พาเลท คืออะไร? แบ่งเป็นกี่ประเภท เลือกใช้ Pallet ในคลังสินค้าอย่างไรให้เหมาะสม

พาเลท คืออะไร แบ่งเป็นกี่ประเภท

พาเลท (Pallet) ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในแทบจะทุกธุรกิจ เพราะพาเลทคืออุปกรณ์ในคลังสินค้าที่ช่วยในการอำนวยความสะดวก เกี่ยวกับการขนย้ายและการจัดวางสินค้า ผู้คนจึงมักจะเห็นพาเลทอยู่บนชั้นวางสินค้าในคลังสินค้ากันบ่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่สงสัยว่า ทำไมต้องใช้พาเลทและพาเลทคืออะไร ดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาอธิบายเรื่องของพาเลท รวมไปถึงประโยชน์ของการใช้พาเลทให้ทุกคนได้รู้กัน

พาเลท (Pallet) คืออะไร?

พาเลท หรือ Pallet คือ อุปกรณ์สำหรับใช้วางจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้า มีลักษณะเป็นแท่นรูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่ใช้ในคลังสินค้าที่ต้องมีการจัดเก็บสินค้า ธุรกิจที่มีการส่งสินค้าหรือธุรกิจเกี่ยวกับโลจิสติกส์ ที่เป็นส่วนสำคัญของการจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ส่วนหน้าที่หลักๆ ของพาเลทคือใช้สำหรับวางสินค้า แต่มีการออกแบบมาให้ตัวฐานมีช่องที่เอาไว้ให้รถยกหรือรถโฟล์คลิฟท์ (Forklift) เสียบเข้าไป เพื่อที่จะทำการขนย้ายสินค้าได้อย่างสะดวกสบายและง่ายขึ้น

พาเลท มีความสำคัญอย่างไรในคลังสินค้า

สำหรับพาเลท (Pallet) นั้นเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในคลังสินค้า เนื่องจากพาเลทจะทำหน้าที่ในการจัดเก็บสินค้า จัดเก็บอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ในคลังสินค้าให้เป็นระเบียบ เป็นหมวดหมู่ สามารถค้นหาและหยิบสินค้าได้ง่ายมากขึ้น และที่สำคัญ คือ ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้า เพราะการวางสินค้าบนพาเลท จะสามารถนำพาเลทมาวางซ้อนกันได้ และทำให้การจัดเก็บบนชั้นวางสินค้าสะดวกมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะแตกต่างจากการวางสินค้าบนพื้น นอกจากจะกินพื้นที่แล้ว ก็อาจจะทำให้สินค้าได้รับความเสียหายได้

พาเลทมีประโยชน์อย่างไรบ้าง

พาเลทมีประโยชน์อย่างไรบ้าง

พาเลทถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์เยอะมากๆ ในคลังจัดเก็บสินค้า โดยประโยชน์ของพาเลทที่เห็นได้เด่นชัดที่สุดจะมีดังต่อไปนี้

1.ทำให้ขนย้ายสินค้าง่ายขึ้น เพราะพาเลทสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในการยก ทำให้สามารถขนย้ายสินค้าจากคลังไปสู่ยานพาหนะ เช่น รถยนต์ รถบรรทุก เรือ เครื่องบิน ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว

2.ช่วยให้ประหยัดเวลาในการขนย้ายสินค้า เพราะสามารถยกสินค้าไปได้ทั้งพาเลท ไม่ต้องมายกสินค้าทีละชิ้นให้ไม่เปลืองทั้งแรงงานคน ไม่เปลืองทั้งเวลา อีกทั้งยังไม่เปลืองเงินในการจ้างคนงานอีกด้วย

3.ช่วยลดความเสียหายในระหว่างการขนย้ายสินค้า เพราะพาเลทถูกออกแบบมาให้มีความแข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักได้เยอะ ทำให้ช่วยลดความผิดพลาด ลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างขนย้ายสินค้าได้

4.ทำให้สามารถจัดเก็บสินค้าได้เป็นหมวดหมู่ หากวางสินค้าที่เป็นหมวดหมู่เดียวกันบนพาเลท จะทำให้สินค้าถูกวางห่างเป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน

5.ช่วยให้นับจำนวนสินค้าได้ง่าย เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่สินค้าถูกจัดวางเป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน การนับจำนวนสินค้าก็จะง่ายขึ้น

6.ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้า เพราะการวางสินค้าบนพาเลท สามารถวางแบบเป็นชั้นๆซ้อนกันขึ้นไปเรื่อยๆได้ จึงเป็นการเพิ่มพื้นที่ในคลังสินค้า ให้สามารถจัดเก็บสินค้าได้เยอะขึ้น

บทความที่น่าสนใจ:

ประเภทของพาเลทที่นิยมนำมาใช้งาน

5 ประเภทของพาเลทที่นิยมนำมาใช้งาน

1.พาเลทไม้

พาเลทที่ทำจากไม้ถือว่าได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีราคาถูก สามารถหาซื้อได้ง่าย สามารถเลือกประเภทของไม้ได้ ในส่วนของการใช้งานพาเลทไม้ก็ถือว่ามีความทนทานสูง สามารถรองรับน้ำหนักได้เยอะ แต่อาจจะมีปัญหาในเรื่องของเชื้อราและแมลงพอสมควร

2.พาเลทโฟม

พาเลทโฟมก็ถือเป็นอีกหนึ่งพาเลทที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เนื่องจากมีน้ำหนักเบา ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย ไม่ต้องห่วงเรื่องของเชื้อราและแมลง แต่อาจจะมีข้อเสียตรงที่รับน้ำหนักได้ไม่ค่อยเยอะ อีกทั้งยังยากต่อการทำลายและการย่อยสลายด้วย

3.พาเลทพลาสติก

Pallet พลาสติกหรือพาเลทที่ทำจากพลาสติกถือว่าได้รับความนิยมมากๆ เพราะมีความแข็งแรง มีความทนทานสูง น้ำหนักเบา ดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องของความชื้นและแมลง นอกจากนี้ยังสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำใหม่ได้อีกด้วย

4.พาเลทกระดาษ

พาเลทที่ทำจากกระดาษเป็นพาเลทอีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยความที่มีน้ำหนักเบา จึงทำให้ง่ายต่อการขนย้าย แต่ก็มีข้อเสียอยู่ตรงที่ความแข็งแรงค่อนข้างน้อย ไม่ทนต่อทั้งความชื้น น้ำและแมลง รวมไปถึงรับน้ำหนักได้ไม่ค่อยเยอะเหมือนกับพาเลทแบบอื่นๆ

5.พาเลทเหล็ก

พาเลทเหล็กได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมที่มีการจัดเก็บสินค้าที่มีน้ำหนักมาก เพราะพาเลทเหล็กมีความแข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักได้เยอะ สามารถใช้งานเป็นระยะเวลานานได้ ไม่ต้องกังวลในเรื่องของความชื้นและแมลงอีกด้วย

ขนาดมาตรฐานของพาเลท มีอะไรบ้าง

ขนาดมาตรฐานของพาเลท มีอะไรบ้าง

สำหรับขนาดพาเลทมาตรฐานตามหลัก ISO ที่มีการใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน จะสามารถแบ่งออกเป็น 3 ขนาด ดังนี้

  • Euro Pallet เป็นขนาดมาตรฐานพาเลทในกลุ่มประเทศฝั่งยุโรป มีขนาดอยู่ที่ 80 x 120 เซนติเมตร
  • Japan Pallet เป็นขนาดมาตรฐานพาเลทที่ประเทศญี่ปุ่นกำหนดขึ้น โดยมีขนาดอยู่ที่ 110 x 110 เซนติเมตร
  • International Pallet เป็นขนาดมาตรฐานพาเลทที่นิยมใช้ในหลายๆประเทศทั่วโลก โดยมีขนาดอยู่ที่ 100 x เซนติเมตร

เลือกพาเลทอย่างไรดี ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

สำหรับการเลือกพาเลทมาใช้งาน ควรเลือกให้เหมาะกับตัวสินค้า ถ้าสินค้ามีน้ำหนักมาก ควรจะใช้พาเลทที่รองรับน้ำหนักได้มากเช่น พาเลทแบบไม้หรือพาเลทแบบพลาสติก ส่วนธุรกิจที่ต้องมีการจัดวางสินค้าที่อยู่ในสถานที่ที่มีความชื้นหรืออยู่ในห้องเย็น ควรใช้พาเลทที่ไม่มีปัญหาในเรื่องของความชื้นและเชื้อรา ส่วนธุรกิจที่ต้องมีการขนย้ายสินค้าตลอดเวลา ควรเลือกใช้พาเลทที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ยก เพื่อให้ง่ายต่อการหยิบและขนย้ายสินค้า

