหรับบุคคลธรรมดา หากเป็นนิติบุคคลต้องกรอกข้อ 1 – 8 และข้อ 12 
  • เอกสารแนบ ทพ. เพื่อใช้ประกอบการจดทะเบียนพาณิชย์
  • ปริ้นท์หลักฐานหน้าแรกของร้านค้าออนไลน์ สินค้าหรือบริการที่ขาย รวมถึงวิธีการสั่งซื้อ วิธีชำระเงิน และวิธีการจัดส่ง
  • วาดแผนที่เพื่อแสดงที่ตั้งของสถานประกอบการ
  • สำหรับธุรกิจที่เป็นนิติบุคคลจะต้องเตรียมหนังสือรับรองการจดทะเบียนของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท
  • หากมีการมอบอำนาจให้ผู้อื่นทำแทน จะต้องแนบหนังสือมอบอำนาจ พร้อมติดอากรแสตมป์ และสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
  • เอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ในกรณีที่ไม่ได้เป็นเจ้าของสถานที่ตั้งของสถานประกอบการ จะต้องมีหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ หรือสัญญาเช่าสถานที่ พร้อมกับสำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน และเอกสารสิทธิ์ของเจ้าของสถานที่ตั้ง เพื่อใช้ประกอบการขอยื่นจดทะเบียน

วิธีจดทะเบียนขายของออนไลน์

1. ยื่นแบบฟอร์มและเอกสารจดทะเบียนพาณิชย์ กับทางสถานที่รับจดทะเบียนในเขตที่สถานประกอบการตั้งอยู่ โดยจะมีค่าธรรมเนียม 50 บาท

2. รอการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่ประมาณ 7 – 15 วัน เพื่อขอเข้ามาตรวจสอบสถานประกอบการ พร้อมทั้งทำการวัด และถ่ายรูปป้ายกิจการ

3. หลังจากดำเนินการต่างๆ เสร็จสิ้น ก็รอให้ทางสำนักงานจดทะเบียนติดต่อกลับมาอีกครั้ง เพื่อแจ้งให้กิจการไปรับ ใบทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ได้ 

จดทะเบียนขายของออนไลน์ ที่ไหนได้บ้าง

  • สำหรับธุรกิจที่มีสถานประกอบการตั้งอยู่ใน เขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถขอยื่นจดทะเบียนพาณิชย์ได้ที่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักการคลัง กรุงเทพฯ 
  • และยังสามารถยื่นจดทะเบียนขายของออนไลน์กับทางสำนักงานเขตทุกแห่งในกรุงเทพฯ ตามเขตที่สถานประกอบการตั้งอยู่ได้
  • สำหรับธุรกิจที่มีสถานประกอบการตั้งอยู่ในภูมิภาคหรือในจังหวัดอื่นๆ สามารถขอยื่นจดทะเบียนพาณิชย์ได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบล และเทศบาล ตามเขตที่สถานประกอบการตั้งอยู่

ก็หวังว่าบทความเรื่อง การจดทะเบียนขายของออนไลน์ จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่าน ใครที่ยังไม่ได้ทำเรื่องจดทะเบียนขายออนไลน์ ก็อย่าลืมทำตามคำแนะนำด้านบนกันด้วย เพื่อให้การค้าขายสินค้าบนโลกออนไลน์เป็นไปอย่างถูกต้อง !

สำหรับพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์คนไหนที่ทำเรื่องจดทะเบียนการค้าขายของออนไลน์เรียบร้อยแล้ว และไม่ต้องการที่จะเสียเวลาแพ็คสินค้าเอง หรือเดินทางไปส่งสินค้าให้ลูกค้าด้วยตัวเอง PACKHAI ก็ขอแนะนำว่าให้ลองหันมาใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์แบบ Fulfillment เก็บ แพ็ค ส่ง เพราะว่าจะช่วยลดเวลาการทำงานได้เป็นอย่างมาก ที่สำคัญทำให้มีเวลาโฟกัสการขายมากขึ้นด้วย อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ Fulfillment ได้ที่ด่านล่างเลย

บริการ Fulfillment Packhai

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *