การขายของออนไลน์กลายเป็นกระแสซึ่งได้รับความนิยมล้มหลาม ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ผู้คนสามารถช้อปปิ้งออนไลน์ได้ง่ายผ่านโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว บวกกับการขนส่งที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน บริษัทขนส่งก็ จัดส่งสินค้าให้ถึงมือผู้รับ ทำให้อาชีพขายของออนไลน์มาแรงมีโอกาสเติบโตอย่างก้ามกระโดด อย่างไรก็ตามขายของไม่ได้ง่ายเสมอไป ใช่ว่าการขายสินค้าออนไลน์จะง่ายเสมอไป หลายคนต้องล้มเลิกเพราะขายของขาดทุน ไม่ได้กำไรตามเป้าที่กำหนด
ขายของขาดทุน
ขายของแล้วขาดทุน ปัญหาใหญ่ที่ธุรกิจต้องระวัง ทำไมขายของจึงขาดทุนเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ บางคนขาดทุนชนิดที่ไม่รู้ตัว ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าเข้ามาเยอะ ออเดอร์ปัง แต่กลับพบว่าตัวเองขาดทุนย่อยยับ บางครั้ง การที่ยอดขายสูง อาจไม่ได้การันตีว่าคุณจะได้กำไรเสมอไป หากคุณยังไม่มีระบบการจัดการที่ดีพอ ก็อาจต้องแบกรับต้นทุนมหาศาล
โดยเฉพาะต้นทุนที่เกิดจากข้อผิดพลาดในการทำงาน เช่น การบริหารจัดการคลังสินค้าที่ไม่มีประสิทธิภาพ การสต็อกสินค้ามากเกินความจำเป็นหรือสต็อกสินค้าน้อย สินค้าขาดสต็อกส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจทำให้สูญเสียกำไร รวมถึงการเช็คสต็อกผิด สินค้าเสียหาย หมดอายุ ฯลฯ การทำธุรกิจไม่ใช่มุ่งเน้นแค่การขายเพียงอย่างเดียวและระบบหลังบ้านต้องดีด้วย
วิธีคิดกําไร ขาดทุน
1. การคิดกำไรสุทธิ
การคิดกำไรสุทธิ หรือสูตรหากําไร ขาดทุน หาได้จากรายได้รวม – ค่าใช้จ่ายรวม = กำไรสุทธิ
โดยค่าใช้จ่ายรวม หมายถึง ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจ เช่น ค่าใช้จ่ายในการผลิต ค่าวัตถุดิบ ค่าใช้จ่ายในการบรรจุภัณฑ์ ค่าจ้างพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าทำการตลาดออนไลน์ ค่าเช่าที่ เป็นต้น นอกจากนั้นค่าเงินเดือนเจ้าของแบรนด์เอง ก็ถือเป็นค่าใช้จ่ายด้วยเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างการคำนวณหากำไรสุทธิ มีดังต่อไปนี้
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
การคิดกำไรสุทธิ | รายได้รวม – ค่าใช้จ่ายรวม = กำไรสุทธิ |
รายได้รวมจากยอดขายสินค้า | 50,000 บาท |
ต้นทุนสินค้า | 20,000 บาท |
เงินเดือนเจ้าของแบรนด์ | 15,000 บาท |
ค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น (ทำการตลาด ฯลฯ) | 8,000 บาท |
ค่าใช้จ่ายรวม | 43,000 บาท |
กำไรสุทธิต่อเดือน | 7,000 บาท |
การคำนวณสินทรัพย์ | สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนทุนของเจ้าของกิจการ |
การคำนวณกำไรสะสมปลายปี | กำไรสะสมปลายปี = กำไรสะสมต้นปี + กำไรสุทธิ – เงินปันผลจ่าย |
2. การคำนวณสินทรัพย์
การคำนวณหาสินทรัพย์ มีประโยชน์ในการวิเคราะห์โครงสร้างทางการเงิน ทำให้ทราบว่า สินทรัพย์ทั้งหมดของกิจการเป็นเท่าใด ซึ่งเกิดจากการลงทุน รวมการสร้างหนี เช่น การกู้ยืมเงินมาจากธนาคาร สูตรการคำนวณ คือ สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนทุนของเจ้าของกิจการ
3. การคำนวณกำไรสะสมปลายปี
การคำนวณกำไรสะสมปลายปี สูตรนี้ใช้ในทางบัญชี โดยทางบัญชีจะใช้เพื่อจัดทำงบกำไรสะสม งบนี้จะแสดงผลการดำเนินงานทั้งหมดตั้งแต่เริ่มกิจการ จนถึงงวดบัญชีปัจจุบัน ทำให้ทราบว่ามีกำไรสะสมมากน้อยเท่าไหร่ สูตรคือ กำไรสะสมปลายปี = กำไรสะสมต้นปี + กำไรสุทธิ – เงินปันผลจ่าย
4. การคำนวณค่าเสื่อมราคาแบบตรง
นอกจากการการคิดกําไร ขาดทุน จะสำคัญแล้ว การคำนวณค่าเสื่อมราคาแบบตรงก็สำคัญไม่น้อย เหมาะกับธุรกิจที่มีการลงทุนในสินทรัพย์ระยะยาว ยกตัวอย่างเช่น เครื่องจักร จำเป็นต้องคิดค่าเสื่อมราคาของเครื่องจักรด้วย ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ประเภทหนึ่ง ในทางบัญชี สมมติฐานว่า สินทรัพย์จะเสื่อมสภาพเมื่อระยะเวลาผ่านไป และมีการเสื่อมสภาพในอัตราที่เท่ากัน
