SME คืออะไร ?
SME คือ คำที่ย่อมาจาก Small and Medium Enterprises หรือที่หลายๆคนเรียกกันว่าวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่มีการดำเนินกิจกรรมทางด้านการผลิต จำหน่าย ที่ไม่อยู่ใต้อิทธิของบุคคล เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจมีความอิสระเป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ ซึ่งในปัจจุบันนี้ธุรกิจ SME ถือเป็นธุรกิจที่ช่วยในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี เพราะกิจการรายย่อยช่วยทำให้เกิดการกระจายสินค้าจากผู้ประกอบกิจการไปยังกลุ่มคนทำให้เกิดการจ้างงาน ประชาชนมีรายได้ หรือเรียกกันง่ายๆ ว่าเป็นธุรกิจที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจขนาดใหญ่นั่นเอง
อีกทั้งสาเหตุที่หลายๆคนเลือกทำธุรกิจ SME ก็เป็นเพราะเป็นธุรกิจที่มีต้นทุนที่ใช้ในการลงทุนที่ต่ำ มีพนักงานจำนวนน้อย รวมถึงสามารถครอบคุมความเป็นธุรกิจได้ถึง 3 กลุ่มใหญ่ๆด้วยกัน ดังนั้นบทความนี้ก็เลยจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับประเภทของ SME พร้อมกับการเตรียมความพร้อมในการเริ่มธุรกิจ SME จะเป็นยังไงบ้าง มาดูไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ
SME มีประเภทไหนบ้าง ?
1.ธุรกิจ SME ด้านการผลิตสินค้า
เป็นธุรกิจที่ต้องจัดสรรหาวัตถุดิบมาแปรรูปให้เกิดเป็นสินค้าสำเร็จรูป ซึ่งเป็นกิจการที่ครอบคลุมกระบวนการผลิตทั้งภาคอุตสาหกรรม เกษรตรกรรมและเหมืองแร่ เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มธุรกิจที่สำคัญเป็นลำดับต้นๆของประเทศ เนื่องจากมีส่วนช่วยการพัฒนาเศรษฐกิจในด้านการจ้างงานและกำลังคน นอกจากนี้ธุรกิจ SME ด้านการผลิตสินค้าที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางยังต้องมีจำนวนการจ้างงานไม่เกิน 200 คน และวิสาหกิจขนาดเล็กสามารถมีจำนวนการจ้างงานไม่เกิน 50 คน
2.ธุรกิจ SME ด้านการค้า
สำหรับธุรกิจ SME ด้านการค้านั้นจะเป็นกิจการที่เกี่ยวข้องกับการค้าโดยตรง ทั้งการค้าแบบปลีกและแบบส่ง เป็นธุรกิจกิจการที่เราไม่สามารถผลิตสินค้าได้เอง ต้องทำการสั่งซื้อสินค้าที่สำเร็จรูปมาจำหน่ายเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถครอบคลุมกระบวนการในการนำเข้าและส่งออกไปทำการค้าขายภายในประเทศ เช่นกิจการห้างสรรพสินค้า กิจการขายเครื่องกีฬา นอกจากนี้ธุรกิจ SME ด้านการค้าแบบ ค้าส่ง วิสาหกิจขนาดกลางยังสามารถรับจำนวนการจ้างงานได้ไม่เกิน 50 คน วิสาหกิจขนาดเล็กสามารถรับจำนวนลูกจ้างได้ไม่เกิน 25 คน และแบบ ค้าปลีก วิสาหกิจขนาดกลางสามารถรับลูกจ้างได้ไม่เกิน 30 คน วิสาหกิจขนาดเล็กรับจำนวนลูกค้าได้ไม่เกิน 15 คน
3.ธุรกิจ SME ด้านการให้บริการ
สำหรับธุรกิจ SME ด้านการให้บริการ จะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิง ร้านเสริมสวย โรงแรม และบริการที่เกี่ยวข้องกับการบริการทั้งหมดที่ไม่มีการจำหน่ายสินค้าใด นอกจากนี้ธุรกิจ SME ด้านการให้บริการ วิสาหกิจขนาดกลางสามารถรับจ้างงานได้ไม่เกิน 200 คน วิสาหกิจขนาดเล็กรับจ้างงานได้ไม่เกิน 50 คน
ก่อนเริ่มธุรกิจ SME ควรเตรียมสิ่งเหล่านี้ให้พร้อม
