10 วิธีแพ็คของส่งไปรษณีย์ ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง มีขั้นตอนอย่างไร ให้สินค้าไปถึงปลายทางอย่างปลอดภัยมากที่สุด

วิธีแพ็คของส่งไปรษณีย์ ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง มีขั้นตอนอย่างไร

วิธีแพ็คของส่งไปรษณีย์

สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่กำลังมองหา วิธีแพ็คของส่งไปรษณีย์ เพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าอย่างปลอดภัย ไม่เสียหาย หรือมีพัสดุตกหล่น ขอแนะนำเลยว่าต้องอ่านบทความนี้ เพราะ PACKHAI ได้รวบรวมวิธีแพ็คของส่งไปรษณีย์อย่างมืออาชีพสำหรับแม่ค้าออนไลน์มาให้แล้ว แต่ก่อนที่เราจะไปดูวิธีแพ็คของส่งไปรษณีย์ ไปดูอุปกรณ์แพ็คของส่งไปรษณีย์กันก่อนดีกว่า ว่าจำเป็นต้องใช้อะไรบ้าง

Contents hide

อุปกรณ์แพ็คของส่งไปรษณีย์

การแพ็คสินค้าส่งไปรษณีย์จำเป็นต้องเตรียมอุปกรณ์แพ็คสินค้าดังนี้ให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นการแพ็คสินค้าส่ง Kerry, Flash หรือขนส่งเจ้าไหนๆ ก็นำไปปรับใช้ได้ 100%

  • กล่องกระดาษสำหรับห่อสินค้า
  • เทปใส สำหรับติดกล่องกระดาษ
  • ฟิมล์ยืดห่อของ หรือ ฟิลม์ยืดพาเลท 
  • โฟมกันกระแทก
  • กรรไกร หรือคัตเตอร์ 
แพ็คของส่งไปรษณีย์แบบมืออาชีพ

วิธีแพ็คของส่งไปรษณีย์ อย่างมืออาชีพ ให้สินค้าไม่เสียหาย

1.มองหากล่องไปรษณีย์ที่เหมาะสม

ขั้นตอนแรกในการแพ็คของส่งไปรษณีย์ ผู้ส่งจะต้องเลือกกล่องห่อสินค้าที่มีความเหมาะสม เพราะกล่องสำหรับใส่สินค้ามีหลายประเภทและหลายขนาด ในขณะเดียวกันคุณสมบัติของกล่องแต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกันออกไปด้วย การเลือกกล่องจะต้องคำนึงถึงขนาดและน้ำหนักของสินค้า ซึ่งกล่องที่มีความหนามากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งรองรับน้ำหนักได้มากเท่านั้น แต่ก็อาจมีราคาสูงเช่นเดียวกัน

นอกจากนั้นผู้ส่งควรคำนึงถึงสภาพอากาศ ระยะทางในการจัดส่งด้วย ในการส่งสินค้าไปต่างประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น ผู้ส่งต้องเลือกกล่องไปรษณีย์แข็งแรง ทนทาน มีความหนาเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถรักษาคุณภาพของสินค้าให้คงเดิม และให้สินค้าส่งถึงมือผู้รับ โดยสินค้าไม่เกิดความเสียหายใดๆ 

2.พิจารณาจากลักษณะของสินค้าที่จะส่งไปรษณีย์

เมื่อเลือกกล่องให้เหมาะสมกับสินค้าแล้ว ต่อมาต้องพิจารณาลักษณะหรือรูปทรงของสินค้าด้วย อย่างเช่น หากสินค้าเป็นของมีคม มีด เครื่องมือเกษตร ตลอดจนสิ่งของที่แตกหักง่ายจำพวกแก้ว กระจก เป็นต้น การแพ็คสินค้าส่งไปรษณีย์ลงในกล่อง จะต้องหาโฟมกันกระแทกมารองก่อนหรือไว้ตรงส่วนที่แหลมคม จากนั้นให้ห่อหุ้มด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์หรือพลาสติกอีกที เพื่อป้องกันอันตรายจากการทิ่มแทง หรืออาจทำให้กล่องชำรุดเสียหายก่อนส่งถึงมือผู้รับได้

แต่ถ้ารู้สึกว่าการแพ็คของเองนั้นยุ่งยาก สมัยนี้ก็มีบริการรับแพ็คสินค้าด้วย ลองอ่านข้อดีของบริการรับแพ็คสินค้าได้ที่บทความนี้ : 7 ข้อดี บริการรับแพ็คสินค้า ดีกว่าการแพ็คของด้วยตัวเองยังไง บอกเลยลดต้นทุนได้เยอะมาก