เทคนิคขายของยังไงไม่ให้ขาดทุน
ขายของยังไงไม่ให้ขาดทุน รวมถึงการขายของออนไลน์ขาดทุนด้วย หลักการง่ายๆ จะต้องทำกำไรให้มากกว่าค่าใช้จ่ายนั่นเอง พ่อค้าแม่ค้าต้องสร้างยอดขายให้สูงกว่าค่าใช้จ่าย นอกจากนั้นยังต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น การบริหารจัดการระบบหลังบ้านที่ดี บริหารจัดการคลังสินค้าให้เกิดประสิทธิภาพ ไม่มีสินค้าค้างสต็อก มีการสต็อกสินค้าในปริมาณที่เหมาะสม การนำเทคโนโลยีหรือโปรแกรมจัดการคลังสินค้าเข้ามาช่วยเพื่อลดต้นทุนการจ้างงาน และยังช่วยให้การทำงานสะดวกรวดเร็ว ลดข้อผิดพลาดจากการทำงานได้ เป็นต้น สำหรับค่าใช้จ่ายที่คนขายของต้องคำนึงถึง มีอะไรบ้าง ให้พิจารณาต้นทุนและค่าใช้จ่ายมีดังต่อไปนี้
- ต้นทุนค่าสินค้าต้องทราบว่า ต้นทุนต่อชิ้นเท่าไหร่
- ค่าใช้จ่ายในการทำการตลาด เช่น การโปรโมท โฆษณา หรือยิงแอด
- ค่าเช่าพื้นที่ เช่น เช่าคลังสินค้า เช่าร้านขายของ รวมถึงการเช่าโฮสจดโดเมนในกรณีทีเว็บไซต์
- ค่าเงินเดินของผู้ประกอบการ อย่าลืมให้เงินเดือนตัวเองด้วยมากหรือน้อยอยู่ที่การพิจารณาตามความเหมาะสม
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น การวัสดุแพ็คสินค้า ค่าจ้างแรงงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเอกสาร ค่าน้ำมันเดินทางไปส่งของ ฯลฯ
ทดลองใช้บริการ Fulfillment
Fulfillment ตัวช่วยคนขายของออนไลน์ ที่ช่วยลดต้นทุนการขายสินค้า ลดเวลาการทำงาน มีเวลาโฟกัสยอดขายได้มากขึ้น
สมัครใช้บริการ คลิกดูค่าบริการPackhai Fulfillment Service ครบวงจร และมืออาชีพ
การทำธุรกิจออนไลน์ ต้องให้ความสำคัญกับการคิดกำไรขาดทุน กําไรขาดทุน สูตรง่ายๆ ที่เราแชร์ หวังว่าจะมีประโยชน์ สิ่งสำคัญเลยคือต้องรู้ว่า เรามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ต้นทุนมีเท่าไหร่ ได้กำไรมากน้อยเพียงใด คุ้มค่าหรือไม่ การคิดกำไรขาดทุนถือเป็นปัจจัยพื้นฐานของคนทำธุรกิจ เรื่องที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จำเป็นต้องรู้ สำหรับคนขายของออนไลน์ที่ ยอดขายปัง ถ้ามัวแต่ยุ่งยากวุ่นวายกับการจัดการคลังสินค้า บริหารคน แพ็คของ หรือต้องไปต่อคิวที่บริษัทขนส่ง คงไม่มีเวลาไปโฟกัสกับงานขายแน่นอน จะดีกว่าไหม ถ้าให้เราช่วย PACKHAI เราให้บริการคลังสินค้าออนไลน์ ที่ช่วยคุณประหยัดต้นทุนได้ เพราะเราให้บริการ เก็บ แพ็ค ส่งแบบครบวงจร ค่าบริการ Fufillment คิดตามจริง อีกทั้งยังช่วยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการขายของออนไลน์ด้วย ขายของออนไลน์อะไรดี 2567 ปรึกษาเราได้
- ค่าขนส่งเราคิดตามจริง
- ค่าบรรจุภัณฑ์เริ่มต้น 12 บาท
- ค่าจัดเก็บสินค้าเริ่มต้นเพียง 250 บาท/เดือน
- รับประกันสินค้าในกรณีสูญหาย 100%
- เข้ารับสินค้า ฟรี ถึงที่
- ใช้งานระบบหลังบ้าน ฟรี
ทดลองใช้บริการ Fulfillment Fulfillment ตัวช่วยคนขายของออนไลน์ ที่ช่วยลดต้นทุนการขายสินค้า ลดเวลาการทำงาน มีเวลาโฟกัสยอดขายได้มากขึ้น
PACKHAI ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์ที่ครบวงจร รับเก็บ แพ็คและจัดส่ง ทำให้คุณมีเวลาโฟกัสงานขายมากขึ้น ดูแลสินค้าให้อย่างดีภายใต้ WMS (ระบบคลังสินค้า) ที่มีประสิทธิภาพ ใช้งาน OMS (ระบบจัดการออเดอร์) ระบบหลังบ้านที่ดึงออเดอร์ได้ทุกแพลตฟอร์ม ดึง cf ไลฟ์สด ไม่พลาดทุกคำสั่งซื้อแน่นอน แถมยังดูรายงานยอดขาย เช็คสต็อกสินค้าได้เรียลไทม์
ติดต่อเรา PACKHAI : Packhai.com/contact
เบอร์โทร : 097-267-9487
เฟสบุ๊ค : Packhaiofficial
อีเมล : cs@packhai.com
ไลน์ : @packhai
ยูทูป : PACKHAI Fulfillment
ติ๊กตอก : @packhai