1.เรื่องเงินทุน หุ้นส่วน
สำหรับเงินทุนในการเริ่มธุรกิจนั้นถือเป็นเรื่องมีความสำคัญมากเป็นลำดับต้นๆเลยเรื่องหนึ่งของการทำธุรกิจ ซึ่งหากเราต้องการที่จะเริ่มทำธุรกิจ SME เราเลยต้องรู้งบประมาณที่ใช้ในการสร้างเสียก่อน และหากเงินทุนที่ได้มาจากเงินออมก็ไม่ควรที่จะเอาเงินมาลงทุนทั้งหมด เพราะการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ดังนั้นเราจึงต้องมีเงินทุนสำรองเอาไว้เพื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด หรืออาจมีการหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเช่น การหาหุ้นส่วน การกู้ยืมเงินจากธนาคารเป็นต้น
2.เตรียมการวางแผนการตลาด
สำหรับการวางแผนการตลาดถือเป็นการวางแผนกลยุทธ์ที่สำคัญมากๆอย่างหนึ่งเลย ซึ่งหากเราไม่มีการวางแผนหรือแบบแผนในการทำธุรกิจ แน่นอนว่าโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดในการทำธุรกิจได้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องมีการวางแผน กลยุทธ์การตลาดให้ดีและละเอียด ซึ่งหากมีการเขียนละเอียดมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อการทำธุรกิจมากเท่านั้น รวมถึงอาจมีการใช้กลยุทธ์การตลาดโดยใช้หลักการ 4 P ก็ได้เช่นกันค่ะ
3.กฎหมายและการจดทะเบียนต่างๆ
หากผู้เริ่มทำธุรกิจ SME มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายและการจดทะเบียนต่างๆเป็นอย่างดี นั้นถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆเลยอย่างหนึ่ง แต่หากไม่มีความรู้เกี่ยวกับงานด้านกฎหมายก็ควรที่จะหาผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายมาค่อยให้คำแนะนำหรือคำปรึกษา ในเรื่องของการจัดตั้งบริษัท กฎหมายภาษี และอื่นๆ ซึ่งหากธุรกิจเรามีผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องกฎหมายมาช่วยก็จะทำให้ขั้นตอนในการดำเนินงานต่างๆแต่ละขั้นตอนเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้นนั่นเองค่ะ
ให้ Packhai เป็นผู้ช่วยในธุรกิจสิ
ก็เป็นที่รู้กันดีว่าในปัจจุบันนี้มีผู้ให้ความสนใจกับธุรกิจ SME เป็นจำนวนมาก โดยได้มีการเริ่มปรับตัวเข้าสู่การขายสินค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงสินค้าได้ขึ้นมากเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่กิจการขนาดกลางและขนาดเล็กจะมียอดออเดอร์ที่พุ่งสูงขึ้น และอาจะทำให้มีพื้นที่ในการเก็บสินค้าที่ไม่พอเพียง
ดังนั้น Packhai บริษัทผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์ หรือ Fulfillment จึงถือเป็นผู้ช่วยที่ทำให้คุณสะดวกมากมายยิ่งขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยเก็บสต๊อกสินค้าแล้ว ก็ยังมีบริการแพ็ค จัดส่งและดูแลระบบหลังบ้านให้กับคุณอีกด้วย ทำให้คุณมีเวลาในการดูแลลูกค้าและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การขายให้ดียิ่งขึ้น และสำหรับใครที่สนใจที่จะเรียกใช้บริการ Fulfillment หรือ คลังเก็บสินค้าออนไลน์ กับทาง Packhai ก็สามารถทักเข้ามาสอบถามหรือขอคำปรึกษา/แนะนำกับทางเราได้ทางเว็บไซต์ Packhai.com ได้ตลอด 24 ชม.แบบไม่มีวันหยุด
