Lead time คือ

“เวลา” เป็นสิ่งที่มีค่ามากๆ ซึ่งเราต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในกระบวนการผลิต ก็เช่นเดียวกัน เวลา ถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่าปัจจัยอื่นๆ วันนี้เราจะพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ Lead Time โดย Lead Time คือ ช่วงเวลาในการผลิต หมายถึง ช่วงเวลาตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดกระบวนการผลิต ตั้งแต่กระบวนการนำเข้าวัตถุดิบ การสร้างชิ้นงาน จนถึงการ QC ตรวจสอบชิ้นงาน Lead Time ในแต่ละกิจการอาจไม่เหมือนกันขึ้นอยู่ที่ว่าโรงงานนั้นๆ จะมีกระบวนการที่แตกต่างหรือแยกย่อยกันออกไปอย่างไร

การคำนวณหา Lead Time จะทำให้ผู้ประกอบการเห็นประสิทธิภาพของโรงงานตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณต้นทุนในการทำงาน การประเมินระยะเวลาการทำงานก่อนมอบงานให้ลูกค้า ไปจนถึงการตรวจสอบจุดอ่อนและจุดแข็งของโรงงาน วันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าประเภทของ Lead Time มีอะไรบ้างและเราจะลด Lead Time ในกระบวนการผลิตได้อย่างไร เพราะยิ่งมี Lead Time สั้นเท่าไหร่ ก็เท่ากับว่า กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพมากเท่านั้น

ประเภทของ lead Time มีอะไรบ้าง

โดยหลักๆ แล้ว Lead Time จะแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังต่อไปนี้

• Customer Lead Time : ช่วงเวลาตั้งแต่การยืนยันคำสั่งซื้อ จนถึงได้รับสินค้า 
• Customer Lead Time : ช่วงเวลาตั้งแต่การยืนยันคำสั่งซื้อ จนถึงได้รับสินค้า 
• Production Lead Time : ช่วงเวลาในกระบวนการสร้างชิ้นงาน เมื่อวัตถุดิบพร้อม
• Cumulative Lead Time : ช่วงเวลาสะสมตั้งแต่การยืนยันคำสั่งซื้อจนถึงการสร้างชิ้นงานและส่งมอบสินค้า

จริงๆ แล้ว Lead Time ยังมีรูปแบบอื่นๆ ที่ให้เห็นกันมากมาย ขึ้นอยู่กับการตีความของแต่ละฝ่าย จึงทำให้สูตรการคำนวณ Lead time ไม่ค่อยตายตัวนัก โดยส่วนใหญ่แล้วจะนับเวลารวมกระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มจนจบมากกว่าและจะมีการปรับเปลี่ยนไปตามการทำงานจริงในแต่ละกิจการนั้นๆ

วิธีลด lead Time เพื่อเสริมสร้างเวลาในการผลิต

วิธีการลด Lead Time ในการผลิตสามารถทำได้ด้วยการวางแผนการทำงานที่เกี่ยวข้องกับทุกกระบวนการ เพื่อดูว่าจุดไหนบกพร่องหรือมีข้อบกพร่องในส่วนใดบ้าง จนนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไข สำหรับวิธีการลด Lead Time สามารถทำได้หลากหลายวิธี ยกตัวอย่างเช่น

ลดความซับซ้อนของชิ้นส่วนประกอบหรือวัตถุดิบ

ในกรณีที่สินค้าหรือ Product จะต้องประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนเล็กๆ น้อยๆ รวมกันหลายๆ ชิ้น อาจทำให้ชิ้นงานมีความซับซ้อนมากขึ้น จึงทำให้มีกระบวนการผลิตที่หลายขั้นตอนและมี Lead Time เพิ่มมากขึ้นด้วย ดังนั้น ให้พิจารณาว่าชิ้นส่วนไหนสามารถสั่งจาก Supplier ได้ โดยไม่จำเป็นต้องผลิตเองทั้งหมด

ยกเลิกขั้นตอนที่ไม่ก่อให้เกิดมูลค่า

ยกเลิกขั้นตอนหรือกิจกรรมต่างๆ ที่ไม่ทำให้เกิดมูลค่า โดยให้ตรวจสอบขั้นตอนการผลิตต่างๆ ว่ามีขั้นตอนใดซับซ้อนเกินความจำเป็นหรือไม่ มีขั้นตอนใดบ้างที่ไม่ก่อให้เกิดผลิตผล โดยเฉพาะในระยะก่อนดำเนินกระบวนการ ที่มักจะเป็นการตกลงการหรือส่งต่อออเดอร์ โดยอาจแก้ไขได้ด้วยการใช้ระบบอัตโนมัติและลดขั้นตอนการเดินเรื่องหรือเดินเอกสารต่างๆ

ทำงานอย่างมีมาตรฐาน

ควรจัดลำดับการดำเนินงานให้มีมาตรฐานเดียวกันและต้องมีการระบุลำดับขั้นตอนต่างๆ ไว้อย่างชัดเจนด้วย รวมถึงการสื่อสารให้พนักงานทุกคนรับทราบและปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกัน จะช่วยลดความสับสนและลดระยะเวลาการตัดสินใจในการดำเนินงานลง

วางสายการผลิตให้สามารถทำงานคู่ขนานกันได้อย่างเป็นระบบ

ถึงแม้ว่าเครื่องจักรที่มีขนาดใหญ่จะมีประสิทธิภาพในการทำงานได้ครบทั้งกระบวนการ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไปเพราะจริงๆ แล้วการแบ่งสายการผลิตออกเป็นหลายๆ สาย โดยแต่ละสายสามารถทำงานไปพร้อมกันได้ และรอไปประกอบกันภายหลัง อาจช่วยลด Lead Time ในการผลิตลงได้มากกว่า

ลดขั้นตอนในการทำงาน

ตรวจสอบกระบวนการทำงานอยู่เรื่อยๆ จะทำให้เราสังเกตเห็นว่ากระบวนการใดใช้เวลาเท่าไหร่ เมื่อพิจารณาดูแล้วพบว่าขั้นตอนที่ใช้ระยะเวลาเกินจำเป็น ควรหาวิธีหรือพยายามลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นออกไปหรือแทนที่จะผลิตเอง ก็สามารถสั่งมาจาก Supplier ได้

หลังจากการผลิตก็ต้องต่อด้วยการจัดเก็บ ซึ่งต้องใช้คลังสินค้าที่ดีที่สุด

จากทั้งหมดที่เราได้กล่าวไปในข้างต้น เชื่อว่าหลายๆ คนคงเข้าใจแล้วว่า Lead time คืออะไร ประเภทของ Lead Time มีอะไรบ้างและจะลด Lead Time ได้อย่างไร หลังจากการผลิตจบลงแล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือการจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้า ถ้าจัดเก็บไม่เป็นระบบ ก็อาจทำให้มี Lead Time ในการหยิบสินค้า แพ็คสินค้าเพื่อจัดส่งได้ โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งมีคลังสินค้าเป็นของตนเองหรือใช้บริการคลังสินค้าให้เช่า แต่สำหรับคนทำธุรกิจค้าขาย โดยเฉพาะขายสินค้าออนไลน์ต่างๆ ที่ไม่มีเงินลงทุนสร้างคลังสินค้าเป็นของตนเอง หรือมีงบประมาณจำกัด แนะนำให้ใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์หรือ Fulfillment จะดีกว่าเพราะตอบโจทย์ได้มากกว่า ประหยัดกว่าและคุ้มกว่าด้วย

Packhai ผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์ที่มีชื่อเสียงและเชื่อถือได้ ให้บริการแบบครบวงจร พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถนำสินค้ามาฝากเก็บในคลังได้ เพราะที่นี่มีคลังสินค้าให้เช่าด้วยระบบ Fulfillment ช่วยจัดเก็บสินค้าของคุณให้มีความปลอดภัยมีการบริหารจัดการสินค้าอย่างดี ตรวจและนับสินค้าด้วยระบบคิวอาร์โค้ด ซึ่งทำให้ง่ายต่อการหยิบสินค้า นอกจากนั้นก็ยังมีระบบหลังบ้าน เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทำงานง่ายขึ้นสามารถตรวจเช็คสต๊อกสินค้า ลงออเดอร์ ดูยอดขาย แม้แต่ดูรายงานการวิเคราะห์ต่างๆ ก็สามารถทำได้

เท่านั้นยังไม่พอ Packhai ยังให้บริการแพ็คสินค้า โดยพนักงานมืออาชีพที่รับการอบรมมาเป็นอย่างดี แพ็คสินค้าได้รวดเร็วและแพ็คอย่างมีคุณภาพ มั่นใจได้เลยว่าสินค้าของคุณจะไม่ได้รับความเสียหายในระหว่างการจัดส่ง 100% นอกจากให้บริการแพ็คสินค้าแล้ว ที่นี่ก็ยังให้บริการจัดส่งสินค้า โดยคุณไม่ต้องไปต่อคิวที่บริษัทขนส่งด้วยตนเอง เพราะที่นี่ให้บริการอย่างครบครัน

มองหาผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์เลือก Packhai ดีที่สุด บริการเก็บ แพ็คและจัดส่ง รวมไว้ในจุดเดียวกัน มีระบบหลังบ้านที่ทันสมัย มี API ที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบหลังบ้านของคุณได้ทุกระบบ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ไม่ต้องปวดหัวเรื่องการจ้างงานไม่ต้องคำนวณ Lead time ให้ยุ่งยาก แถมยังมีเวลาไปโฟกัสกับการขายมากขึ้นด้วย