3.เพิ่มความหนาเมื่อสินค้าเป็นของเหลวในขวดแก้ว

หากสินค้าเป็นของเหลว เช่น สบู่เหลว น้ำหอม เจล หรือน้ำมันต่างๆ ที่ถูกบรรจุในขวดแก้ว ซึ่งเสี่ยงต่อการแตกหักหรือชำรุดเสียหายในระหว่างการขนส่งไปรษณย์ ดังนั้นผู้ส่งจะต้องนำสินค้าใส่พลาสติกที่มีซิปล็อคก่อน จากนั้นให้ใส่วัตถุกันกระแทกลงในกล่อง เพื่อป้องกันแรงกดทับหรือไม่ให้ภายในกล่องเกิดพื้นที่ว่าง อาจทำให้สินค้าแตกหรือเสียหายได้ รวมถึงในกรณีที่มีการบรรจุสินค้าเกิน 1 ชิ้นในกล่องเดียวกันด้วย  

4.ปิดฝากล่องส่งไปรษณีย์ให้แน่น

เมื่อบรรจุสินค้าลงในกล่องไปรษณีย์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการปิดผนึกฝากล่องให้แน่นหนาในทุกๆ ด้าน ในกรณีที่เลือกใช้กล่องแบบฝาชนกันให้ใช้เทปกาวแปะลงบริเวณช่องว่างตรงกลางกล่อง โดยให้อยู่ระหว่างฝาชนทั้งสองด้าน หลังจากนั้นให้นำเทปกาวมาแป๊ะตรงบริเวณขอบกล่องพัสดุทั้งสองข้าง โดยให้แปะยาวลงมา โดยให้มีลักษณะเป็นรูปตัว H การเลือกเทปกาวให้เลือกแบบใหญ่และหนา เพื่อให้สามารถปิดกล่องได้คลอบคลุมและเหนียวแน่น ยึดติดได้ดี 

5.ติดป้ายเตือนป้องกันความเสียหาย 

ในกรณีที่สินค้าที่ต้องการส่งให้ลูกค้าเป็นสินค้าเปราะบาง แตกง่าย ชำรุดง่ายหรือเสียหายง่าย เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการขนส่งผ่านไปรษณย์ ผู้ส่งควรติดป้ายเตือน ติดสติ๊กเกอร์เตือนไว้บนกล่อง หรือด้านหน้ากล่อง เช่น ป้ายเตือนระวังแตก 

เขียนรายละเอียดหน้ากล่องไปรษณีย์ให้เรียบร้อย

6.เขียนรายละเอียดหน้ากล่องให้เรียบร้อย

ผู้ส่งจะต้องเขียนรายละเอียดหน้ากล่องให้เรียบร้อย ถูกต้อง และชัดเจนหลังการแพ็คของส่งไปรษณีย์ เช่น ชื่อที่อยู่ผู้ส่งต้องอยู่มุมด้านซ้าย ส่วนชื่อที่อยู่ผู้รับควรอยู่มุมด้านขวา เป็นต้น โดยสามารถใช้วิธีพิมพ์ชื่อที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ แล้วปริ้นออกมาแปะก็ได้ ช่วยทำให้อ่านง่ายขึ้น การเขียนชื่อที่อยู่ต่างๆ จะต้องเขียนให้ถูกต้องตามแบบฟอร์มและเขียนให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการส่งสินค้า และทำให้เกิดความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้าด้วย 

แต่ถ้าส่งของให้ลูกค้าผิดไปแล้วล่ะ ทำยังไงดี ?

สามารถอ่านคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่บทความนี้ Packhai รวมคำแนะนำมาให้แล้ว : ส่งของผิดให้ลูกค้า ทำยังไงดี ต้องรับผิดชอบอย่างไรบ้าง ให้ดูเป็นมืออาชีพมากที่สุด

7.อย่าลืมใส่เบอร์โทรศัพท์ทั้งผู้รับและผู้ส่ง

ข้อนี้สำคัญไม่แพ้กันเนื่องจากการติดต่อสื่อสารกันผ่านโทรศัพท์ คือ การติดต่อสื่อสารที่รวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทั้งหลายจะต้องระบุเบอร์โทรศัพท์ทั้งของผู้ส่งและของผู้รับไว้ที่หน้ากล่องด้วยเมื่อแพ็คของส่งไปรษณีย์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถโทรติดต่อสื่อสารกับผู้ส่งและผู้รับได้ 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเจ้าหน้าเกิดข้อสงสัยใดๆ ขึ้นจะได้โทรสอบถามทางผู้รับและผู้ส่ง เพื่อให้การจัดส่งสินค้ารวดเร็วขึ้น รวมถึงในกรณีที่ผู้รับไม่อยู่บ้าน ไม่มีคนเซ็นรับของ เจ้าหน้าที่สามารถโทรติดต่อผู้รับตามเบอร์ที่ระบุไว้หน้ากล่อง เพื่อพูดคุยหรือนัดรับสินค้ากัน เพื่อที่สินค้านั้นๆ จะได้ไม่ถูกตีกลับ

8.ถ่ายรูปกล่องแจ้งลูกค้า

การแพ็คสินค้าส่งไปรษณีย์ อย่างมืออาชีพ ผู้ส่งควรรายงานความเคลื่อนไหวการจัดส่งสินค้า และป้องกันความผิดพลาดที่ไม่ได้เกิดจากตนเอง ด้วยการถ่ายรูปกล่องพัสดุเพื่อแจ้งลูกค้าก่อนส่งสินค้า เพื่อการันตีว่ากล่องที่แพ็คสินค้ามีความสมบูรณ์ แข็งแรง ทนทาน จะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิด ในกรณีที่สินค้าได้รับความเสียหายระหว่างการขนส่ง 

9.ซื้อประกันสินค้าเมื่อส่งไปรษณีย์

หากสินค้าที่ต้องการส่งไปรษณีย์มีราคาแพงหรือมีมูลค่าสูง และเสี่ยงต่อการแตกหักง่าย ผู้ประกอบการสามารถป้องกันความเสี่ยงด้วยการซื้อประกันสินค้า โดยซื้อตามวงเงินที่ต้องการ หรือตามเงื่อนไข อย่างเช่น การส่งสินค้าทาง EMS สามารถซื้อประกันได้สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท อย่างไรก็ตามตัวกลางในการขนส่งแต่ละแห่งก็มักจะมีเงื่อนไขการซื้อประกันที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นผู้ซื้อประกันการส่งสินค้า ควรศึกษารายละเอียดให้ดีก่อน เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด 

10.ติดตามสถานะการจัดส่งสินค้า

สุดท้าย คือ การติดตามสถานะการจัดส่งสินค้า โดยการแจ้งหมายเลขพัสดุ เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำไปเช็คสถานะการจัดส่งสินค้าหรือติดตามว่าตอนนี้สินค้าถึงไหนแล้ว ซึ่งการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ จะมีระยะเวลาในการจัดส่งสินค้าถึงจุดหมายปลายทางที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับผู้ส่งว่าต้องการเลือกไทม์ไลน์แบบไหน 

หากต้องการให้สินค้าถึงมือผู้รับแบบรวดเร็วหรือเร็วที่สุด อาจต้องเสียค่าบริการแพงหน่อย และการติดต่อกับลูกค้าเพื่อเช็คว่าลูกค้าได้รับสินค้าหรือยัง สินค้าเป็นอย่างไร เสียหายหรือไม่ เป็นการแสดงออกถึงความเอาใจใส่ลูกค้า ช่วยสร้างความประทับใหกับลูกค้าได้มากเลยทีเดียว  

แพ็คของส่งไปรษณีย์-ยุ่งยากไหม

แพ็คของส่งไปรษณีย์ มีความยุ่งยากหรือไม่ ?

ต้องยอมรับเลยว่า วิธีแพ็คของส่งไปรษณีย์ ด้านบนนั้นมีความยุ่งยากพอสมควร ยิ่งเป็นร้านค้าที่ขายดี มีออเดอร์เข้ามาแบบปังๆ รัวๆ ก็ยากที่จะหาเวลามาแพ็คของส่งไปรษณีย์เองจริงมั้ยล่ะ ? พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จึงจำเป็นต้องจ้างคนมาช่วยแพ็คของส่งไปรษณีย์ให้อีกที ซึ่งค่าใช้จ่ายก็จะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

แล้วจะ แพ็คของส่งไปรษณีย์ ยังไงไม่ให้ยุ่งยาก ค่าใช้จ่ายไม่สูง ?

รับจ้างแพ็คของส่งไปรษณีย์

อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมจากพ่อค้าแม่ค้ายุคออนไลน์ ก็คือ.. การใช้บริการรับจ้างแพ็คของส่งไปรษณีย์ กับผู้ให้บริการเก็บสินค้า แพ็คสินค้า และจัดส่ง หรือที่คนวงในเค้าเรียกกันว่า “ Fulfillment ” นั่นเอง บริการ Fulfillment ที่ว่านี้นั้นค่อนข้างตอบโจทย์การเก็บสินค้า การเข้ารับสินค้า การจัดการออเดอร์อย่างมากๆ พูดง่ายๆ ก็คือ ผู้ขายของออนไลน์จะมีหน้าที่แค่ขายสินค้าแค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องการแพ็คของส่งไปรษณีย์เลยแม้แต่น้อย

หากท่านต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ” บริการแพ็คของส่งไปรษณีย์ “ หรือ การใช้บริการ Fulfillment แบบครบวงจร ที่มีระบบที่ดีที่สุด มีศูนย์บริการคลังสินค้าออนไลน์ทั่วประเทศ ลดต้นทุนการแพ็คสินค้า (กล่อง + อุปกรณ์) ก็สามารถคลิกใช้บริการได้ง่ายๆ ผ่านทางด้านล่างเลยนะคะ หรือจะแวะมาพูดคุยกับทีมงานของเราก่อนก็ได้เช่นกัน หรือจะคลิกอ่านข้อดี-ข้อเสียของบริการ Fulfillment ก่อนก็ได้เช่นกันค่ะที่นี่ : ข้อดี-ข้อเสียของบริการ Fulfillment

คลิกอ่านบทความเพิ่มเติม

Packhai ตอบโจทย์ขายของออนไลน์

Fulfillment ตัวช่วยคนขายของออนไลน์ ที่ช่วยลดต้นทุนการขายสินค้า ลดเวลาการทำงาน มีเวลาโฟกัสยอดขายได้มากขึ้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *