การจัดการคลังสินค้าด้วยระบบบาร์โค้ด
การจัดการคลังสินค้าด้วยระบบบาร์โค้ด ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจในยุคนี้โดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนทำธุรกิจขายของออนไลน์ที่จำเป็นต้องสต๊อกจัดเก็บสินค้าไว้ในคลังสินค้า เพื่อให้มีสินค้าพร้อมขายให้กับลูกค้า ซึ่งยิ่งธุรกิจมีการสต๊อกสินค้าไว้จำนวนมาก ก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดปัญหาหรือข้อผิดพลาดขึ้นได้ หากไม่มีการบริหารจัดการคลังสินค้าที่ดีพอ
โดยปัญหาที่มักพบได้บ่อย เช่น การหาสินค้าไม่เจอ หยิบสินค้าผิด พัสดุตกหล่น หรือแม้แต่การไม่รู้จำนวนของสินค้าในคลัง จนทำให้การวางแผนจัดซื้อหรือนำเข้าสินค้าไม่แม่นยำ เพราะฉะนั้นแล้วสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เก็บไว้ในคลังสินค้า จึงควรจัดเก็บอย่างเป็นระบบและต้องมีการบริหารจัดการที่ดีด้วย ซึ่งการนำระบบบาร์โค้ดเข้ามาใช้ในการจัดการคลังสินค้า ก็ช่วยทำให้การทำงานต่างๆ นั้นสะดวกสบายและเป็นระเบียบมากขึ้น
การจัดการคลังสินค้าด้วยระบบบาร์โค้ด คืออะไร?
การจัดการคลังสินค้าด้วยระบบบาร์โค้ด คือ เทคโนโลยีที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบจัดการคลังสินค้า WMS (Warehouse Management System) เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในการบริหารระบบคลังสินค้า ตั้งแต่การรับสินค้าการจัดเก็บ หยิบสินค้า ไปจนถึงการกระจายและจัดส่งสินค้า เพื่อให้กระบวนการทำงานในคลังสินค้านั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น
และยังเป็นการเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการทำงาน ช่วยให้การค้นหาและเช็คสถานะข้อมูลสินค้าในคลังสินค้ามีความถูกต้องและแม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ก็ยังสามารถนำข้อมูลที่ได้จากระบบบาร์โค้ดไปใช้ประโยชน์ในการตรวจสอบข้อมูลสินค้าย้อนหลังได้อีกด้วย ปัจจุบันระบบ Barcode คลังสินค้าจึงถูกนำมาใช้กันอย่างกว้างขวาง ทั้งในธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และธุรกิจขนาดใหญ่
การจัดการคลังสินค้าด้วยระบบบาร์โค้ด มีความสำคัญอย่างไร
การใช้บาร์โค้ดในคลังสินค้านั้นมีความสำคัญอย่างมาก และมีประโยชน์หลายด้านชนิดที่คุณอาจคาดไม่ถึงมาก่อนเลยทีเดียว เนื่องจากการสต๊อกหรือการจัดเก็บสินค้าไว้ที่คลังจำนวนมาก มักเกิดขึ้นกับธุรกิจที่กำลังเติบโตหรือมีออเดอร์เยอะ แต่ยิ่งเก็บสินค้าไว้ในคลังมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาดในการจัดการงาน และมีต้นทุนที่ไม่จำเป็นเกิดขึ้นได้ง่าย
ซึ่งหากไม่ใช้การจัดการคลังสินค้าด้วยระบบบาร์โค้ด ก็อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดต่างๆ ตามมาได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความล่าช้าในการหาพิกัดหรือตำแหน่งของสินค้า การนับจำนวนสินค้าที่ล่าช้า เช็คสต๊อกลำบาก หรือทำให้การจัดส่งล่าช้าตามไปด้วย แต่หากมีการนำระบบบาร์โค้ดเข้ามาใช้งาน ก็จะช่วยป้องกันและลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในการทำงานได้นั่นเอง
บทความอื่นที่น่าสนใจ:
