ต้นทุนจม ( Sunk Cost ) คืออะไร เกิดจากอะไร ขายของอย่างไรดีไม่ให้ต้นทุนจม มีมาฝาก !

ต้นทุนจม ( Sunk Cost ) คืออะไร

ต้นทุนจม ( Sunk Cost )

“ ปัญหาต้นทุนจม ” คือ ปัญหาที่หลายๆ ธุรกิจมักเจอเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลาง หรือธุรกิจขนาดใหญ่ แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้สักที บางครั้งการที่มีต้นทุนจมสูงขึ้นเรื่อยๆ มันสามารถบอกได้เลยว่าธุรกิจของคุณควรเดินต่อไปข้างหน้าหรือไม่ เพราะหากคุณปล่อยให้มีต้นทุนจมมากๆ และฝืนเดินต่อไปเพราะคำว่า เสียดาย อาจทำให้คุณต้องลงทุนเพิ่มขึ้นทั้งๆ ที่ไม่มีผลกำไรเลย ทำให้ธุรกิจของคุณอาจล้มได้ นอกจากนั้นมันยังสร้างหนี้สินให้กับคุณด้วย ว่าแต่ ต้นทุนจม คืออะไร คำที่เรามักจะได้ยินบ่อยๆ แล้วต้นทุนจมเกิดขึ้นจากอะไร วันนี้เราได้หาคำตอบมาให้คุณแล้ว ตามไปดูกันเลย

ต้นทุนจม คืออะไร ?

ต้นทุนจม ( Sunk Cost ) คือ ต้นทุนที่ใช้จ่ายไปแล้วในอดีต เป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ปัจจุบันต้นทุนที่เสียไป ไม่สามารถทำให้เกิดกำไรได้ อาจต้องใช้ระยะเวลาจึงจะมีกำไร หรือหากแย่ไปกว่านั้น คือ ไม่สามารถทำกำไรได้เลยจากต้นทุนที่จ่ายไป เหตุผลนี้นี่เอง ที่ทำให้หลายๆ ธุรกิจไม่สามารถไปต่อได้ นอกจากนั้นการที่ต้นทุนจมยังเกี่ยวข้องกับเรื่องของ ค่าเสียโอกาสด้วย หมายความว่า หากลงทุนไปกับสิ่งหนึ่ง คุณก็เสียโอกาสที่จะไม่ได้ลงทุนในสิ่งอื่นๆ  

ต้นทุนจม เกิดจากอะไรบ้าง ?

1.ต้นทุนจมเกิดจากค่าใช้จ่ายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ต้นทุนจม เกิดจากค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่น การซื้อเครื่องจักร การก่อสร้าง หรือต้นทุนการผลิตสินค้าเพื่อขาย ฯลฯ แน่นอนว่าการลงทุนย่อมมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นเสมอ ในกรณีที่ต้นทุนจมถูกจ่ายไปกับการซื้อเครื่องจักร สร้างโรงงาน ฯลฯ คุณก็ต้องมาคิดคำนวณว่าคุณซื้อเครื่องจักรไปเท่าไหร่ แล้วต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ ถึงจะคืนทุนได้ ยิ่งใช้ระยะเวลาสั้นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี

2.ความผิดพลาดในการประมาณการ

ยกตัวอย่างให้เข้าใจมากขึ้น เช่น ในกรณีที่เป็นต้นทุนจม ซึ่งถูกใช้จ่ายไปกับการผลิตสินค้า หากสินค้าผลิตล่าช้า เกิดปัญหา หรือสินค้าแฟชั่นที่หมดกระแส ไปจนถึงการคาดการณ์ความต้องการของตลาดผิด ทำให้สต๊อกสินค้ามากเกินไป สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นต้นทุนจมที่ไม่สามารถก่อให้เกิดกำไรได้นั่นเอง

3.ค่าเสียโอกาส

อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วในตอนต้นว่า ต้นทุนจม มีความเกี่ยวข้องกับค่าเสียโอกาสหรือต้นทุนค่าเสียโอกาส เป็นผลประโยชน์ที่ธุรกิจควรจะได้รับ แต่ไม่ได้รับ เพราะเกิดจากการเลือกปฏิบัติ เช่น นำเงินไปลงทุนผลิตสินค้าแทนที่จะนำเงินไปลงทุนในหุ้น ทำให้เสียโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนในหุ้น

ขายของอย่างไรดี ไม่ให้ต้นทุนจมหาย

1.วางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายให้ดี

ถ้าไม่อยากมีต้นทุนจมสูง ก็ต้องวางแผนบริหารจัดการให้ดี อย่างเช่น การตัดสินใจสร้างโรงงาน หรือสร้างคลังเก็บสินค้า คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าธุรกิจของคุณจะประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจใหม่ หรือร้านค้าใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ หากคุณไปกู้เงินและทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อนำไปลงทุนสร้างคลังสินค้า หรือสร้างโรงงาน หวังว่าเงินลงทุนมหาศาลที่จ่ายไป จะได้รับผลตอบแทนหรือกำไรในระยะสั้น แล้วปรากฏว่าธุรกิจของคุณไปไม่รอด พบว่ามีต้นทุนจมที่สูงเกินไป นอกจากที่คุณจะขาดทุน คุณยังอาจเป็นหนี้ก้อนโตด้วย ดังนั้นควรวางแผนบริหารจัดให้ดี โดยเรื่องเงินๆ ทองๆ ถ้าไม่แน่ใจอย่างพึ่งวู่วามจะดีกว่า

2.คาดการณ์ความต้องการของตลาด

แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ยากในการคาดการณ์ แต่คุณก็ต้องทำ จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณไม่คาดการณ์ความต้องการของตลาด เช่น สต๊อกสินค้ามากเกินไป ไม่เข้าใจเทรน มั่นใจว่าสินค้าจะขายออก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันดันสวนทางกันทั้งหมด สินค้าที่คุณสต๊อกไว้มากเกินไป

โดยสินค้าเหล่านั้น คือ เงินลงทุนที่ถูกจ่ายออกไปแล้ว แต่มันกลับไม่สร้างกำไรให้กับคุณ สิ่งที่ตามมาแน่นอน คือ ขาดทุน จึงเป็นเหตุผลให้หลายๆ คนเลือกที่จะนำสินค้าที่ขายไม่ออก ไม่เป็นที่ต้องการของตลาดมาจัดโปร ลดแลก แจกแถม แม้ว่าจะขาดทุน แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

ทีนี้คุณคงเข้าใจแล้วว่า ต้นทุนจม คืออะไร เกิดจากอะไร หวังว่าสิ่งที่เราได้กล่าวถึงไปทั้งหมดจะพอเป็นแนวทางและเป็นประโยชน์ต่อทุกคน จริงๆ แล้วต้นทุนจมมีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายอย่าง ที่เราได้กล่าวถึงอาจเป็นเพียงแค่การยกตัวอย่าง เพื่อให้คุณได้เข้าใจและมองเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น ในโลกของธุรกิจ คุณอาจมีกำไรหรือขาดทุนก็ได้ มีเรื่องราวที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทางที่ดีที่สุด คือ การวางแผนให้รอบคอบ รวมถึงการเตรียมตัวรับมือหรือมีแผนสำรองเตรียมความพร้อมไว้เสมอ เพราะถึงจะเจ็บแต่ก็จะได้ไม่เจ็บมากเกินไปกว่านี้

ราคาค่าบริการ fulfillment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *