จดทะเบียนการค้าออนไลน์
การจดทะเบียนการค้าออนไลน์ หรือ การจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กับทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเพื่อรับรองการเป็นร้านค้าออนไลน์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ถือเป็นสิ่งที่ร้านค้าออนไลน์ทั้งหลายไม่ควรมองข้าม และควรไปยื่นขอจดทะเบียนให้เรียบร้อย แม้ว่าอาจจะต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายบ้างเล็กน้อย แต่ในการจดทะเบียนการค้าออนไลน์นั้นมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก แถมประโยชน์ที่ร้านค้าจะได้รับจากการจดทะเบียนร้านค้าออนไลน์ก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ต่อการประกอบธุรกิจในระยะยาว
จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือ การจดทะเบียนการค้าออนไลน์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อยืนยันว่าร้านค้านั้นมีตัวตนจริง มีข้อมูลที่สามารถตรวจสอบได้หากเกิดปัญหาขึ้น และได้รับการรับรองมาตรฐานตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ซึ่งการจดทะเบียนการค้าออนไลน์จะเปรียบเสมือนบัตรประชาชนของร้านค้าออนไลน์ ที่จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าได้ ทำให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจมากยิ่งขึ้นในการเข้ามาซื้อสินค้าจากร้านที่มีการจดทะเบียนการค้าออนไลน์
การจดทะเบียนการค้าออนไลน์ ใครต้องจดบ้าง
- ร้านค้าออนไลน์ ที่มีการซื้อขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ต้องมีการจดทะเบียนการค้าออนไลน์
- ผู้ให้บริการโครงข่ายอินเตอร์เน็ต (ISP) ต้องจดทะเบียนการค้าออนไลน์หรือ ทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
- ผู้ให้บริการหรือแพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลางในการซื้อขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ (E-commerce) ต้องจดทะเบียนการค้าออนไลน์
- ผู้ให้บริการ WebHosting ต้องจดทะเบียนการค้าออนไลน์
ขายของออนไลน์ต้องจดทะเบียนการค้าไหม ?
ในการขายของออนไลน์หรือทำธุรกิจออนไลน์นั้นถือเป็นการค้าเชิงพาณิชย์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งจำเป็นจะต้องจดทะเบียนการค้าออนไลน์ให้ถูกต้อง เพราะหากไม่จดทะเบียนแล้วมีการตรวจสอบเจอภายหลัง ก็อาจจะทำให้มีความผิดตามกฎหมายได้ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของร้านค้าได้ ดังนั้นจึงควรเสียสละเวลาซักเล็กน้อย แล้วไปจดทะเบียนการค้าออนไลน์ให้เรียบร้อยจะดีกว่า เพื่อผลประโยชน์และความสบายใจของทั้งตัวร้านค้าเอง รวมถึงตัวผู้บริโภคด้วย
จดทะเบียนการค้าออนไลน์ ดีอย่างไร
- การจดทะเบียนพาณิชย์ออนไลน์ เป็นการรับรองมาตรฐานให้กับร้านค้าได้ ว่าร้านนี้มีตัวตนจริงสามารถตรวจสอบได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย การจดทะเบียนการค้าออนไลน์ช่วยให้ร้านค้ามีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นในสายตาของผู้บริโภค
- สำหรับร้านค้าที่ทำการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เรียบร้อยแล้ว สามารถยื่นขอ DBD Registered และ DBD Verified ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้ายิ่งขึ้นไปอีก
- ร้านค้าที่จดทะเบียนการค้าออนไลน์แล้ว จะถูกนำชื่อร้านไปแสดงบนเว็บไซต์ของกรมธุรกิจการค้า เพื่อเป็นการช่วยโปรโมทร้านค้า และยังสามารถเข้าร่วมหลักสูตรต่างๆ ที่กรมธุรกิจการค้าจัดขึ้นได้อีกด้วย
จดทะเบียนการค้าออนไลน์ใช้เอกสารอะไรบ้าง
สำหรับ เอกสารจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่จำเป็นต้องเตรียมให้พร้อมก่อนจดทะเบียนการค้าออนไลน์
มีดังนี้
1.สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของร้านค้าออนไลน์
