เนื่องจากการขายของออนไลน์ คนซื้อจะมองเห็นแค่ภาพสินค้าแต่ไม่สามารถจับต้องสินค้าได้ ทำให้โอกาสการตัดสินใจซื้อสินค้าเป็นไปได้ยากกว่าเดิม ดังนั้นคุณควรมีเทคนิคการถ่ายรูปสินค้าขายออนไลน์ หรือ การจัดมุมถ่ายรูปเพื่อให้ภาพสินค้าดูโดดเด่น น่าสนใจ และออกมาสวยงามเพื่อเป็นการเพิ่มยอดขายสินค้าบนโลกออนไลน์
การถ่ายรูปสินค้า
การถ่ายรูปสินค้าให้สวยงามและน่าดีงดูดใจ เป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจออนไลน์ในยุคปัจจุบัน ภาพถ่ายสินค้าที่ดีไม่เพียงแต่แสดงรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ แต่ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและกระตุ้นความต้องการซื้อให้กับลูกค้าได้อีกด้วย สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น อาจรู้สึกว่าการถ่ายภาพสินค้าเป็นเรื่องยาก แต่ด้วยเทคนิคพื้นฐานและอุปกรณ์ที่เหมาะสม คุณก็สามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายสินค้าที่โดดเด่นและสร้างยอดขายได้แน่นอน

ขนาดรูปโปรไฟล์ Facebook (Profile Picture)
ขนาดรูปโปรไฟล์ Facebook Profile Picture มีองค์ประกอบดังนี้
- แสดงผล – รูปโปรไฟล์จะแสดงผลในขนาดที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ปรากฏ เช่น บนหน้าโปรไฟล์ ในฟีดข่าว หรือ ในความคิดเห็น
- ขนาดแนะนำ – อัปโหลดรูปภาพที่มีขนาดอย่างน้อย 320 x 320 พิกเซล เพื่อให้ภาพคมชัดบนทุกอุปกรณ์
- สัดส่วน – ขนาดรูป Facebook 2025 รูปโปรไฟล์จะถูกครอบตัดเป็นวงกลม ดังนั้นควรเลือกรูปภาพที่องค์ประกอบสำคัญอยู่ตรงกลาง
- ประเภทไฟล์ – Facebook รองรับไฟล์ JPG, PNG, GIF
- ความละเอียด – ใช้รูปภาพที่มีความละเอียดสูงเพื่อให้แสดงผลได้ดีที่สุด
ทดลองใช้บริการ Fulfillment Fulfillment ตัวช่วยคนขายของออนไลน์ ที่ช่วยลดต้นทุนการขายสินค้า ลดเวลาการทำงาน มีเวลาโฟกัสยอดขายได้มากขึ้น
5 เทคนิคถ่ายรูปสินค้า ฉบับมือใหม่
รูปภาพสินค้าที่สวยงาม ภาพคมชัดคือปัจจัยหลักในการนำเสนอขายสินค้าบนโลกออนไลน์ เนื่องจากผู้คนที่ซื้อขายของออนไลน์จะไม่เห็นตัวสินค้าจริง ดังนั้นคุณต้องมีเทคนิค ถ่ายรูป สินค้าให้สวยงดงาม และวันนี้เรามีเทคนิคถ่ายรูป อย่างไร ให้ สวยฉบับมือใหม่มาฝาก
1.จัดแสงให้ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
แสงคือหัวใจสำคัญของการถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทไหน การมีแสงที่เหมาะสมจะช่วยให้สินค้าดูดี มีมิติ และน่าสนใจ
- แสงธรรมชาติ – หากเป็นไปได้ ลองใช้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างหรือภายนอกอาคารในช่วงเช้าครู่หรือเย็น จะได้แสงที่นุ่มนวล ไม่แข็งกระด้าง และสีสันสวยงาม หลีกเลี่ยงการถ่ายภาพกลางแดดจ้าโดยตรง เพราะจะทำให้เกิดเงาเข้มและรายละเอียดของสินค้าอาจหายไป
- แสงไฟสตูดิโอ – หากต้องการควบคุมแสงได้มากขึ้น หรือ ถ่ายภาพในที่แสงน้อย การใช้ไฟสตูดิโอขนาดเล็ก หรือ ไฟต่อเนื่องจะช่วยให้ได้แสงที่สม่ำเสมอและปรับทิศทางได้ง่าย
- แผ่นสะท้อนแสง Reflector – อุปกรณ์ราคาไม่แพงที่ช่วยสะท้อนแสงไปยังส่วนที่มืดของสินค้า ทำให้สินค้าดูสว่างและมีรายละเอียดมากขึ้น สามารถใช้แผ่นโฟมสีขาวหรือกระดาษฟอยล์ก็ได้
- Diffuser – หากแสงแข็งเกินไป สามารถใช้แผ่น Diffuser (ผ้าขาวบาง) กั้นระหว่างแหล่งกำเนิดแสงกับสินค้าเพื่อให้แสงนุ่มนวลขึ้น
2. ฉากหลังเรียบง่าย สะอาดตา
ฉากหลังที่ดีจะช่วยขับให้สินค้าโดดเด่นขึ้น โดยไม่ดึงความสนใจไปจากตัวสินค้า
- พื้นหลังสีขาวหรือสีอ่อน – เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและใช้งานได้หลากหลาย ช่วยให้สินค้าดูสะอาดและง่ายต่อการนำไปใช้งานต่อ
- พื้นผิวที่มี Texture – หากต้องการเพิ่มความน่าสนใจ สามารถใช้พื้นผิวที่มี Texture เล็กน้อย เช่น ผ้าลินิน ไม้ หรือ กระดาษที่มีลวดลายอ่อน ๆ แต่ต้องระวังไม่ให้ลายของพื้นหลังเด่นกว่าสินค้า
- ฉากหลังแบบไร้รอยต่อ – เหมาะสำหรับการถ่ายรูปสินค้าจำนวนมาก หรือ ต้องการความเรียบร้อยเป็นพิเศษ
- Props ประกอบฉาก – สามารถใช้ Props เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เข้ากับธีมของสินค้า เพื่อเพิ่มเรี่องราวและความน่าสนใจ แต่ต้องระวังไม่ให้ Props เด่นกว่าสินค้า
3. องค์ประกอบภาพที่น่าสนใจ
การจัดวางสินค้าและองค์ประกอบอื่น ๆ ในภาพอย่างเหมาะสม จะช่วยดึงดูดสายตาและสื่อถึงคุณค่าของสินค้า
- กฎสามส่วน – แบ่งภาพออกเป็น 9 ส่วนเท่า ๆ กันด้วยเส้นสมมติ 2 เส้นในแนวตั้งและ 2 เส้นในแนวนอน ลองวางสินค้าหรือจุดสนใจหลักไว้ตรงจุดตัดของเส้นเหล่านี้ จะช่วยให้ภาพดูสมดุลและน่าสนใจ
- มุมมองที่หลากหลาย – ลองถ่ายภาพจากหลาย ๆ มุม เช่น มุมตรง มุมเฉียง มุมสูง หรือ มุมต่ำ เพื่อให้เห็นรายละเอียดของสินค้าในทุกด้าน
- ระยะชัดลึก – การปรับรูรับและแสงของกล้อง จะช่วยควบคุมระยะชัดลึก หากต้องการให้สินค้าโดดเด่นและพื้นหลังเบลอ ให้ใช้ค่ารูรับแสงที่กว้าง (ค่า F น้อย)
- พื้นที่ว่าง – การเว้นพื้นที่ว่างรอบ ๆ สินค้า จะช่วยให้สินค้าดูโดดเด่นและไม่รกสายตา
4. โฟกัสที่สินค้า คมชัดทุกรายละเอียด
ความคมชัดของภาพเป็นสิ่งสำคัญมาก ลูกค้าต้องการเห็นรายละเอียดของสินค้าอย่างชัดเจน
- ใช้ขาตั้งกล้อง – ช่วยลดการสั่นไหวของกล้อง ทำให้ภาพคมชัดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถ่ายในที่แสงน้อย
- เลือกจุดโฟกัสที่เหมาะสม – โฟกัสไปที่ส่วนสำคัญที่สุดของสินค้า เช่น โลโก้ ลวดลาย หรือ พื้นผิว
- ตรวจสอบความคมชัด – หลังจากถ่ายภาพแล้ว ให้ซูมดูภาพในกล้องหรือบนคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบว่าภาพคมชัดตามต้องการหรือไม่
5. แต่งภาพให้สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ
การปรับแต่งภาพเล็กน้อยจะช่วยให้สินค้าดูดีขึ้น แต่ควรทำให้ภาพดูเป็นธรรมชาติและไม่เกินจริง หากลงภาพบนเฟสบุ๊คควรรู้ขนาดรูป Facebook เพื่อให้ภาพออกมาสวยงาม
- ปรับแสงและสี – ปรับความสว่าง คอนทราสต์ และสีสันของภาพให้ดูสมจริงและน่าดึงดูด
- ครอบภาพ – ตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกและจัดองค์ประกอบให้ดีขึ้น
- ลบรอยตำหนิเล็กน้อย – ลบรอยฝุ่น รอยขีดข่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ บนสินค้า
- ใช้แอปพลิเคชันแต่งภาพ – มีแอปพลิเคชันมากมาที่ช่วยให้การแต่งภาพง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น เช่น Snapseed, Lightroom, Mobile, VSCO
อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการถ่ายรูปขายของ
- โทรศัพท์มือถือ หรือ กล้องดิจิทัล – อุปกรณ์หลักในการถ่ายภาพ ควรมีคุณภาพของกล้องที่เหมาะสมกับความต้องการ
- ขาตั้งกล้องขนาดเล็ก หรือ ขาตั้งโทรศัพท์ – ช่วยให้ภาพนิ่งและคมชัด โดยเฉพาะเมื่อถ่ายในที่แสงน้อย
- ไฟสตูดิโอขนาดเล็ก หรือ ไฟริงไลท์ – ช่วยให้แสงสว่างสม่ำเสมอและควบคุมได้ง่าย
- ฉากหลัง – อาจเป็นผ้าสีขาว กระดาษ หรือ พื้นผิวต่าง ๆ ที่เรียบง่ายและสะอาดตา
- แผ่นสะท้อนแสง – ช่วยเติมแสงในส่วนที่มีดของสินค้า
- แอปพลิเคชันแต่งภาพ – สามารถใช้ 10 App แต่งรูปขายของ สำหรับปรับแสง สี และครอปภาพให้สวยงาม

เทคนิคการถ่ายรูปสินค้าขายออนไลน์ ให้ดูมืออาชีพ
- แสงสว่างเพียงพอและเหมาะสม – ใช้แสงธรรมชาติหรือแสงไฟสตูดิโอที่นุ่มนวล เพื่อให้เห็นรายละเอียดสินค้าชัดเจนและลดเงาแข็ง
- ฉากหลังสะอาดตา – เลือกพื้นหลังสีขาว สีอ่อน หรือ พื้นผิวเรียบง่าย เพื่อให้สินค้าโดดเด่น
- มุมมองหลากหลาย – ถ่ายภาพจากหลายมุม เช่นด้านหน้า ด้านข้าง ด้านบน และเน้นรายะเอียดสำคัญ
- โฟกัสคมชัด – ทำให้สินค้าอยู่ในโฟกัสเสมอเพื่อแสดงรายละเอียดและคุณภาพของสินค้า
- องค์ประกอบภาพน่าสนใจ – จัดวางสินค้าตามกฎสามส่วนหรือสร้างสมดุลในภาพ
- แต่งภาพอย่างเหมาะสม – ปรับแสง สี และครอบภาพเล็กน้อยให้ดูสวยงามและเป็นธรรมชาติ

ทดลองใช้บริการ Fulfillment
Fulfillment ตัวช่วยคนขายของออนไลน์ ที่ช่วยลดต้นทุนการขายสินค้า ลดเวลาการทำงาน มีเวลาโฟกัสยอดขายได้มากขึ้น
สมัครใช้บริการ คลิกดูค่าบริการสรุปการมีเทคนิควิธีการถ่ายรูปสินค้าที่ดี
สรุป การมีเทคนิค การ ถ่ายรูป สินค้าที่ดีช่วยให้สินค้าของคุณดูน่าสนใจ ดึงดูดลูกค้า และ เพิ่มโอกาสในการขาย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความประทับใจแรกให้กับผู้ซื้อออนไลน์และเมื่อมีออเดอร์เข้ามา Packhai พร้อมเป็นผู้ช่วยจัดการคลังสินค้า แพ็คของ และจัดส่งอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้คุณมีเวลาโฟกัสกับการสร้างสรรค์ภาพถ่ายสินค้าที่ดียิ่งขึ้นไปอีก
- Packhai ผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์ ระบบจัดการออเดอร์อันดับหนึ่งที่มีชื่อเสียง
- การบริหาร ที่ Packhai ได้ใช้ระบบจัดการบริหารคลังสินค้าที่ทรงประสิทธิภาพ ซึ่งมี WMS และ OMS ซึ่งความหมายของWMS คือ Warehouse Management System เป็นการนำเอาระบบการจัดการเข้ามาใช้ในคลังสินค้า
- ระบบ WMS ถือเป็นเทคโนโลยีในคลังสินค้าที่สำคัญ รวมถึงนำมาใช้เป็นระบบบริหารจัดการคลังสินค้า ที่จะเข้ามาช่วยให้การรับสินค้า จัดเก็บสินค้า และการกระจายสินค้าทำได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้กระบวนการทำงานในคลังสินค้ามีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
- ช่วยอำนวยความสะดวกรวดเร็วในทุกกระบวนการทำงานได้อย่างถูกต้อง ลดข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการบริหารจัดการคลังสินค้า
- OMS คือ Order Management System ระบบจัดการออเดอร์ที่จะเข้ามาช่วยจัดการตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย โดยไม่เกิดการตกหล่น คลาดเคลื่อน หรือมีปัญหาเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
- PACKHAI บริการ Fulfillment เก็บ แพ็ค ส่ง ครบจบในที่เดียว
- จัดเก็บสินค้า สินค้าจะถูกเก็บในโกดังใกล้ลูกค้ามากที่สุดอย่างปลอดภัย มีการตรวจสอบสินค้าอย่างละเอียด จัดวางอย่างเป็นหมวดหมู่ มีประกันสินค้า 100% กรณีสูญหาย
- แพ็คสินค้า สินค้าทุกชิ้นจะถูกแพ็คด้วยระบบบาร์โค้ดทั้งหมดอย่างถูกต้องและถึงมือผู้รับอย่างสมบูรณ์ที่สุด
- ส่งสินค้า พัสดุทุกชิ้นจะถูกส่งถึงมือผู้รับอย่างรวดเร็วที่สุดและดีที่สุด

Packhai Fulfillment เป็นผู้บริหารระบบและดูแล ด้วยบริหารรับฝาก เก็บ แพ็ค จัดส่งครบจบในที่เดียวอย่างครบวงจร ระบบ Packhai Fulfillment จะช่วยทำให้ท่านมีเวลาโฟกัสกับการบริหารงานขายได้มากขึ้น ไม่ต้องปวดหัวกับสต๊อกจม สต๊อกมั่ว สต๊อกจม ไม่ต้องเสียเวลาไปส่งของด้วยตนเอง และยังช่วยทำให้ท่านประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้อีกมาก
WMS หรือ Warehouse Management System คือระบบจัดการคลังสินค้าที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความแม่นยำ ลดต้นทุน และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น
บริการของเรา ระบบขายของออนไลน์ Packhai จะช่วยให้การขายของออนไลน์ จัดเก็บ แพ็คสินค้าถูกต้องออเดอร์ไม่ตกหล่น ไม่ต้องปวดหัวกับการจ้างพนักงาน ไม่ต้องไปส่งของด้วยตัวเอง ไม่ต้องแพ็คของเองทั้งวัน ทำให้ท่านมีเวลาไปโฟกัสบริหารธุรกิจได้อย่างเต็มที่ส่งผลให้ธุรกิจของท่านก้าวหน้าเติบโตอย่างมั่นคง
ระบบ Fulfillment PACKHAI ช่วยจัดการระบบหลังบ้านให้เป็นระบบไม่ต้องปวดหัวกับการสต๊อกสินค้า แพ็คสินค้า และจัดส่ง ช่วยลดต้นทุนได้จริง ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการบริหารคลังสินค้าอีกเลยและช่วยเพิ่มยอดขายให้กับท่านได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง สนใจระบบคลังสินค้าออนไลน์ Packhai ติดต่อเราได้ที่ www.packhai.com
ติดต่อเรา PACKHAI : Packhai.com/contact
เบอร์โทร : 097-267-9487
เฟสบุ๊ค : Packhaiofficial
อีเมล : cs@packhai.com
ไลน์ : @packhai
ยูทูป : PACKHAI Fulfillment
ติ๊กตอก : @packhai
