Soft Skill
แม้ว่าทักษะส่วนใหญ่ที่จำเป็นต้องใช้ในการขายของออนไลน์ จะเป็นทักษะหรือความสามารถเฉพาะทางในด้านการประกอบธุรกิจ เช่น ความรู้ด้านการตลาด การบริหาร การขาย หรือการผลิตสินค้า เป็นต้น โดยจะเป็นทักษะที่ทำให้ได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการ รวมถึงทำให้สามารถปิดการขายได้
แต่หากร้านค้าออนไลน์ต้องการที่จะเพิ่มยอดขายให้สูงขึ้น ก็จำเป็นจะต้องมีทักษะที่เรียกว่า “ Soft Skill ” เพิ่มเข้ามาด้วย เพื่อให้สามารถดำเนินงานธุรกิจไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยให้สามารถอยู่รอดในตลาดออนไลน์ที่มีการแข่งขันกันสูงได้อีกด้วย
Soft Skill คืออะไร
Soft Skill คือ ทักษะทางด้านความฉลาดทางอารมณ์ ที่ช่วยให้สามารถรับมือกับปัญหาต่างๆ และทำงานร่วมกับคนอื่นได้ดีมากขึ้น โดยจะถือเป็นทักษะเฉพาะตัวของแต่ละคน ที่เกิดจากการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ที่เคยพบเจอ
ซึ่งทักษะเหล่านี้ไม่ได้มีสอนในโรงเรียนหรือมหาลัย แต่สามารถฝึกฝนหรือพัฒนาขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง สำหรับ Soft Skill นั้นไม่ได้มีผลต่อการทำงานโดยตรง แต่จะเป็นทักษะที่ช่วยสนับสนุนให้การทำงานนั้นสามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Soft Skills ที่คนขายของออนไลน์ควรมี มีอะไรบ้าง
1. ทักษะการปรับตัว (Adaptability)
ทักษะการปรับตัวถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากในยุคนี้ โดยเฉพาะในการขายของออนไลน์ ที่มีการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์หรือเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ทำให้เจ้าของธุรกิจต้องมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับความสนใจของคนในสังคมอยู่ตลอดเวลา เพราะหากไม่มีการปรับตัวอะไรเลย ก็อาจจะทำให้สินค้าของร้านไม่ได้รับความนิยมหรือความสนใจจากลูกค้า ซึ่งจะส่งผลให้มียอดขายลดลง และไม่สามารถแข่งขันกับร้านค้าอื่นได้
2. ทักษะการสื่อสาร (Communication)
ในการขายของออนไลน์จำเป็นต้องมีการแชท เพื่อพูดคุยหรือตอบคำถามของลูกค้าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ดังนั้นการมีทักษะการสื่อสารที่ดี ก็จะยิ่งช่วยให้ร้านค้าสามารถพูดคุย และเสนอขายสินค้าหรือโปรโมชั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยหากร้านค้ามีการตอบแชทลูกค้าที่รวดเร็วและมีความสม่ำเสมอ ก็จะเป็นการช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือได้อีกทางหนึ่งด้วย นอกจากนี้ยังสามารถใช้ทักษะการสื่อสารในการเจรจาทางธุรกิจกับผู้จัดหาวัตถุดิบ หรือโรงงานผลิตสินค้าได้
3. ทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
การขายของออนไลน์สามารถเริ่มต้นได้ง่ายมากในยุคนี้ ทำให้มีร้านค้าใหม่ๆ พากันผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด และร้านค้าส่วนใหญ่ก็มักนำสินค้าที่คล้ายกันมาขาย ลูกค้าจึงนิยมเลือกซื้อร้านที่มีราคาต่ำสุด ส่งผลให้มีการแข่งขันกันสูง แต่หากพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มีทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นมา ก็จะช่วยสร้างไอเดียใหม่ๆ ในการผลิตหรือเลือกสินค้ามาขายได้ สินค้าในร้านก็จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากคู่แข่งรายอื่น
4. ทักษะการทำงานเป็นทีม (Collaboration)
การขายของออนไลน์ในช่วงแรกที่เริ่มเปิดร้าน เจ้าของร้านก็อาจจะเป็นคนดูแลงานทุกส่วนเองทั้งหมด แต่เมื่อกิจการเริ่มเติบโตและมียอดขายที่เพิ่มขึ้น ก็จะส่งผลทำให้งานที่ต้องทำนั้นมีจำนวนมากขึ้นด้วย จึงจำเป็นต้องมีการจ้างพนักงานมาช่วยทำงาน ซึ่งหากมีทักษะการทำงานเป็นทีม ก็จะช่วยให้เจ้าของร้านสามารถบริหารพนักงาน และทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
5. ทักษะการจัดการเวลา (Time Management)
งานที่ร้านค้าออนไลน์ต้องทำในแต่ละวันนั้นอาจมีจำนวนมากจนล้นมือ ไม่ว่าจะเป็นการรับออเดอร์ ตอบแชทลูกค้า แพ็คและจัดส่งสินค้า ฯลฯ ซึ่งหากไม่มีการจัดการเวลา หรือจัดลำดับงานได้ไม่ดีพอว่างานไหนควรทำก่อน – หลัง ก็อาจจะส่งผลให้ทำงานได้ไม่ทันตามกำหนด หรืออาจส่งของให้กับลูกค้าล่าช้าได้ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ และความน่าเชื่อถือของร้านค้า ดังนั้นการมีทักษะการจัดการเวลาจึงถือว่ามีความสำคัญอย่างมากเลย
6. ทักษะการตัดสินใจ (Decision Making)
การตัดสินใจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ในการทำธุรกิจขายของออนไลน์ เช่น การตัดสินใจจัดแคมเปญลดราคาสินค้า หรือการตัดสินใจเลือกแหล่งในการซื้อสินค้า เป็นต้น ซึ่งจำเป็นต้องทำการตัดสินใจโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่มี และควรตัดสินใจอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้นในภายหลัง และเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุกิจการมากที่สุด
7. ทักษะการแก้ไขปัญหา (Problem Solving)
ในแต่ละวันร้านค้าออนไลน์จะต้องรับมือกับปัญหาต่างๆ มากมายที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำงาน ซึ่งหากเป็นปัญหาที่ไม่ได้มีความซับซ้อนมาก ก็อาจจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แต่หากเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อน และส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในภาพรวม ก็จำเป็นต้องอาศัยทักษะการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ เข้ามาใช้ในการวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหา คิดหาวิธีการแก้ไข และวิธีการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหานั้นขึ้นอีกในอนาคต