ระบบจัดการออเดอร์ กับการทำธุรกิจออนไลน์
ปัจจุบัน ระบบจัดการออเดอร์ หรือระบบ OMS (Order Management System) ได้เข้ามามีบทบาทต่อธุรกิจออนไลน์ค่อนข้างมาก เพราะถ้ามีการสั่งออเดอร์สินค้าเป็นจำนวนมาก ข้อมูลสินค้าก็จะมากขึ้นเท่านั้น ถ้าหากว่าไม่สามารถจัดการออเดอร์สินค้าและส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้ตามกำหนด ธุรกิจที่ทำอยู่ก็อาจจะพังและเจ๊งไม่เป็นท่า ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้ร้านค้าธุรกิจออนไลน์ต่างๆ มีการนำระบบจัดการคำสั่งซื้อ เข้ามาใช้กับธุรกิจของตัวเอง เพื่อให้สามารถจัดการออเดอร์สินค้าได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
ระบบจัดการออเดอร์ คืออะไร?
ระบบจัดการออเดอร์ คือ ระบบที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบหลังบ้านขายของออนไลน์ เป็นระบบที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อให้สามารถจัดการออเดอร์สินค้าได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างออเดอร์ บันทึกข้อมูลของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ประเภทของสินค้าที่สั่งซื้อ รวมไปถึงบันทึกขั้นตอนในการขนส่งสินค้า พร้อมกันนั้นยังสามารถตรวจเช็คดูประวัติต่างๆ ย้อนหลังได้ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาเกี่ยวกับการจัดการออเดอร์ได้อีกด้วย
ระบบจัดการออเดอร์ มีประโยชน์อะไรบ้างต่อธุรกิจ
1.ช่วยจัดการออเดอร์จำนวนมากได้ดี
ถือว่าเป็นประโยชน์ของระบบจัดการออเดอร์อย่างแท้จริง เพราะการใช้ระบบจัดการออเดอร์ จะช่วยให้ร้านค้าออนไลน์สามารถจัดการออเดอร์สินค้าจำนวนมากได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านั้น ระบบจัดการออเดอร์ยังสามารถรับออเดอร์ สร้างออเดอร์ ติดตามคำสั่งซื้อ พร้อมส่งข้อมูลไปยังส่วนของการจัดเตรียมสินค้า เพื่อที่จะทำการจัดส่งให้กับลูกค้าได้อย่างถูกต้องอีกด้วย
2.ออกเลข tracking ได้ไว
เป็นอีกหนึ่งประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากระบบการจัดการออเดอร์ เพราะระบบจัดการออเดอร์คือโปรแกรมอัจฉริยะ จึงสามารถรับออเดอร์ สร้างออเดอร์และออกเลข tracking ได้ทันที แก้ปัญหาเรื่องเลข tracking หายและเรื่องการจัดเลขไม่ตรงได้เป็นอย่างดี
3.เก็บออเดอร์ได้เยอะ ออเดอร์ไม่ซ้ำ
เพราะในอดีตที่ยังไม่มีการใช้ระบบจัดการออเดอร์ในธุรกิจร้านค้าออนไลน์ มักจะเกิดปัญหาเรื่องการเก็บออเดอร์ได้น้อย มีปัญหาเกี่ยวกับการจดออเดอร์ซ้ำ แต่เมื่อใดก็ตามที่ร้านค้านำระบบจัดการออเดอร์เข้ามาใช้ ประสิทธิภาพในการจัดการออเดอร์ก็จะดีขึ้น เก็บข้อมูลออเดอร์ได้เยอะ ไม่เกิดปัญหาเกี่ยวกับออเดอร์ซ้ำอีกด้วย
4.ช่วยให้ค้นหาออเดอร์ได้รวดเร็ว
ไม่ว่าลูกค้าจะออเดอร์สินค้าเข้ามาตอนไหน ระบบจัดการออเดอร์ก็สามารถสร้างออเดอร์ พร้อมกับการจัดเก็บข้อมูล เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา ช่วยให้สามารถเช็คเลข tracking อีกทั้งยังทำให้สามารถแก้ไขข้อมูล ช่วยติดตามสถานะของสินค้าได้อีกด้วย
5.ช่วยเพิ่มกำไรให้กับร้านค้า
แน่นอนว่านี่คือประโยชน์สูงสุดของระบบจัดการออเดอร์ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่สามารถจัดการออเดอร์และส่งสินค้าให้กับลูกค้าตามที่ลูกค้าต้องการได้อย่างรวดเร็ว ลูกค้าก็จะเกิดความประทับใจ ทำให้ลูกค้าอาจจะมีการสั่งซื้อสินค้าเข้ามาเพิ่ม หรือมีการเพิ่มยอดจำนวนของสินค้า ซึ่งก็จะทำให้ร้านค้าได้กำไรมากยิ่งขึ้น
บทความที่น่าสนใจ:
- แนะนำ 15 วิธีเพิ่มยอดขาย สำหรับกระตุ้นยอดขายร้านค้าออนไลน์ให้ปัง
- รวม 7 วิธีเพิ่มมูลค่าสินค้า ตัวช่วยเพิ่มยอดขายของธุรกิจ ให้ลูกค้ายอมจ่าย แม้ราคาสูงขึ้น
6.ยกระดับร้านค้าให้มีความเป็นมืออาชีพ
การจดออเดอร์สินค้าใส่กระดาษแบบเดิมๆที่ดูไม่มีความเป็นมืออาชีพจะหมดไป เมื่อมีการใช้ระบบจัดการออเดอร์ในธุรกิจร้านค้าออนไลน์ เพราะระบบจัดการออเดอร์ มีประสิทธิภาพในการดำเนินการและมีความถูกต้องมากกว่าการใช้คนงานมาจดบันทึกข้อมูล เป็นการยกระดับร้านค้าออนไลน์ให้มีความเป็นมืออาชีพมากกว่าในอดีตที่ผ่านๆ มา
ปัญหาที่อาจเจอ หากไม่ใช้ระบบจัดการออเดอร์
การทำธุรกิจร้านค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กหรือร้านขนาดใหญ่ ถ้าหากไม่มีการจัดการออเดอร์ที่ดีก็มักจะมีปัญหาเกิดขึ้น โดยปัญหาต่างๆ มีดังนี้
- เก็บออเดอร์จากลูกค้าไม่ครบ
- ไม่มีระบบที่แจ้งเมื่อมีรายชื่อซ้ำ
- อาจเกิดปัญหาการจดออเดอร์ซ้ำ หรือจดผิดได้
- เลข tracking อาจสูญหายได้ ทำให้ส่งสินค้าผิดและล่าช้า
- เสียเงินในการจ้างพนักงานจำนวนมากอย่างไม่จำเป็น
ระบบจัดการออเดอร์ เหมาะกับธุรกิจประเภทไหน
ระบบจัดการออเดอร์เป็นระบบที่เหมาะจะนำมาใช้กับการทำธุรกิจแทบทุกประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับธุรกิจออนไลน์ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพราะส่วนใหญ่แล้วธุรกิจออนไลน์จะมีออเดอร์จากลูกค้าเข้ามาตลอด ถ้ารับออเดอร์ได้เร็ว สร้างออเดอร์ได้ทันที กระบวนการในการจัดส่งสินค้าก็จะเร็วขึ้น ดังนั้นระบบจัดการออเดอร์จึงเป็นระบบที่ตอบโจทย์ธุรกิจและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ดีมากๆ
ฟีเจอร์สำคัญที่ควรมีในระบบจัดการออเดอร์
1.ฟีเจอร์เชื่อมต่อระบบสต๊อกสินค้า
การเชื่อมต่อกับระบบสต๊อกสินค้า หรือระบบคลังสินค้าที่เรียกว่าระบบ WMS (Warehouse Management System) ถือเป็นฟีเจอร์สำหคัญที่ระบบจัดการออเดอร์ควรมี เพื่อจะได้รู้ว่ามีสินค้าเข้าออกเท่าไหร่ ขายได้เท่าไหร่ พร้อมกับสามารถติดตามสถานะสินค้า ค้นหาสินค้า ดูแลควบคุมสต๊อกสินค้า ดูวันหมดอายุของสินค้า เชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิด ดูการแพ็คสินค้าและการเก็บสินค้าไว้เคลมส่งในภายหลังได้
2.ฟีเจอร์เชื่อมต่อทุกช่องทางขายไว้ในที่เดียว
ปัจจุบันคงต้องยอมรับว่าคงไม่มีร้านค้าออนไลน์ไหน ที่ขายสินค้าเพียงแค่ช่องทางเดียวอย่างแน่นอน ดังนั้นระบบจัดการออเดอร์ที่มีฟีเจอร์สามารถเชื่อมต่อข้อมูลของทุกช่องทางขายไม่ว่าจะเป็น Facebook, Lazada, shopee และแพลตฟอร์มขายของออนไลน์อื่นๆ เข้าด้วยกันจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อช่วยจัดการออเดอร์จากทุกช่องทางในที่ที่เดียว โดยไม่ทำให้เกิดความสับสนในการรับออเดอร์ และไม่ทำให้เกิดการตกหล่นของออเดอร์ลูกค้า รวมถึงยังสามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรมไลฟ์สดได้ด้วย ช่วยดูดคอมเม้นและออเดอร์ในไลฟ์ได้แบบอัตโนมัติ
3.ฟีเจอร์แจ้งยอดขาย และจำนวนสินค้า
ฟีเจอร์ต่อมาที่ควรมีในระบบจัดการออเดอร์ ก็คือการแจ้งยอดขายและจำนวนสินค้า เพราะจะทำให้การดำเนินธุรกิจออนไลน์เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งผู้ประกอบการจะสามารถรู้ได้ว่ามีจำนวนเหลือสินค้าอยู่เท่าไหร่ ขายอะไรไปแล้วบ้าง ขายได้ราคาเท่าไหร่ สินค้าประเภทไหนที่ขายดี ช่วยให้ธุรกิจสามารถคาดการณ์ยอดขาย เพื่อสั่งซื้อหรือผลิตสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการได้
4.ฟีเจอร์รายงานยอดขายและสถิติ
สำหรับฟีเจอร์รายงานยอดขายและสถิติ จะเป็นการรายงานยอดขายสินค้าทั้งหมดแบบ Real Time โดยสามารถแยกรายงานยอดขายตามประเภทการขาย Admin ผู้ขายแต่ละคนได้ ซึ่งช่วยให้การประเมินหรือวัดผลทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และรายงานยอดขายก็ยังช่วยแปลงข้อมูลเป็นสถิติ เพื่อใช้วิเคราะห์และวางแผนต่างๆ เช่น การยิงแอด หรือการทำโปรโมชั่น รวมไปถึงฟีเจอร์นี้ยังสามารถค้นหาข้อมูลย้อนหลัง เช่น ชื่อลูกค้า รายการสั่งสินค้า ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วอีกด้วย
ระบบจัดการออเดอร์และสต๊อกสินค้า Packhai ดีอย่างไร?
อย่างได้รู้กันไปแล้วว่าระบบจัดการออเดอร์ที่ดี นั้นจะต้องช่วยจัดการได้ทั้งข้อมูลคำสั่งซื้อและข้อมูลของสินค้าในคลัง เพื่อให้การทำงานไร้รอยต่อและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งสำหรับธุรกิจไหนที่กำลังมองหาหรือสนใจระบบช่วยจัดการออเดอร์ อยากแนะนำให้รู้จักกับระบบจัดการออเดอร์และคลังสินค้า จาก Packhai ที่เป็นการนำ 2 ระบบที่สำคัญสุดๆ ในการทำธุรกิจอย่าง ระบบ OMS (Order Management System) และระบบ WMS (Warehouse Management System) เข้าด้วยกัน ช่วยบริหารจัดการออเดอร์และคลังสินค้าได้ครบจบในที่เดียว
ระบบ OMS+WMS นั้นเหมาะมากๆ สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ที่ต้องการทำคลังสินค้าของตัวเอง แต่ยังไม่มีระบบรองรับ โดยการนำระบบเข้ามาใช้จะช่วยให้ร้านค้าจัดการกับออเดอร์จากทุกช่องทางขายได้สะดวก สามารถเช็คจำนวนสินค้าเข้า-ออกในคลังได้ตลอดเวลา ช่วยให้การตัดสต๊อกสินค้าเพื่อเตรียมจัดส่งสินค้าได้อย่างแม่นยำ ลดโอกาสที่ข้อมูลจะตกหล่น และลดข้อผิดพลาดต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในการทำงานได้อีกด้วย
ระบบจัดการออเดอร์ เป็นระบบที่มีประโยชน์และสำคัญอย่างมากกับธุรกิจ เหมาะที่จะนำไปใช้กับธุรกิจออนไลน์และธุรกิจประเภทอื่นๆ เพราะฟีเจอร์ต่างๆ ของตัวระบบจะช่วยให้การทำงานของธุรกิจมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะธุรกิจไหนที่กำลังเจอปัญหา เช่น จดออเดอร์ซ้ำ แพ็คสินค้าผิด ทำเลข tracking หายบ่อยๆ ควรจะลองนำเอาระบบจัดการออเดอร์และคลังสินค้า Packhai ไปใช้งาน เพื่อช่วยแก้ปัญหาและทำให้การทำงานเป็นระบบมากยิ่งขึ้น
สำหรับพ่อค้าแม่ค้าท่านไหนที่ไม่ได้มีคลังสินค้าของตัวเอง แต่อยากให้การทำงานและข้อมูลต่างๆ เป็นระบบมากขึ้น การเลือกใช้บริการเช่าคลังสินค้าระบบ Fulfillment ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะนอกจากจะเป็นคลังรับฝาก จัดเก็บ พร้อมบริการแพ็คและจัดส่งสินค้าแล้ว Fulfillment เองก็ยังมีระบบจัดการคลังสินค้า ที่สามารถเชื่อมต่อ API เข้ากับระบบหลังบ้านของร้านค้าได้อย่างสะดวกอีกด้วย – อยากรู้ว่า Fufillment BY Packhai ดียังไง? : คลิกที่นี่