ระบบหลังบ้าน
ปัจจุบันคำว่า ระบบหลังบ้าน เป็นคำที่เราเริ่มได้ยินกันบ่อยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่อยากทำหรือกำลังทำธุรกิจ ทั้งธุรกิจออนไลน์และธุรกิจแบบมีหน้าร้าน เนื่องจากระบบหลังบ้านร้านค้าออนไลน์นั้นเป็นตัวช่วยที่จะทำให้คุณสามารถทำงานได้ง่ายมากขึ้น จึงเป็นระบบที่ธุรกิจควรจะรู้จักและให้ความสำคัญ
เนื่องจากจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายๆ คนที่ประสบความสำเร็จและมียอดขายมาก ก็ล้วนแล้วแต่มีระบบจัดการหลังบ้านเป็นส่วนสำคัญในการช่วยจัดการงานต่างๆ ทั้งนั้น จึงไม่แปลกที่ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าออนไลน์ขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก ต่างก็มีการนำระบบนี้มาใช้งานกันอย่างแพร่หลาย
ระบบหลังบ้าน คืออะไร
ระบบหลังบ้าน คือ ระบบจัดการหลังบ้านที่ช่วยทำให้คุณสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น สามารถขายสินค้าได้ดีไม่ต้องเครียดและกังวลว่าจะส่งสินค้าไม่ทัน ซึ่งในปัจจุบันนี้ระบบจัดการหลังบ้านได้รับความนิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือในการทำธุรกิจออนไลน์ตามช่องทางต่างๆ ทำให้เรื่องการขายสินค้าออนไลน์เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น
ระบบหลังบ้านที่ดี ต้องมีลักษณะอย่างไรบ้าง
1.ระบบหลังบ้านที่ดีต้องเชื่อมต่อได้หลายช่องทาง
สำหรับลักษณะของระบบหลังบ้านที่ดีควรจะมีก็คือ ความสามารถในการเชื่อมต่อได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นช่องทาง Facebook Lazada หรือ Shopee ซึ่งความสามารถในการเชื่อมต่อได้หลายช่องทางนั้น จะช่วยทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายมากขึ้นด้วยเช่นกัน
บทความอื่นที่น่าสนใจ:
- 5 แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ ที่ขายง่ายลูกค้าเยอะ เป็นที่นิยมในตอนนี้
- รู้จัก “TikTok Shop” เทรนด์แพลตฟอร์มขายของออนไลน์ ที่กำลังมาแรง ตัวช่วยเพิ่มยอดขายของธุรกิจยุคนี้
2.ระบบหลังบ้านที่ดีต้องใช้งานได้ง่าย
ลักษณะของระบบหลังบ้านที่ดี คือต้องสามารถใช้งานได้ง่าย มีขั้นตอนใช้งานที่ไม่ซับซ้อน อีกทั้งไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเข้ามาทำการเช็คข้อมูลผ่านมือถือได้ตลอด 24 ชม. ซึ่งข้อนี้ถือเป็นข้อที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน
3.ระบบหลังบ้านที่ดีต้องมีฟังก์ชั่นจัดการออเดอร์
สำหรับข้อนี้เป็นข้อหลักที่ระบบหลังบ้านออนไลน์ทุกร้านต้องมี เพราะการมีฟังก์ชั่นการจัดการออเดอร์ จะทำให้สามารถติดต่อสถานะของสินค้าได้ตลอดเวลา เป็นการป้องกันสินค้าเกิดสูญหาย
คลิกอ่านเพิ่มเติม: ระบบ Order Management System คืออะไร ? มีประโยชน์กับร้านค้าออนไลน์ยังไงบ้าง
4.ระบบหลังบ้านที่ดีต้องมีฟังก์ชั่นจัดสต๊อกสินค้า
การจัดสต๊อกสินค้าถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและระบบจัดการหลังบ้านควรมี เพื่อทำการเชื่อมต่อข้อมูลสินค้าในสต๊อกเข้ากับระบบหลังบ้านออนไลน์ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจรู้ข้อมูลของสินค้า และสามารถนำมาใช้พยากรณ์หรือวางแผนการขายได้
5.ระบบหลังบ้านที่ดีต้องรายงานสรุปข้อมูลได้
สำหรับรายงานสรุปนั้นก็เป็นลักษณะของระบบหลังบ้านที่ดีควรมีด้วยเช่นกัน เพราะจะช่วยทำการสรุปยอดขายสินค้า รายงานสต๊อก รายงานสินค้าที่ขายดี การขาดทุน-กำไร ทำให้คุณสามารถมองเห็นภาพรวมของบริษัทได้เป็นอย่างดี
6.ระบบหลังบ้านที่ดีต้องเชื่อมกับระบบคลังจัดเก็บสินค้าได้
การเชื่อมต่อกับระบบคลังจัดเก็บสินค้าได้ ถือเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เพราะคุณจะได้สามารถเช็คสต๊อกสินค้าได้ตลอด โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปยังโกดังเก็บสินค้า เรียกได้ว่าเป็นฟังก์ชั่นของระบบหลังบ้านร้านค้าออนไลน์ที่ควรจะมีเลยก็ว่าได้
คลิกอ่านเพิ่มเติม : 7 ประโยชน์ของการจัดการคลังสินค้า ที่ส่งผลดีต่อพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในยุคนี้
ข้อดีของการมีระบบจัดการหลังบ้าน
1.สามารถเช็คสินค้าได้ทันที
เพราะไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน คุณก็สามารถเข้ามาทำการเช็คสต๊อกสินค้าได้ เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตและมือถือเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นระบบหลังบ้านขายของออนไลน์ที่สะดวกสุดๆ
2.ข้อมูลไม่กระจาย
เพราะระบบหลังบ้านได้ทำการรวบรวมข้อมูลการสั่งซื้อสินค้าผ่านทุกช่องทางไว้ที่เดียว ทำให้มีความสะดวกในการจัดส่งสินค้าที่ง่ายมากขึ้น
3.สินค้าไม่สูญหาย
เนื่องจากระบบหลังบ้าน มีช่องทางในการติดตามพัสดุ ทำให้คุณสามารถเช็คสถานะของพัสดุหรือสินค้าได้ตลอดเวลา ทำให้ไม่เกิดการสูญหายอย่างแน่นอน
4.สรุปยอดขายได้ทันที
เพราะการขายสินค้าออนไลน์นั้นหากทำคนเดียวเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ระบบหลังบ้านจึงเป็นผู้ช่วยที่ดี และเมื่อทำการขายสินค้าคุณก็ไม่ต้องนั่งสรุปยอดสินค้าเอง เนื่องจากระบบจัดการร้านค้าจะทำการสรุปยอดให้กับคุณทันที
หากมีระบบหลังบ้าน จะเป็นการเพิ่มต้นทุนให้กับธุรกิจไหม?
สำหรับระบบจัดการหลังบ้านออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลาง หรือขนาดใหญ่ ก็ควรที่จะมีระบบจัดการหลังบ้านที่ดี เพื่อที่คุณจะได้สามารถทำงานได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น แถมมีเวลาในการโฟกัสกับลูกค้ามากขึ้นด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกใช้ระบบหลังบ้านที่ดี ก็ควรจะเลือกใช้ให้เหมาะสมกับขนาดของธุรกิจด้วยเช่นกันนั่นเอง
ระบบหลังบ้านออนไลน์ มีวิธีการเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสม
1.เลือกใช้บริการระบบหลังบ้านให้เหมาะสมกับงบประมาณและขนาดของธุรกิจ
2.เลือกใช้บริการระบบจัดการหลังบ้านกับบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ
3.เลือกใช้บริการระบบดูแลหลังบ้านที่สามารถใช้งานได้ง่าย และสะดวก
4.เลือกใช้บริการระบบที่สามารถจัดการออเดอร์ จัดการสต๊อกสินค้า พร้อมสรุปรายงาน และสามารถเชื่อมต่อได้หลายแพลตฟอร์ม
ก็จะเห็นได้ว่า ระบบหลังบ้าน นั้นมีความสำคัญและจำเป็นสำหรับการขายสินค้าออนไลน์เป็นอย่างมาก เนื่องจากการมีระบบจัดการหลังบ้านจะเข้ามาช่วยให้การทำงานต่างๆ เป็นระบบระเบียบมากขึ้น ธุรกิจจึงสามารถตรวจสอบและเข้าถึงข้อมูลของสินค้าได้แบบเรียลไทม์ จึงถือเป็นระบบที่ธุรกิจออนไลน์ยุคนี้ควรมี
แต่เมื่อธุรกิจมียอดขายที่เพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าธุรกิจไม่สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียว ดังนั้นการมองหาตัวช่วยที่จะเข้ามาดูแลจัดการงานต่างๆ หลังบ้านให้เป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้ธุรกิจมีเวลาเหลือไปทำงานอื่นที่มีความสำคัญมากกว่าอย่างงานขาย หรือทำการตลาด ซึ่งตัวช่วยหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากๆ ในหมู่คนทำธุรกิจขายของออนไลน์ ก็คือคลังสินค้าออนไลน์ Fulfillment จาก Packhai ที่เป็นบริการคลังจัดเก็บสินค้าแบบครบวงจร ช่วยดูแลงานหลังบ้านให้กับธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการจัดเก็บ แพ็ค ไปจนถึงจัดส่งสินค้า – อยากรู้ว่า Fufillment BY Packhai ดียังไง? -> คลิกที่นี่