2.กรอกแบบฟอร์มจดทะเบียนพาณิชย์ที่ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์กรมธุรกิจการค้า โดยหากเป็นบุคคลธรรมดาให้กรอกข้อ 1 – 8 สำหรับร้านค้าที่เป็นนิติบุคคลให้กรอก ข้อ 1 – 8 และข้อ 12
3.กรอกเอกสารประกอบการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้ครบถ้วน
4.ปริ้นท์หน้าแรกของเว็บไซต์ร้านค้า สินค้าหรือบริการของร้านค้า วิธีการสั่งซื้อ วิธีการชำระค่าเงิน รวมถึงวิธีการจัดส่งสินค้าหรือบริการ
5.แผนที่ตั้งของร้านค้า
6.หนังสือการจดทะเบียนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน
วิธีจดทะเบียนการค้าออนไลน์ มีขั้นตอนอย่างไร
1.ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าร้านค้าหรือธุรกิจของเรานั้น อยู่ในกลุ่มที่จะต้องจดทะเบียนการค้าออนไลน์หรือไม่
2.ทำการสร้างเว็บไซต์หรือหน้าร้านออนไลน์ เพื่อใช้ในการขายสินค้าหรือบริการ โดยสามารถจะสร้างเว็บเอง หรือใช้บริการ เว็บขายของออนไลน์ สำเร็จรูปก็ได้เช่นกัน
3.ทำการยื่นเรื่องขอจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
4.หลังจากจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว สามารถยื่นขอเครื่องหมาย DBD Registered จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้
จดทะเบียนการค้าออนไลน์ ที่ไหนได้บ้าง
จดทะเบียนการค้าออนไลน์ภายในกรุงเทพฯ
หากร้านค้าหรือสถานประกอบการอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ สามารถไปยื่นขอจดทะเบียนการค้าออนไลน์ได้ที่ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือไปยื่นขอจดได้ที่สำนักงานเขตพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับที่ตั้งของร้านค้า
จดทะเบียนการค้าออนไลน์ในพื้นที่ต่างจังหวัด
หากร้านค้าหรือสถานประกอบการตั้งอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดอื่นๆ จะสามารถไปยื่นขอจดทะเบียนการค้าออนไลน์ได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หรือเทศบาล ที่สถานประกอบการนั้นตั้งอยู่
ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการค้าออนไลน์
สำหรับค่าธรรมเนียมในการยื่นขอจดทะเบียนการค้าออนไลน์จะอยู่ที่ 50 บาท เท่านั้น !
ซึ่งถือว่าถูกมากๆ แถมยังไม่ได้มีขั้นตอนที่ยุ่งยากอะไร เพียงแค่อาจต้องเสียเวลานิดหน่อยในการรอให้ดำเนินการตามขั้นตอนเท่านั้น และหากในอนาคตอาจจะต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูลบางรายการของการจดทะเบียน หรือหากอยากจะปิดร้านค้าออนไลน์ ก็สามารถยื่นเรื่องขอเปลี่ยนแปลงข้อมูล และยกเลิกการจดทะเบียนได้ง่ายๆ โดยเสียค่าธรรมเนียมเล็กน้อยเพียง 20 บาท
ในการเปิดร้านค้าออนไลน์หรือทำธุรกิจออนไลน์อื่นๆ ที่เข้าข่ายต้อง จดทะเบียนการค้าออนไลน์ และยิ่งหากเป็นร้านค้าที่มีเว็บไซต์หน้าร้านเป็นของตัวเองแล้วล่ะก็ ควรจะต้องรีบไปยื่นขอจดทะเบียนให้เรียบร้อย เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นการการันตีอีกด้วยว่าร้านค้าของเรานั้นมีตัวตน ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้าน และยังเป็นการช่วยโปรโมทให้คนเข้ามาซื้อสินค้าหรือบริการมากขึ้นอีกด้วย
ธุรกิจ E-commerce อย่างการขายของใน Shopee หรือ เปิดร้านใน Lazada นั้นเติบโตอย่างมากในปัจจุบัน ถือเป็นโอกาสสำคัญของร้านค้าออนไลน์ทั้งหลายในการเพิ่มยอดขายของตัวเองได้ ซึ่งนอกจากการจดทะเบียนการค้าออนไลน์ให้ถูกต้องแล้ว ยังมีงานด้านการบริหาร การตลาด และงานอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องทำ แต่จะดีแค่ไหนถ้ามี บริการคลังสินค้าออนไลน์แบบ Fulfillment ที่จะเข้ามาช่วยดูแลจัดการงานด้านการจัดเก็บสินค้า จัดเตรียมสินค้าตามออเดอร์ แพ็คและจัดส่งสินค้าให้ โดยที่ร้านค้าไม่ต้องเสียเวลามานั่งทำทุกอย่างเองเลย คลิกอ่านข้อดี-ข้อเสียของบริการ Fulfillment ได้เลยที่นี่ : ข้อดี-ข้อเสีย Fulfillment หรือจะสอบถามข้อมูลกับ PACKHAI ผ่านช่องทางด้านล่างก็ได้เช่นกัน