ในการทำธุรกิจให้ได้ผลกำไรตอบแทนสูงคือการมองหาวิธีการลดต้นทุนในภาคการผลิตที่ต่ำ และไม่ส่งผล กระทบต่อคุณภาพ เพราะการที่คุณสามารถผลิตสินค้าในต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่งในตลาดเท่ากับเป็นโอกาสในการแข่งขันที่ดีและเป็นการเพิ่มกำไรที่มากขึ้น วิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมคือแนวคิดที่เรียกว่าการประหยัดต่อขนาดหรือ Economies of Scale ตามนิยามเกิดจากการที่ธุรกิจมีต้นทุนต่อหน่าวยที่ลดลงเมื่อมีการผลิตสินค้ามากขึ้น
ซึ่งในกระบวนการลดต้นทุนการผลิตอีกวิธีหนึ่ง คือการบริหารคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหมายถึงการจัดเก็บ การแพ็คสินค้า การส่งสินค้าให้กับลูกค้าครบจบในที่เดียว ซึ่งเป็นกระบวนการที่จะเข้ามาช่วยท่านในการประหยัดต้นทุนด้านการบริหารคลังสินค้า กระบวนการนี้เรา Packhai ช่วยท่านได้
Economies of Scale คืออะไร?
economies of scale หรือ การประหยัดต่อขนาด คือการลดต้นทุนการผลิตโดยการผลิตสินค้าให้มากขึ้นเพียงพอควรได้ต้นทุนที่ต่ำ หรือการผลิตมากเท่าใดต้นทุนก็ยิ่งลดน้อยลง หรืออีกนัยนึงการประหยัดต่อขนาดในการผลิตที่ความแตกต่างระหว่างต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร ซึ่งต้นทุนคงที่ไม่เพิ่มขึ้นตามขนาดของการดำเนินการผลิตในขณะที่ต้นทุนผันแปรเป็น หรือพูดง่ายๆคือยิ่งทำมากผลิตมากก็ยิ่งคุ้ม การที่เราขายได้มากจะทำให้เราต้องผลิตมากขึ้นแต่ต้นทุนลดลงเนื่องจากหลายสาเหตุ
โดยต้นทุนของการทำธุรกิจแบ่งเป็น 2 แบบคือ
- ต้นทุนคงที่ Fixed Cost คือต้นทุนที่ไม่ว่าจะผลิตมากหรือน้อยก็ยังต้องจ่ายเท่าเดิม
- ต้นทุนผันแปร Variable Cost คือต้นทุนที่แปรผันไปตามชำนาญการผลิตที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง
สำคัญของ Economies of Scale ต่อธุรกิจ SMEs
ความสำคัญหรือประโยชน์ของ Economy of Scale ต่อธุรกิจ SME
- ประหยัดด้านการวิจัยและพัฒนา – ส่วนนี้เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมากดังนั้นหากหนี้มีการผลิตมากขึ้นยิ่งทำให้ค่าใช้จ่ายได้นี้เฉลี่ยต่อหน่วยผลผลิตลดลงได้
- ประหยัดจากการลงทุน–ธุรกิจสามารถประหยัดต้นทุนจากการลงทุนได้ที่ซื้อดอกเบี้ยให้กับค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนได้ลดลงอาจหน่วยการผลิต
- ประหยัดค่าวัตถุดิบ – การซื้อจำนวนมากทำให้ SME ประหยัดต้นทุนต่อหน่วยได้โดยได้ส่วนลดเพิ่มจากผู้ผลิตวัตถุดิบ
- ประหยัดด้านการใช้ทุน – ซึ่งเกิดขึ้นได้จากการใช้เครื่องมือเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพสูงได้อย่างคุ้มค่าเพราะมีการผลิตในปริมาณที่มากจะช่วยลดการสูญเสียในกระบวนการผลิตได้
- ประหยัดในการจัดซื้อจัดจ้าง – ธุรกิจสามารถประหยัดต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วยโดยการซื้อวัตถุดิบการว่าจ้างผู้ผลิตสิ้นสุด เนื่องจากซื้อหรือว่าจ้างในปริมาณมากทำให้ได้ส่วนลดเพิ่มมากขึ้น
- ประหยัดแรงงาน – เนื่องจากการใช้แรงงานได้คุ้มค่ามากขึ้น และมีความชำนาญมากขึ้นทำให้การผลิตได้มากขึ้นทั้งๆที่การสร้างแรงงานจำนวนเท่าเดิม
- ประหยัดด้านการโฆษณาและการส่งเสริมการขาย – การมีสินค้าพร้อมขายจำนวนมากขึ้นจะช่วยให้ต้นทุนด้านการโฆษณาการขายต่อชิ้นลดลง
- ประหยัดค่าขนส่ง – การผลิตมากเครื่องทำให้ต้นทุนได้ขนส่งและกระจายสินค้าลดลง
หรือแม้แต่การเปลี่ยนรูปแบบจากการใช้บริการขนส่งภายนอกมาเข้าดำเนินการขนส่ง และกระจายสินค้าจะทำให้สามารถประหยัดต้นทุนลงได้ด้วยเช่นกัน
สรุป
อย่างไรก็ตาม Economies of Scale หรือการผลิตครั้งละมาก ๆ ไม่ได้มีเฉพาะข้อดีเท่านั้น ตัวอย่างการผลิตมาก หมายถึงการลงทุนในเงินจำนวนมากผู้ประอบการจะต้องประเมินความเสี่ยงให้รอบคอบในเรื่องของการระบายสินค้า และการเก็บเงินลูกค้า สิ่งสำคัญการผลิตครั้งหนึ่งในปริมาณมากยังรวมถึงการจัดเก็บและการดูแลรักษาทำให้ต้นทุนด้านคลังสินค้าและระบบโลจิสติกส์หลังบ้านเกิดขึ้นได้แน่นอน
สำหรับเรื่องการลดต้นทุนระบบโลจิสติกส์หลังบ้านหรือการจัดการระบบคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพต้องยกให้ Packhai Fulfillment เป็นผู้ดูแลและบริหารงานในส่วนนี้ เพราะเรา Packhai คือผู้ให้บริการจัดการคลังสินค้าออนไลน์มืออาชีพ
Packhai Fulfillment เก็บ แพ็ค ส่ง เราคือคลังสินค้าออนไลน์ ให้บริการคลังเก็บสินค้าระบบ Fulfillment แบบครบวงจรที่สุด บริการรับฝาก เก็บ แพ็ค ส่ง รวมไว้ในที่เดียวที่จะช่วยให้คุณโฟกัสกับการขายได้มากขึ้น ลดต้นทุนพร้อมจัดการระบบขายของหลังบ้านให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น
เราไม่กำหนดค่าขนส่ง ให้บริการขนส่งหลากหลายเจ้าสามารถเลือกส่งได้ตามต้องการ ค่าบริการเราคิดตามจริงแค่ค่าเช่าพื้นที่ + ค่าบรรจุภัณฑ์ + ค่าขนส่งตามจริง ฟรีระบบจัดการออเดอร์ มีพนักงานคอยช่วยเหลือตลอด 365 วัน เข้ารับสินค้าฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
เราพัฒนาระบบ Fulfillment อย่างต่อเนื่องให้ใช้งานง่ายที่สุด เราเข้ามาช่วยแก้ปัญหากรณีแพ็คสินค้าไม่ทัน หรือ การส่งผิด ส่งช้า ช่วยให้ท่านไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวขนส่ง เสียค่าเดินทางไปขนส่ง รวมถึงพื้นที่จัดเก็บสินค้าไม่พอ ทั้งหมด Packhai จะเข้ามาแก้ปัญหาให้กับท่านทั้งหมด หากท่านสนใจบริการคลังสินค้าออนไลน์ติดต่อเราได้ที่ www.packhai.com