ส่งของผิดให้ลูกค้า
การส่งของผิดให้ลูกค้า เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับร้านค้าออนไลน์ทั้งหลาย ที่อาจมีออเดอร์เข้ามาในแต่ละวันจำนวนมาก จึงทำให้มีงานที่ต้องทำจนล้นมือ ทั้งการรับออเดอร์จากลูกค้า เตรียมสินค้าและแพ็คสินค้า รวมถึงต้องนำสินค้าไปจัดส่งพร้อมกันหลายๆ ออเดอร์อีกด้วย ส่งผลให้อาจเกิดความผิดพลาดอย่างการส่งของผิดให้ลูกค้าขึ้นได้ เนื่องจากความเหนื่อยล้าจากการทำงาน หรืออาจจะมาจากการที่มีสินค้าต้องส่งเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถตรวจเช็คความถูกต้องของสินค้าได้อย่างทั่วถึง
ส่งของผิดให้ลูกค้า มีแบบไหนบ้าง
1.ส่งของผิดให้ลูกค้าแบบไม่ตรงกับการสั่งซื้อ
การส่งสินค้าผิดให้ลูกค้า ซึ่งไม่ตรงกับรายการที่ลูกค้าสั่งซื้อไป โดยอาจเกิดขึ้นได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการส่งสินค้าผิดไซส์ ผิดสี ไปจนถึงการส่งสินค้าผิดประเภทให้ลูกค้าเลยก็ได้ เช่น ลูกค้าสั่งซื้อเสื้อ แต่กลับส่งกางเกงไปให้ เป็นต้น
2.ส่งสินค้าให้ลูกค้าผิดคน
การส่งสินค้าให้ลูกค้าผิดคน โดยสินค้าที่จัดส่งไปเป็นสินค้าที่ตรงตามออเดอร์ แต่ทางร้านส่งให้ลูกค้าผิดคน ทำให้ลูกค้าคนที่สั่งซื้อไม่ได้รับสินค้าตามกำหนด
3.ส่งของผิดให้ลูกค้าแบบผิดที่อยู่
การส่งสินค้าผิดที่ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากการที่ข้อมูลที่อยู่ของลูกค้านั้นคลาดเคลื่อน ทำให้สินค้าถูกส่งไปยังที่อยู่อื่น แถมยังต้องเสียเวลาในการจัดส่งใหม่อีก
4.ส่งของผิดให้ลูกค้าเพราะถูกหลอก
การถูกหลอกให้ส่งสินค้า โดยมิจฉาชีพที่ไม่ได้ซื้อสินค้าของเราจริง แต่อาจแอบอ้างว่าซื้อสินค้าแล้วยังไม่ได้รับ หรือได้สินค้าไม่ครบถ้วนบ้าง ทำให้ร้านค้าที่หลงเชื่อส่งสินค้าไปให้อย่างไม่ทันระวังได้
ส่งของผิดให้ลูกค้า ต้องทำอย่างไรดีที่สุด
1.เช็คข้อมูลของลูกค้าก่อนการจัดส่ง
ตรวจสอบข้อมูลของลูกค้าให้ดีก่อนว่า เป็นลูกค้าของร้านเราจริงไหม และสินค้าที่สั่งซื้อจริงๆ คืออะไร เพื่อความแน่ใจ และช่วยป้องกันการถูกหลอกจากพวกมิจฉาชีพได้
2.ขอโทษลูกค้าอย่างจริงใจเมื่อส่งของผิดให้ลูกค้า
ต้องกล่าวขอโทษลูกค้า ในเรื่องของความผิดพลาดที่เกิดขึ้น พร้อมพูดคุยตกลงกัน ให้ลูกค้าทำการจัดส่งสินค้าที่ส่งผิดไปมาคืน โดยทางร้านค้าจะรับผิดชอบค่าจัดส่งทั้งหมดให้ ไม่ว่าจะเป็นค่าส่งสินค้าคืนและค่าจัดส่งสินค้าใหม่ไปให้
3.เมื่อส่งของผิดให้ลูกค้าต้องรีบส่งสินค้าที่ถูกต้องตามไปทันที
ควรรีบทำการจัดส่งสินค้าใหม่ที่ถูกต้องตามออเดอร์ไปให้ลูกค้าทันที เนื่องจากลูกค้าเสียเวลาจากของที่ส่งผิดมาแล้ว ดังนั้นจึงต้องรีบส่งของให้ลูกค้าโดยเร็วที่สุด โดยไม่ต้องรอให้ลูกค้าส่งสินค้าคืนมาก่อน เพื่อให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกพึงพอใจในการแก้ไขปัญหาของร้านค้า
ลดปัญหาการส่งของผิดให้ลูกค้าได้อย่างไรบ้าง
1.ตรวจสอบความถูกต้องของสินค้าก่อนจัดส่งเสมอ
ควรตรวจสอบความถูกต้องของสินค้าให้ดีก่อนทำการแพ็คของลงกล่อง เช็คว่าเป็นสินค้าที่ตรงกับรายการสั่งซื้อหรือไม่ รวมถึงเช็คสเปคต่างๆ ของสินค้าด้วย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสินค้าที่จะถูกจัดส่งไปยังลูกค้า เป็นสินค้าที่ตรงตามออเดอร์นั้นจริงๆ ซึ่งจะช่วยลดการส่งของผิดให้ลูกค้าได้
2.เช็คข้อมูลจ่าหน้ากล่องก่อนจัดส่งอีกรอบ
อย่าลืมตรวจสอบใบจ่าหน้ากล่องด้วย ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรของทั้งผู้รับและผู้ส่งให้ครบถ้วน เพื่อป้องกันปัญหาการส่งสินค้าผิดที่ได้ โดยเหตุผลที่ควรใส่ที่อยู่ผู้ส่งไปด้วย ก็เพื่อหากมีการส่งผิดที่เกิดขึ้น จะได้สามารถส่งสินค้ากลับไปให้ผู้ส่งได้ถูกนั่นเอง
3.แบ่งหมวดหมู่สินค้าที่จัดส่งเพื่อลดความผิดพลาด
ควรทำการแบ่งหมวดหมู่ให้กับสินค้าที่จะจัดส่ง โดยอาจแยกตามประเภทสินค้า หรือแยกตามเขตพื้นที่ของผู้รับก็ได้ ซึ่งจะช่วยลดความสับสนและความผิดพลาดในการจัดส่งได้ ทำให้ร้านค้าเจอปัญหาการจัดส่งสินค้าสลับกัน หรือการส่งสินค้าผิดที่น้อยลง
4.ใช้บริการ Fulfillment แพ็ค เก็บ ส่ง
การหันมาใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์แบบ Fulfillment ที่ให้บริการอย่างครบจร ตั้งแต่การรับฝากสินค้าและจัดส่งด้วยทีมงานมืออาชีพ ส่งผลให้ปัญหาการ ส่งของผิดให้ลูกค้า นั้นเกิดขึ้นได้น้อยลงหรืออาจจะไม่เกิดขึ้นเลย นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดเวลาและต้นทุนในการทำงานได้ด้วย ทำให้ร้านค้าสามารถดำเนินธุรกิจไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
อ่านเพิ่มเติม : 8 ข้อดี-ข้อเสียของคลังสินค้า มีอะไรบ้าง อ่านให้ดีก่อนตัดสินใจเช่า !
ในการทำธุรกิจออนไลน์นั้นสามารถเจอกับอุปสรรคหรือปัญหาต่างๆ มากมายได้ตลอดเวลา รวมถึงปัญหาที่พบบ่อยอย่างการ ส่งของผิดให้ลูกค้า โดยการจะสามารถรับมือกับปัญหาเหล่านี้ได้ดีนั้น ร้านค้าจำเป็นต้องมีสติและความละเอียดรอบคอบในการแก้ไขปัญหา บวกกับการมองหาบริการ Fulfillment ที่จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระในการทำงาน ก็จะยิ่งเสริมทัพให้ธุรกิจมีความพร้อมในการรับมือกับปัญหาได้ดีมากขึ้น คลิกอ่านข้อดี-ข้อเสียบริการ Fulfillment ได้เลยที่นี่ : สรุปข้อดี-ข้อเสีย Fulfillment บริการเก็บ แพ็ค จัดส่ง ที่ผู้ให้บริการยังไม่บอกมีอะไรบ้าง