- 10 ประโยชน์ของคลังสินค้า ที่ส่งผลดีอย่างมากๆ สำหรับการทำธุรกิจ
- การจัดการสต๊อกสินค้า คืออะไร มีเทคนิคที่ดีที่สุดมาแนะนำ รับรองทำตามนี้บริการ STOCK ได้แบบง่ายๆ
ระบบบาร์โค้ดคลังสินค้า มีกี่ประเภท
การนำ Barcode มาใช้ในคลังสินค้า ด้วยการปริ้นบาร์โค้ดแล้วมาติดบนสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการสินค้าได้ง่าย สำหรับระบบบาร์โค้ดคลังสินค้า สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
1.ระบบบาร์โค้ดสินค้า ที่มีบาร์โค้ดต่างกันในแต่ละรายการ
ระบบบาร์โค้ดสินค้าที่มีบาร์โค้ดต่างกันในแต่ละรายการสินค้าหรือแต่ละ SKU มาจากการที่สินค้าหรือบรรจุภัณฑ์นั้นมีลักษณะที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถแยกประเภทสินค้าได้ง่าย รวมถึงทำให้การตรวจสอบสินค้านั้นไม่ยุ่งยาก ช่วยให้ระบบบาร์โค้ดประเภทนี้จะได้ข้อมูลที่มีความถูกต้องและมีความแม่นยำสูง สำหรับบาร์โค้ดประเภทนี้ก็จะมีทั้งบาร์โค้ดแบบแท่งบาร์ และบาร์โค้ดแบบ 2 มิติ ให้เลือกใช้งาน
2.ระบบบาร์โค้ดที่สินค้าประเภทเดียวกัน จะมีบาร์โค้ดเหมือนกัน
ระบบบาร์โค้ดที่สินค้าเป็นประเภทเดียวกัน บาร์โค้ดจะมีลักษณะเหมือนกัน โดยเมื่อยิงบาร์โค้ดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลของสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์จะถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลเดียวกันบนโปรแกรมคลังสินค้าบาร์โค้ด บาร์โค้ดแบบ 2 มิติประเภทนี้ที่ได้รับความนิยม ยกตัวอย่างเช่น Data Matrix และ QR Code เป็นต้น เพราะสามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าแบบแท่งบาร์ แต่อุปกรณ์ที่ใช้ระบบบาร์โค้ดประเภทนี้ก็ราคาที่ค่อนข้างสูง
คลิกอ่านเพิ่มเติม: 6 ระบบขายของออนไลน์ ช่วยจัดการร้านค้าออนไลน์อย่างครบวงจร พร้อมจุดเด่นของแต่ละระบบ
ขั้นตอนในการจัดการคลังสินค้าด้วยระบบบาร์โค้ด
เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจเกี่ยวกับการนำระบบบาร์โค้ดมาใช้ในการบริหารจัดการคลังสินค้า เรามีขั้นตอนในการจัดการคลังสินค้าด้วยระบบบาร์โค้ดมาแนะนำ ซึ่งจะมีขั้นตอน ดังนี้
1.รับสินค้าเข้าสต๊อก
บาร์โค้ดที่สร้างขึ้นจะถูกพิมพ์ลงบนกระดาษรูปลอก หลังจากนั้นลอกแล้วแปะบาร์โค้ดที่ได้ลงไปบนสินค้า สำหรับขั้นตอนการรับสินค้าเข้าสต๊อก พนักงานจะรับสินค้าเข้าสต๊อกด้วยการใช้เครื่องสแกนบาร์โค้ด อ่านบาร์โค้ดบนชุดสินค้า จากนั้นข้อมูลจะถูกป้อนลงไปในซอฟต์แวร์เพื่อสร้างใบรับเข้าสินค้า
2.การส่งออกสินค้า
พนักงานสามารถสร้างใบส่งออกสินค้า โดยอ้างอิงจากใบรับเข้าสินค้าใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ดเพื่อดำเนินการพนักงานทำการสแกนบาร์โค้ดบนสินค้าเพื่อขาย แล้วยังสามารถติดตามสถานะของสินค้าได้ภายหลังเมื่อมีการส่งออกข้อมูล อาทิเช่น วันที่ส่งออก ขายให้กับใคร รหัสการสั่งซื้อ ฯลฯ ทำให้ในขั้นตอนการหยิบสินค้าด้วยรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น FIFO, LIFO, FEFO ทำได้ง่าย ส่งผลให้การส่งออกและจัดส่งสินค้ามีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
3.การตรวจสอบสต๊อก
ในอดีตการตรวจสอบสต๊อกและการบันทึกข้อมูลมักใช้วิธีการบันทึกลงใน Excel ซึ่งข้อมูลอาจถูกจัดเก็บไว้ที่ใครคนใดคนหนึ่ง และมีโอกาสสูญหายได้ ปัจจุบันมีการใช้ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมทันสมัยเข้ามาช่วย เช่น ระบบ WMS ที่มีการนับสินค้าด้วยระบบบาร์โค้ด เมื่อสินค้าถูกยิงด้วยบาร์โค้ดทุกอย่างจะง่ายขึ้น ไม่ต้องมานั่งบันทึกข้อมูลใน Excel และจะถูกบันทึกแบบอัตโนมัติ พนักงานสามารถตรวจสอบสต๊อกได้ง่าย อีกทั้งข้อมูลยังจัดเก็บไว้บนฐานข้อมูลเดียวกัน จึงมีโอกาสน้อยมากที่ข้อมูลจะสูญหาย ทำให้การตรวจสอบสต๊อกทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และมีความแม่นยำสูง
ประโยชน์ของการจัดการคลังสินค้าด้วยบาร์โค้ด มีอะไรบ้าง
การนำเอาระบบบาร์โค้ดเข้ามาใช้เพื่อบริหารจัดการคลังสินค้านั้นมีประโยชน์อย่างมาก และมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจในยุคนี้โดยตรง เพราะการขายสินค้าโดยเฉพาะการขายออนไลน์ จำเป็นต้องมีการจัดเก็บสินค้าไว้ในคลังสินค้า ซึ่งประโยชน์ของระบบบาร์โค้ดในคลังสินค้า จะมีดังนี้
1. ช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว ลดระยะเวลาในการป้อนข้อมูลและการจัดการคลังสินค้า
2.ช่วยลดต้นทุนในด้านการดำเนินงานและเพิ่มผลกำไรให้กับผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจ
3.สามารถตรวจสอบวันหมดอายุของสินค้า เช็คสถานะสินค้าต่างๆ ได้ ส่งผลดีต่อการตัดสินใจทางธุรกิจ
4.ช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากสินค้าค้างสต๊อกเป็นระยะเวลานานได้มากถึง 90 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
5.ช่วยป้องกันข้อผิดพลาดต่างๆ จากการบริหารจัดการคลังสินค้าในรูปแบบเดิม
6.สามารถตอบสนองต่อคำสั่งซื้อของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่า การจัดการคลังสินค้าด้วยระบบบาร์โค้ด ได้กลายมาเป็นบรรทัดฐานใหม่ของคลังจัดเก็บสินค้า โดยเฉพาะคลังสินค้าแบบ Fulfillment ที่จะช่วยจัดการงานหลังบ้านให้กับธุรกิจตั้งแต่การจัดเก็บ แพ็คและส่งสินค้า ซึ่งแน่นอนว่าการมีระบบบาร์โค้ดคลังสินค้าเข้ามา ก็จะช่วยให้การจัดการสินค้าในคลังนั้นมีประสิทธิภาพ และสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยลดข้อผิดพลาดหรือปัญหาต่างๆ ที่มีโอกาสเกิดขึ้นในการทำงานได้อีกด้วย
สำหรับธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ที่จำเป็นต้องมีการจัดเก็บสินค้าจำนวนมากๆ และอยากใช้ระบบบาร์โค้ดเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการสินค้าในคลัง จะสามารถทำได้ด้วยกัน 2 วิธี คือการติดตั้งระบบจัดการคลังสินค้า WMS ที่มีระบบบาร์โค้ดเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการทำงานเข้าไปกับคลังสินค้าของตัวเอง หรือหากธุรกิจไหนที่ไม่มีคลังสินค้าของตัวเอง การเลือกใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์ Fulfillment ที่ให้บริการรับฝาก เก็บ แพ็ค ส่ง พร้อมระบบบาร์โค้ดสินค้าและระบบการจัดการที่ทันสมัย ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจและได้รับความนิยมอย่างมาก – อยากรู้ว่า Fufillment BY Packhai ดียังไง? : คลิกที่นี่