พาเลท (Pallet) มีวิธีการดูแลรักษาอย่างไร

พาเลท (Pallet) มีวิธีการดูแลรักษาอย่างไร

เนื่องจากพาเลทนั้นมีอยู่หลายประเภท ที่มีการวัสดุแตกต่างกัน ดังนั้นวิธีการดูแลรักษาของพาเลทแต่ละประเภทจึงไม่เหมือนกัน โดยหากเป็นพาเลทกระดาษที่ไม่ทนต่อความชื้น ควรที่จะระวังไม่ให้โดนน้ำ และหลีกเลี่ยงการจัดเก็บใกล้กับบริเวณที่มีเปลวไฟหรือความร้อนสูง ส่วนพาเลทโฟม พาเลทพลาสติก และพาเลทเหล็ก นั้นจะมีความทนทานและไม่ต้องกังวลเรื่องความชื้น จึงสามารถดูแลรักษาได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก และสำหรับพาเลทไม้ก็สามารถดูแลรักษาได้ง่าย เพียงแต่ต้องระวังเรื่องของความชื้น เชื้อรา และแมลง เช่น ปลวก 

แต่สิ่งที่พาเลททุกประเภทต้องระวังเหมือนๆ กัน ก็คือการเคลื่อนย้ายพาเลท โดยจะต้องใช้รถยกหรือรถโฟล์คลิฟท์ในการขนย้าย ไม่ควรลากไปตามพื้น เพราะอาจจะทำให้พาเลทได้รับความเสียหาย และมีอายุการใช้งานที่สั้นลงได้

พาเลทสินค้า หากจัดวางไม่ดี อาจเกิดปัญหาตามมาได้

เรื่องของการจัดวางพาเลทวางของถือว่ามีความสำคัญต่อการจัดเก็บสินค้าในคลังเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากจัดวางพาเลทไม่ดี จัดวางไม่เป็นระเบียบ พื้นที่จัดเก็บสินค้าในคลังก็จะลดลง ยิ่งถ้าหากมีการจัดวางพาเลทวางสินค้าเป็นชั้นๆ ซ้อนกัน ยิ่งควรต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะถ้าเกิดจัดวางได้ไม่ดี อาจจะทำให้การขนย้ายยากลำบากและอาจจะทำให้สินค้าตกลงมาจนเกิดความเสียหายได้อีกด้วย

ซึ่งหากไม่อยากให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการจัดวางพาเลทสินค้า การมองหาระบบจัดการคลังสินค้าอย่างระบบ WMS (Warehouse Management System) ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เพื่อช่วยให้การทำงานเป็นระบบมากขึ้น มีการจัดเก็บข้อมูลสินค้าอย่างเป็นระเบียบ สามารถค้นหาและหยิบสินค้าได้ง่าย นอกจากนี้หากธุรกิจใช้ระบบคลังสินค้าที่เชื่อมต่อข้อมูลกับระบบจัดการออเดอร์ หรือระบบ OMS (Order Management System) ก็จะยิ่งทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพและไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น ธุรกิจจะสามารถเช็คสต๊อก ยืนยันออเดอร์ ตัดสต๊อก รวมถึงทำรายงานยอดขายในแต่ละวันได้อย่างสะดวก

คลิกอ่านเพิ่มเติม : ระบบจัดการออเดอร์และคลังสินค้าในที่เดียว หรือระบบ OMS+WMS By Packhai

Packhai ระบบจัดการออเดอร์และคลังสินค้าในหนึ่งเดียว

พาเลท (Pallet) อุปกรณ์สำคัญในคลังสินค้า ที่ธุรกิจต้องใส่ใจในการเลือกใช้งาน หากเลือกพาเลทให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ การจัดเก็บสินค้าและการขนย้ายก็จะมีประสิทธิภาพ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรเลือก Pallet ที่ตอบโจทย์กับการใช้งาน เพื่อให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ รวมถึงพาเลทสินค้าจะต้องมีคุณภาพ แข็งแรงทนทาน และมีจำนวนที่เพียงพอสำหรับสินค้าในสต๊อก ซึ่งจำเป็นต้องใช้ต้นทุนอย่างมากเลย

แต่หากธุรกิจไม่อยากวุ่นวาย หรือมีต้นทุนเพิ่มในด้านอุปกรณ์ต่างๆ ในคลังสินค้า การเลือกเช่าคลังสินค้าออนไลน์ระบบ Fulfillment ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะนอกจากจะไม่ต้องจัดเก็บ แพ็ค และส่งสินค้าเองแล้ว ก็ยังไม่ต้องแบกรับภาระต้นทุนด้านค่าอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องใช้คลังสินค้าอีกด้วย – อยากรู้ว่า Fufillment BY Packhai ดียังไง? : คลิกที่นี่

บริการ Fulfillment Packhai

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *